กรุงเทพ--23 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรียส่งข่าวนี้มาเพื่อเตือนคนไทยที่คิดจะเดินทางไปทำงานในแอฟริกาใต้ เนื่องจากขณะนี้ปัญหาการค้ามนุษย์จากไทยไปแอฟริกาใต้ทวีความรุนแรงขึ้น นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2549 มีคนไทยโดยเฉพาะหญิงไทยตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์และไปขอความช่วยเหลือจากสถานทูตฯ แล้ว 26 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปี 2548 ที่มีคนไทยถูกล่อลวงไปแอฟริกาใต้ตลอดทั้งปีรวม 32 คน
เหตุที่ทำให้หญิงไทยเดินทางไปขายบริการที่แอฟริกาใต้เพิ่มขึ้น ได้แก่ ประเทศต่างๆ ที่หญิงไทยนิยมไปขายบริการ เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ได้เพิ่มความเข้มงวดในการออกวีซ่า ทำให้นายหน้าค้ามนุษย์หาช่องทางในประเทศอื่นๆ ที่สะดวกในการส่งหญิงไทยเข้าประเทศแทน หญิงไทยเป็นที่ต้องการของชายผิวขาวและชาวอินเดียในแอฟริกาใต้ เนื่องจากเอาใจเก่งและอ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้แอฟริกาใต้เป็นตลาดของกลุ่มผู้ค้ามนุษย์ที่มีเครือข่ายข้ามประเทศและมีการลักลอบเข้าเมืองหลากหลายรูปแบบ
หญิงไทยที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์มีทั้งโดยสมัครใจและไม่สมัครใจ พวกที่สมัครใจคือพวกที่รู้อยู่แล้วว่าต้องมาขายบริการ จึงยอมเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่นายหน้า เฉลี่ยแล้วตกประมาณรายละ 3 แสนบาท แต่เมื่อเดินทางไปถึงปรากฏว่าเงื่อนไขต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ เช่น เมื่อทำงานได้ 400 แรนด์ หรือประมาณ 2,400 บาท เจ้าของสถานบริการจะหักไว้ 200 แรนด์ นายหน้าหักไว้อีก 200 แรนด์โดยอ้างว่าหักเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทำให้หญิงไทยไม่ได้เงินเลย จากที่คิดว่าจะทำงานใช้หนี้หมดภายใน 2-3 เดือน ก็ต้องเพิ่มเป็น 8-10 เดือนและเมื่อทำงานใช้หนี้หมด เจ้าของสถานบริการก็ไม่ต่ออายุการพำนักในแอฟริกาใต้ให้ จึงต้องเดินทางกลับประเทศไทยโดยไม่ได้เก็บเงินอย่างที่คาดหวังไว้
ส่วนพวกที่ไม่สมัครใจนั้น คือกลุ่มที่ถูกหลอกว่าจะให้ไปทำงานในร้านอาหารไทย นวดแผนไทย หรือสปา แต่เมื่อเดินทางไปถึงจะถูกกักบริเวณ ยึดหนังสือเดินทางและบัตรโดยสารเครื่องบิน พร้อมทั้งขู่ว่าคนดำจะฆ่าหากออกจากบ้าน ในที่สุดก็ถูกบังคับให้ขายบริการ
นอกจากหญิงไทยตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีกลุ่มแรงงานไทยจำนวนไม่น้อยที่ถูกหลอกลวงไปทำงานโดยนายหน้าจัดหางานเถื่อน โดยเสียค่านายหน้ากว่าคนละ 1 แสนบาท ซึ่งแรงงานไทยบางรายถูกหลอกลวงจากคนหมู่บ้านเดียวกันว่าจะได้รับค่าจ้างในอัตราที่สูง แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับไม่มีงานทำตามที่ได้ตกลงกันไว้
ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้คนไทยต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพอีก จึงขอเตือนพี่น้องแรงงานไทยและเพื่อนหญิงไทยให้พึงระวังตัวอย่าได้หลงเชื่อผู้ที่มาติดต่อให้ไปทำงานร้านอาหาร นวดแผนไทย หรือสปา โดยไม่ได้ขอใบอนุญาตทำงานจากสถานทูตแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทยก่อน หรือไม่แจ้งชื่อสถานประกอบการดังกล่าวให้ทราบ หากเป็นไปตามนี้ ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นการหลอกลวง ถ้าไม่แน่ใจก็ขอให้สอบถามสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพริทอเรีย ที่หมายเลขโทรศัพท์ +27 12-3424600 ว่ามีร้านหรือสถานที่ประกอบการชื่อนั้นๆ ในแอฟริกาใต้จริงหรือไม่อย่างไร
