ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2549 เริ่มต้นมาจากเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปลายปี 2548 และมาถึงจุดเข้มข้นเมื่อเดือนมีนาคมและเมษายน ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีการใช้จ่ายในประเทศของภาคเอกชนปรับตัวลดลงโดยก่อนหน้านี้เศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนแรกของปียังมีอัตราการเติบโตที่ดีซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกยังเติบโตได้ดีขณะที่อัตราการขยายตัวการส่งออกส่วนใหญ่จะเป็นผลมาจากปัจจัยด้านปริมาณในขณะเดียวกันการเพิ่มขึ้นของอัตราการขยายตัวด้านการนำเข้ามาจากปัจจัยด้านปริมาณเช่นเดียวกันโดยลดลงเล็กน้อย
ค่าเงินบาทได้มีการปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นเพราะเกิดจากการวิตกเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ในประเทศอิหร่านและปริมาณน้ำมันเบนซินสำรองของสหรัฐฯลดลง ค่าเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 6 ปี หรือแข็งค่าขึ้นประมาณร้อยละ 8 ซึ่งสูงกว่าสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค อย่างไรก็ตามได้มีการประเมินว่าค่าเงินบาทตลอดทั้งปี 2549 จะไม่แข็งค่ากว่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค ด้านสภาหอการค้าไทยให้ความเห็นว่าการที่ค่าเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นมากถึง 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติซึ่งอาจมีสาเหตุจากการเก็งกำไรของนักลงทุนต่างชาติและเห็นว่าไม่ได้เป็นไปตามกลไกลตลาดเพราะนักลงทุนมองว่าค่าเงินบาทสามารถผลักดันให้แข็งค่าขึ้นหรืออ่อนลงได้อีกทั้งยังเก็งกำไรได้ง่ายเพราะรัฐยังไม่เข้ามาแทรกแซงและดำเนินการใดๆ
สำหรับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ได้มีการปรับตัวพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจะมีผลกดดันให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในประเทศอยู่ในระดับที่สูงและธนาคารแห่งประเทศยังคงจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย
ประเด็นวิเคราะห์:
ภาวะเศรษฐกิจของไทยในปี 2549 ยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน เช่น ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่าเงินบาทที่แข็งค่าสูงสุดในรอบ 6 ปี และอัตราดอกเบี้ยในช่วงขาขึ้น จะเป็นเหตุให้เศรษฐกิจของไทยในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตลดลง โดยเฉพาะเหตุการณ์ด้านการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อภาวะเศรษฐกิจของไทยโดยรวมซึ่งนักลงทุนต่างประเทศจะไม่มั่นใจเนื่องจาก ณ เวลานี้จะต้องคอยรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารจัดการ
ที่มา: http://www.depthai.go.th