พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 15/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 3-9 ก.พ. 2549
ในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลงกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกและคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีความสูงประมาณ 2 เมตร ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีหมอกเพิ่มหลายพื้นในตอนเช้า สำหรับในภาคเหนือจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกพาดผ่านทำให้มีฝนตกบางพื้นที่ทางตอนบนของภาค ในช่วงวันที่ 8-9 ก.พ. จะมีความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง
ข้อควรระวัง
ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.ในอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรงขึ้นต่อเนื่อง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
ในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ. มีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้าทางตอนบนของภาคมีฝนเล็กน้อยบางแห่งและอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 ซ. ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 ซ. สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 ซ. ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. มีฝนบางแห่งทางตอนบน ของภาค กับมีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้า ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ. มีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้าทางตอนบนของภาคมีฝนเล็กน้อยบางแห่งและอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 ซ. ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 ซ. สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 ๐ซ. ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. มีฝนบางแห่งทางตอนบน ของภาค กับมีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้า ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งในช่วงนี้ เพราะอาจจะเสียหายเนื่องจาก ฝนที่ตก นอกจากนี้ควรนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรคลุมโคนต้นพืชเพื่อสงวนความชื้นในดิน ส่วนผู้ที่ปลูกพืชตระกูลถั่วควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้างด้วย
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 2-3 ๐ซ. กับมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21๐ซ. สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 ซ. ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น และมีหมอกเพิ่มขึ้น ในตอนเช้า ในช่วงวันที่ 8-9 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 ๐ซ. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 2-3 ๐ซ. กับมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21๐ซ. สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 ซ. ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น และมีหมอกเพิ่มขึ้น ในตอนเช้า ในช่วงวันที่ 8-9 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 ซ. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็กเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ส่วนผู้ที่ปลูกมะเขือเทศควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด
กลาง
ในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ. ตอนบนของภาคมีหมอกกับอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 ซ. ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้า ในช่วงวันที่ 8-9 ก.พ.อุณหภูมิจะลดลง
ในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ. ตอนบนของภาคมีหมอกกับอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 ซ. ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้า ในช่วงวันที่ 8-9 ก.พ.อุณหภูมิจะลดลง เนื่องจากจะมีหมอกหลายพื้นที่ ชาวสวนมะม่วงควรระวังและป้องกันการระบาดของเชื้อรา ซึ่งจะทำให้การติดผลลดลง ส่วนผู้ที่ปลูกองุ่นควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้างด้วย
ตะวันออก
ในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ. ในตอนเช้ามีหมอกและอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-23๐ซ. ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. อุณหภูมิ จะสูงขึ้นและมีหมอกเพิ่มขึ้น ในช่วงวันที่ 8-9 ก.พ.อุณหภูมิลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ. ในตอนเช้ามีหมอกและอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-23๐ซ. ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. อุณหภูมิ จะสูงขึ้นและมีหมอกเพิ่มขึ้น ในช่วงวันที่ 8-9 ก.พ.อุณหภูมิลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ระยะนี้ อากาศแห้ง ชาวสวนควรดูแลให้น้ำแก่ไม้ผลอย่างเพียงพอด้วย รวมทั้งควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ในพืชผักและพืชไร่
ใต้
ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 3-7 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 ๐ซ. และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ในช่วงวันที่ 8-9 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30 %ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีเมฆบางส่วน ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 3-7 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 ๐ซ. และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ในช่วงวันที่ 8-9 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30 %ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีเมฆบางส่วน ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้ปริมาณฝนที่ตกมีน้อย ดังนั้นเกษตรกรควรเก็บกักน้ำสำรองไว้และวางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนผู้ที่ปลูกกาแฟควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนเจาะกิ่งไว้ด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-