ขอบอกกล่าวให้หญิงไทยที่คิดจะมาขายบริการได้พึงสังวรณ์ว่าแอฟริกาใต้มีผู้ติดเชื้อเอดส์กว่าร้อยละ 20 และมีอาชญากรรมสูง ไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย การเดินทางสัญจรในแอฟริกาใต้จึงมีความเสี่ยงต่อการถูกจี้ปล้น และบางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต จึงไม่คุ้มที่จะเสี่ยงชีวิตไปทำงานในแอฟริกาใต้ เพราะเงินที่หาได้จากหยาดเหงื่อแรงงานของเรา จะถูกนายหน้าค้ามนุษย์และสถานบริการหักเงินไว้ทั้งหมด ไม่มีเหลือให้เราเก็บหรือส่งให้ครอบครัวทางเมืองไทย
นอกจากนี้ การเข้าทำงานในแอฟริกาใต้มีระเบียบและมาตรการที่เข้มงวด กล่าวคือ นายจ้างต้องลงประกาศในหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 7 วัน เพื่อให้โอกาสคนท้องถิ่นผิวดำในการสมัครงานก่อน หากไม่มีคนสมัคร บริษัทจึงสามารถรับผู้อื่นหรือคนต่างชาติได้ ดังนั้น หากมีผู้ติดต่อให้ไปทำงานในโรงงาน หรือสถานประกอบการใดๆ ในแอฟริกาใต้ โดยไม่มีสัญญาจ้างที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงแรงงานไทย หรือผู้ที่จะสมัครทำงานไม่มีวุฒิบัตรรับรองความรู้ความสามารถเฉพาะด้านที่จะทำงานนั้นๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอรับวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทย ก็เชื่อได้ว่าเมื่อบุคคลผู้นั้นเดินทางไปถึงแอฟริกาใต้ ย่อมไม่สามารถหางานทำที่ถูกกฎหมายอย่างแน่นอน และอาจถูกตำรวจแอฟริกาใต้จับกุมคุมขังและเนรเทศออกจากประเทศในที่สุด
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรียส่งข่าวนี้มาเพื่อเตือนคนไทยที่คิดจะเดินทางไปทำงานในแอฟริกาใต้ เนื่องจากขณะนี้ปัญหาการค้ามนุษย์จากไทยไปแอฟริกาใต้ทวีความรุนแรงขึ้น นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2549 มีคนไทยโดยเฉพาะหญิงไทยตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์และไปขอความช่วยเหลือจากสถานทูตฯ แล้ว 26 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปี 2548 ที่มีคนไทยถูกล่อลวงไปแอฟริกาใต้ตลอดทั้งปีรวม 32 คน
เหตุที่ทำให้หญิงไทยเดินทางไปขายบริการที่แอฟริกาใต้เพิ่มขึ้น ได้แก่ ประเทศต่างๆ ที่หญิงไทยนิยมไปขายบริการ เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ได้เพิ่มความเข้มงวดในการออกวีซ่า ทำให้นายหน้าค้ามนุษย์หาช่องทางในประเทศอื่นๆ ที่สะดวกในการส่งหญิงไทยเข้าประเทศแทน หญิงไทยเป็นที่ต้องการของชายผิวขาวและชาวอินเดียในแอฟริกาใต้ เนื่องจากเอาใจเก่งและอ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้แอฟริกาใต้เป็นตลาดของกลุ่มผู้ค้ามนุษย์ที่มีเครือข่ายข้ามประเทศและมีการลักลอบเข้าเมืองหลากหลายรูปแบบ
หญิงไทยที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์มีทั้งโดยสมัครใจและไม่สมัครใจ พวกที่สมัครใจคือพวกที่รู้อยู่แล้วว่าต้องมาขายบริการ จึงยอมเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่นายหน้า เฉลี่ยแล้วตกประมาณรายละ 3 แสนบาท แต่เมื่อเดินทางไปถึงปรากฏว่าเงื่อนไขต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ เช่น เมื่อทำงานได้ 400 แรนด์ หรือประมาณ 2,400 บาท เจ้าของสถานบริการจะหักไว้ 200 แรนด์ นายหน้าหักไว้อีก 200 แรนด์โดยอ้างว่าหักเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทำให้หญิงไทยไม่ได้เงินเลย จากที่คิดว่าจะทำงานใช้หนี้หมดภายใน 2-3 เดือน ก็ต้องเพิ่มเป็น 8-10 เดือนและเมื่อทำงานใช้หนี้หมด เจ้าของสถานบริการก็ไม่ต่ออายุการพำนักในแอฟริกาใต้ให้ จึงต้องเดินทางกลับประเทศไทยโดยไม่ได้เก็บเงินอย่างที่คาดหวังไว้
