บทสรุปผู้บริหาร
ภาวะเศรษฐกิจการคลังโดยรวมในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ภายนอกประเทศที่ขยายตัวได้ดีมาก แม้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราชะลอลง ทั้งนี้ ในภาคเศรษฐกิจการคลัง รายได้จากฐานรายได้และฐานการบริโภคยังคงขยายตัวในระดับสูง แต่มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า สำหรับเศรษฐกิจด้านอุปทาน ภาคการเกษตร ภาคบริการและภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกยังขยายตัวได้ดี ตามเศรษฐกิจต่างประเทศที่ขยายตัวดี แต่ภาคอุตสาหกรรมเพื่อการใช้จ่ายภายในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวลดลง สำหรับเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ในประเทศพบว่าการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอตัวลง ส่วนเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ต่างประเทศพบว่ามูลค่าการส่งออกขยายตัวได้ดีมาก ทำให้ดุลการค้ามีการขาดดุลลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับมั่นคงโดยทุนสำรองระหว่างประเทศยังคงมากกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นถึง 3.3 เท่า ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานปรับลดลงเล็กน้อย
นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ดังนี้
ภาวะเศรษฐกิจการคลังโดยรวมในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ภายนอกประเทศ แต่อุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการคลังล่าสุดพบว่า ภาษีฐานรายได้ขยายตัวที่ร้อยละ 11.8 ต่อปี ชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2549 ที่ขยายตัวร้อยละ 13.3 ต่อปี ในขณะที่ภาษีฐานการบริโภคขยายตัวที่ร้อยละ 11.7 ต่อปี ชะลอตัวลงจากที่ขยายตัวร้อยละ 15.8 ต่อปีในเดือนมกราคม 2549
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานในภาคเกษตร ภาคบริการและการผลิตของอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกยังขยายตัวได้ดี ขณะที่การผลิตเพื่อการใช้จ่ายในประเทศมีแนวโน้มชะลอตัว โดยในภาคเกษตร ดัชนีราคาสินค้าเกษตรยังขยายตัวสูงถึงร้อยละ 21.8 ต่อปีในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ทำให้คาดว่ารายได้เกษตรจะยังคงขยายตัวในระดับสูง ในขณะที่การจ้างงานภาคการเกษตรในเดือนกุมภาพันธ์ยังขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 6.0 ต่อปี เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรมพบว่าอัตราการจ้างงานในเดือนกุมภาพันธ์ยังคงหดตัวอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี แต่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ในขณะที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนมกราคม 2549 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวร้อยละ 5.8 ต่อปี โดยผลผลิตของอุตสาหกรรมเพื่อการใช้จ่ายในประเทศเช่นในหมวดวัสดุก่อสร้างและเหล็กชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ผลผลิตอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกยังขยายตัวดีโดยเฉพาะในหมวดแผงวงจร และ Hard Disk Drive รวมทั้งหมวดยานยนต์ยังขยายตัวดี สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติโดยนักท่องเที่ยวต่างประเทศผ่านด่านท่าอากาศยานกรุงเทพในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ขยายตัวสูงที่ร้อยละ 30.0 ต่อปี
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราชะลอตัวลง ซึ่งสะท้อนได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการใช้จ่ายในประเทศขยายตัวร้อยละ 2.6 ต่อปีในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ลดลงจากร้อยละ 19.5 ต่อปีในเดือนมกราคม ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่สูงของการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนของปีก่อนที่อยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่เทศกาลตรุษจีนปีนี้อยู่ในเดือนมกราคม อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากความกังวลทางการเมือง ขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลง โดยแม้ว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าทุนในเดือนกุมภาพันธ์ขยายตัวร้อยละ 21.7 ต่อปี แต่หากหักธุรกรรมพิเศษของมูลค่าการนำเข้าเครื่องบิน 2 ลำ จะทำให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวเพียงร้อยละ 8.2 ต่อปี
เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจด้านการค้าต่างประเทศในเดือนกุมภาพันธ์โดยเฉพาะด้านการส่งออกขยายตัวดีมาก แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังคงได้รับการสนับสนุนจากอุปสงค์ภายนอกประเทศจากแนวโน้มการส่งออกสินค้าที่เร่งตัวขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ ในขณะที่การนำเข้าสินค้ากลับมาขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ในระดับปานกลาง โดยมูลค่าการส่งออกมีมูลค่าทั้งสิ้น 9,515 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 22.9 ต่อปี ดีขึ้นจากเดือนมกราคม 2548 ที่ขยายตัวร้อยละ 13.6 ต่อปี ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 9,802 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัวร้อยละ 19.0 ต่อปี ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2548 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.0 ต่อปี ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุลที่ -268.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขาดดุลลดลงจาก -442.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมกราคม
เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ปรับตัวลดลงจากร้อยละ 5.9 ต่อปีในเดือนมกราคม ลงเหลือร้อยละ 5.6 ต่อปี ขณะที่อัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำเพียงร้อยละ 1.6 ในเดือนกุมภาพันธ์ ลดลงจากร้อยละ 2.3 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งจากทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 53.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 หรือเท่ากับ 5.5 เดือนของมูลค่าการนำเข้า หรือประมาณ 3.3 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น
--ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฉบับที่ 4/2549 30 กุมภาพันธ์ 2549--
