นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เรียกระดมหน่วยงานในสังกัดเพื่อจัดทำมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในเขตจังหวัดภาคเหนือเป็นการเร่งด่วน โดยในเบื้องต้นได้มีการออกมาตรการฯ จาก 3 หน่วยงาน ดังต่อไปนี้
1. กรมธนารักษ์
1. กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ได้อนุมัติให้มีการยกเว้นการเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุเพื่อที่อยู่อาศัยและเพื่อการเกษตร ให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุเมื่อคราวเกิดอุทกภัยที่อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2533 - 2534
2. สำหรับการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เช่าที่ราชพัสดุที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ เห็นควรกำหนดแนวทางช่วยเหลือ ดังนี้
2.1 กรณีเกิดความเสียหายต่อผู้เช่าที่ราชพัสดุเพื่อประกอบการเกษตรหรืออยู่อาศัยจะพิจารณายกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุ 1 — 2 ปี
2.2 กรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของผู้เช่าอาคารราชพัสดุจะพิจารณายกเว้นหรือลดหย่อนการเรียกเก็บค่าเช่า และยกเว้นการเรียกเก็บค่าปรับให้ด้วย
ทั้งนี้ แนวทางในการให้ความช่วยเหลือ และระยะเวลาในการยกเว้นหรือลดหย่อนการเรียกเก็บค่าเช่า และยกเว้นการเรียกเก็บค่าปรับ จะพิจารณาตามข้อเท็จจริงและความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมข้อมูลของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่
2. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
จัดทำ “โครงการเงินกู้เพื่อลดภาระหนี้ ปลูกสร้างและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ” โดยลูกหนี้เดิมของ ธอส. จะได้ลดภาระหนี้ที่ผ่านชำระเหลืออัตราร้อยละ 1 ต่อปี เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งในกรณีที่อาคารที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง ลูกค้าจะรับภาระชำระเงินกู้ในส่วนของที่ดินเท่านั้น โดยธนาคารจะยกภาระหนี้คงเหลือในส่วนของอาคารให้ทั้งหมด และหากประสงค์จะกู้เพิ่มทั้งในส่วนของลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ จะคิดอัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรก MRR — 2.25% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามประกาศของธนาคาร
สำหรับวงเงินกู้ต่าง ๆ นั้น กรณีปลูกสร้างหรือซ่อมแซมอาคาร ให้กู้ได้ 100% ของราคาประเมินค่าก่อสร้าง / ซ่อมแซมอาคาร กรณีไถ่ถอนจำนอง ให้กู้ได้ไม่เกินยอดหนี้คงเหลือกับสถาบันการเงินเดิม และสำหรับส่วนซ่อมแซม / ปรับปรุงอาคาร ให้กู้ได้ 100% ของราคาประเมินค่าซ่อมแซม / ปรับปรุงอาคาร
3. ธนาคารออมสิน
จัดทำ “โครงการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ” โดยลูกหนี้เดิมของธนาคารในโครงการธนาคารประชาชน จะได้รับการลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ ร้อยละ 0.50 ต่อเดือน และได้รับการปลอดชำระหนี้ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย เป็นเวลา ไม่เกิน 1 ปี ส่วนลูกหนี้เดิมในโครงการสินเชื่อธุรกิจห้องแถว จะไดรับการปลอดชำระหนี้ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย เป็นเวลา ไม่เกิน 1 ปี
สำหรับประชาชนทั่วไปที่ประสงค์จะกู้เงินเพื่อนำไปซ่อมแซมทรัพย์สินและบรรเทาความเสียหาย สามารถกู้เงินได้สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคารฯ
“กระทรวงการคลัง เชื่อมั่นว่ามาตรการต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้นจะช่วยบรรเทาและแบ่งเบาภาระของผู้ประสบอุทกภัยในเขตภาคเหนือได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงสามารถรักษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน เพื่อให้เกิดการพื้นตัวและรักษาไว้ซึ่งความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจได้ในท้ายที่สุด” นายไชยยศกล่าวในท้ายที่สุด