ส่วนพวกที่ไม่สมัครใจนั้น คือกลุ่มที่ถูกหลอกว่าจะให้ไปทำงานในร้านอาหารไทย นวดแผนไทย หรือสปา แต่เมื่อเดินทางไปถึงจะถูกกักบริเวณ ยึดหนังสือเดินทางและบัตรโดยสารเครื่องบิน พร้อมทั้งขู่ว่าคนดำจะฆ่าหากออกจากบ้าน ในที่สุดก็ถูกบังคับให้ขายบริการ
นอกจากหญิงไทยตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีกลุ่มแรงงานไทยจำนวนไม่น้อยที่ถูกหลอกลวงไปทำงานโดยนายหน้าจัดหางานเถื่อน โดยเสียค่านายหน้ากว่าคนละ 1 แสนบาท ซึ่งแรงงานไทยบางรายถูกหลอกลวงจากคนหมู่บ้านเดียวกันว่าจะได้รับค่าจ้างในอัตราที่สูง แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับไม่มีงานทำตามที่ได้ตกลงกันไว้
ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้คนไทยต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพอีก จึงขอเตือนพี่น้องแรงงานไทยและเพื่อนหญิงไทยให้พึงระวังตัวอย่าได้หลงเชื่อผู้ที่มาติดต่อให้ไปทำงานร้านอาหาร นวดแผนไทย หรือสปา โดยไม่ได้ขอใบอนุญาตทำงานจากสถานทูตแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทยก่อน หรือไม่แจ้งชื่อสถานประกอบการดังกล่าวให้ทราบ หากเป็นไปตามนี้ ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นการหลอกลวง ถ้าไม่แน่ใจก็ขอให้สอบถามสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพริทอเรีย ที่หมายเลขโทรศัพท์ +27 12-3424600 ว่ามีร้านหรือสถานที่ประกอบการชื่อนั้นๆ ในแอฟริกาใต้จริงหรือไม่อย่างไร
ขอบอกกล่าวให้หญิงไทยที่คิดจะมาขายบริการได้พึงสังวรณ์ว่าแอฟริกาใต้มีผู้ติดเชื้อเอดส์กว่าร้อยละ 20 และมีอาชญากรรมสูง ไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย การเดินทางสัญจรในแอฟริกาใต้จึงมีความเสี่ยงต่อการถูกจี้ปล้น และบางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต จึงไม่คุ้มที่จะเสี่ยงชีวิตไปทำงานในแอฟริกาใต้ เพราะเงินที่หาได้จากหยาดเหงื่อแรงงานของเรา จะถูกนายหน้าค้ามนุษย์และสถานบริการหักเงินไว้ทั้งหมด ไม่มีเหลือให้เราเก็บหรือส่งให้ครอบครัวทางเมืองไทย
นอกจากนี้ การเข้าทำงานในแอฟริกาใต้มีระเบียบและมาตรการที่เข้มงวด กล่าวคือ นายจ้างต้องลงประกาศในหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 7 วัน เพื่อให้โอกาสคนท้องถิ่นผิวดำในการสมัครงานก่อน หากไม่มีคนสมัคร บริษัทจึงสามารถรับผู้อื่นหรือคนต่างชาติได้ ดังนั้น หากมีผู้ติดต่อให้ไปทำงานในโรงงาน หรือสถานประกอบการใดๆ ในแอฟริกาใต้ โดยไม่มีสัญญาจ้างที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงแรงงานไทย หรือผู้ที่จะสมัครทำงานไม่มีวุฒิบัตรรับรองความรู้ความสามารถเฉพาะด้านที่จะทำงานนั้นๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอรับวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทย ก็เชื่อได้ว่าเมื่อบุคคลผู้นั้นเดินทางไปถึงแอฟริกาใต้ ย่อมไม่สามารถหางานทำที่ถูกกฎหมายอย่างแน่นอน และอาจถูกตำรวจแอฟริกาใต้จับกุมคุมขังและเนรเทศออกจากประเทศในที่สุด
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-