ภาวะเศรษฐกิจการคลังโดยรวมในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ภายนอกประเทศที่ขยายตัวได้ดีมาก แม้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราชะลอลง ทั้งนี้ ในภาคเศรษฐกิจการคลัง รายได้จากฐานรายได้และฐานการบริโภคยังคงขยายตัวในระดับสูง แต่มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า สำหรับเศรษฐกิจด้านอุปทาน ภาคการเกษตร ภาคบริการและภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกยังขยายตัวได้ดี ตามเศรษฐกิจต่างประเทศที่ขยายตัวดี แต่ภาคอุตสาหกรรมเพื่อการใช้จ่ายภายในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวลดลง สำหรับเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ในประเทศพบว่าการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอตัวลง ส่วนเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ต่างประเทศพบว่ามูลค่าการส่งออกขยายตัวได้ดีมาก ทำให้ดุลการค้ามีการขาดดุลลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับมั่นคงโดยทุนสำรองระหว่างประเทศยังคงมากกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นถึง 3.3 เท่า ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานปรับลดลงเล็กน้อย
นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ดังนี้
ภาวะเศรษฐกิจการคลังโดยรวมในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ภายนอกประเทศ แต่อุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการคลังล่าสุดพบว่า ภาษีฐานรายได้ขยายตัวที่ร้อยละ 11.8 ต่อปี ชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2549 ที่ขยายตัวร้อยละ 13.3 ต่อปี ในขณะที่ภาษีฐานการบริโภคขยายตัวที่ร้อยละ 11.7 ต่อปี ชะลอตัวลงจากที่ขยายตัวร้อยละ 15.8 ต่อปีในเดือนมกราคม 2549
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานในภาคเกษตร ภาคบริการและการผลิตของอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกยังขยายตัวได้ดี ขณะที่การผลิตเพื่อการใช้จ่ายในประเทศมีแนวโน้มชะลอตัว โดยในภาคเกษตร ดัชนีราคาสินค้าเกษตรยังขยายตัวสูงถึงร้อยละ 21.8 ต่อปีในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ทำให้คาดว่ารายได้เกษตรจะยังคงขยายตัวในระดับสูง ในขณะที่การจ้างงานภาคการเกษตรในเดือนกุมภาพันธ์ยังขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 6.0 ต่อปี เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรมพบว่าอัตราการจ้างงานในเดือนกุมภาพันธ์ยังคงหดตัวอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี แต่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ในขณะที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนมกราคม 2549 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวร้อยละ 5.8 ต่อปี โดยผลผลิตของอุตสาหกรรมเพื่อการใช้จ่ายในประเทศเช่นในหมวดวัสดุก่อสร้างและเหล็กชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ผลผลิตอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกยังขยายตัวดีโดยเฉพาะในหมวดแผงวงจร และ Hard Disk Drive รวมทั้งหมวดยานยนต์ยังขยายตัวดี สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติโดยนักท่องเที่ยวต่างประเทศผ่านด่านท่าอากาศยานกรุงเทพในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ขยายตัวสูงที่ร้อยละ 30.0 ต่อปี
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราชะลอตัวลง ซึ่งสะท้อนได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการใช้จ่ายในประเทศขยายตัวร้อยละ 2.6 ต่อปีในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ลดลงจากร้อยละ 19.5 ต่อปีในเดือนมกราคม ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่สูงของการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนของปีก่อนที่อยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่เทศกาลตรุษจีนปีนี้อยู่ในเดือนมกราคม อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากความกังวลทางการเมือง ขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลง โดยแม้ว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าทุนในเดือนกุมภาพันธ์ขยายตัวร้อยละ 21.7 ต่อปี แต่หากหักธุรกรรมพิเศษของมูลค่าการนำเข้าเครื่องบิน 2 ลำ จะทำให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวเพียงร้อยละ 8.2 ต่อปี
เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจด้านการค้าต่างประเทศในเดือนกุมภาพันธ์โดยเฉพาะด้านการส่งออกขยายตัวดีมาก แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังคงได้รับการสนับสนุนจากอุปสงค์ภายนอกประเทศจากแนวโน้มการส่งออกสินค้าที่เร่งตัวขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ ในขณะที่การนำเข้าสินค้ากลับมาขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ในระดับปานกลาง โดยมูลค่าการส่งออกมีมูลค่าทั้งสิ้น 9,515 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 22.9 ต่อปี ดีขึ้นจากเดือนมกราคม 2548 ที่ขยายตัวร้อยละ 13.6 ต่อปี ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 9,802 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัวร้อยละ 19.0 ต่อปี ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2548 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.0 ต่อปี ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุลที่ -268.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขาดดุลลดลงจาก -442.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมกราคม
เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ปรับตัวลดลงจากร้อยละ 5.9 ต่อปีในเดือนมกราคม ลงเหลือร้อยละ 5.6 ต่อปี ขณะที่อัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำเพียงร้อยละ 1.6 ในเดือนกุมภาพันธ์ ลดลงจากร้อยละ 2.3 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งจากทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 53.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 หรือเท่ากับ 5.5 เดือนของมูลค่าการนำเข้า หรือประมาณ 3.3 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น
--ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฉบับที่ 4/2549 30 กุมภาพันธ์ 2549--