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 51/2549 26 พฤษภาคม 49--
1. กรมธนารักษ์
1. กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ได้อนุมัติให้มีการยกเว้นการเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุเพื่อที่อยู่อาศัยและเพื่อการเกษตร ให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุเมื่อคราวเกิดอุทกภัยที่อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2533 - 2534
2. สำหรับการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เช่าที่ราชพัสดุที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ เห็นควรกำหนดแนวทางช่วยเหลือ ดังนี้
2.1 กรณีเกิดความเสียหายต่อผู้เช่าที่ราชพัสดุเพื่อประกอบการเกษตรหรืออยู่อาศัยจะพิจารณายกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุ 1 — 2 ปี
2.2 กรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของผู้เช่าอาคารราชพัสดุจะพิจารณายกเว้นหรือลดหย่อนการเรียกเก็บค่าเช่า และยกเว้นการเรียกเก็บค่าปรับให้ด้วย
ทั้งนี้ แนวทางในการให้ความช่วยเหลือ และระยะเวลาในการยกเว้นหรือลดหย่อนการเรียกเก็บค่าเช่า และยกเว้นการเรียกเก็บค่าปรับ จะพิจารณาตามข้อเท็จจริงและความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมข้อมูลของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่
2. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
จัดทำ “โครงการเงินกู้เพื่อลดภาระหนี้ ปลูกสร้างและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ” โดยลูกหนี้เดิมของ ธอส. จะได้ลดภาระหนี้ที่ผ่านชำระเหลืออัตราร้อยละ 1 ต่อปี เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งในกรณีที่อาคารที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง ลูกค้าจะรับภาระชำระเงินกู้ในส่วนของที่ดินเท่านั้น โดยธนาคารจะยกภาระหนี้คงเหลือในส่วนของอาคารให้ทั้งหมด และหากประสงค์จะกู้เพิ่มทั้งในส่วนของลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ จะคิดอัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรก MRR — 2.25% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามประกาศของธนาคาร
สำหรับวงเงินกู้ต่าง ๆ นั้น กรณีปลูกสร้างหรือซ่อมแซมอาคาร ให้กู้ได้ 100% ของราคาประเมินค่าก่อสร้าง / ซ่อมแซมอาคาร กรณีไถ่ถอนจำนอง ให้กู้ได้ไม่เกินยอดหนี้คงเหลือกับสถาบันการเงินเดิม และสำหรับส่วนซ่อมแซม / ปรับปรุงอาคาร ให้กู้ได้ 100% ของราคาประเมินค่าซ่อมแซม / ปรับปรุงอาคาร
3. ธนาคารออมสิน
จัดทำ “โครงการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ” โดยลูกหนี้เดิมของธนาคารในโครงการธนาคารประชาชน จะได้รับการลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ ร้อยละ 0.50 ต่อเดือน และได้รับการปลอดชำระหนี้ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย เป็นเวลา ไม่เกิน 1 ปี ส่วนลูกหนี้เดิมในโครงการสินเชื่อธุรกิจห้องแถว จะไดรับการปลอดชำระหนี้ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย เป็นเวลา ไม่เกิน 1 ปี
สำหรับประชาชนทั่วไปที่ประสงค์จะกู้เงินเพื่อนำไปซ่อมแซมทรัพย์สินและบรรเทาความเสียหาย สามารถกู้เงินได้สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคารฯ
“กระทรวงการคลัง เชื่อมั่นว่ามาตรการต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้นจะช่วยบรรเทาและแบ่งเบาภาระของผู้ประสบอุทกภัยในเขตภาคเหนือได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงสามารถรักษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน เพื่อให้เกิดการพื้นตัวและรักษาไว้ซึ่งความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจได้ในท้ายที่สุด” นายไชยยศกล่าวในท้ายที่สุด
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 51/2549 26 พฤษภาคม 49--