กรุงเทพ--12 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
แนวทางของนโยบายต่างประเทศ
1. ภารกิจหลักของ กต. คือ ช่วยกันเสริมสร้างความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
2. การต่างประเทศเป็นการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่เป็นเรื่องของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือพรรคใดพรรคหนึ่ง นรม.ได้ให้แนวทางสำหรับการบริหารงานของรัฐบาลไว้ว่า ให้ใช้ “คุณธรรม” และ “ความถูกต้อง” นำทุกด้าน ซึ่งรวมถึงการคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม และความโปร่งใส โดยเน้นผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ
3. การดำเนินนโยบายต่างประเทศต้องมีความต่อเนื่อง เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ โดยเน้นนโยบายที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ ซึ่งครอบคลุมถึง
- การคุ้มครองและดูแลสิทธิและผลประโยชน์ของคนไทยในต่างประเทศ
- การยึดมั่นต่อพันธกรณีที่มีอยู่กับต่างประเทศ
- การกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือกับมิตรประเทศของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรวมถึงการดำเนินความร่วมมือต่างๆ ที่มีอยู่ เช่น ASEAN, APEC, BIMSTEC, ACD, ACMECS, IMT-GT, GMS, ซึ่งหากพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นกรอบความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนไทย ก็จะดำเนินความร่วมมือต่อไป
4. นรม.จะมีกำหนดเยือนประเทศอาเซียน โดยจะเยือนประเทศกัมพูชาและลาวระหว่าง 14-15 ต.ค. 2549 สำหรับประเทศอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างการประสานกำหนดการ ทั้งนี้ การจะเยือนประเทศใดก่อนหรือหลังขึ้นกับความพร้อมของทั้งสองฝ่าย มากกว่านัยของลำดับความสำคัญ
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ นรม.มีกำหนดเข้าร่วมประชุมสำคัญๆ ในภูมิภาค อาทิ
(1) การประชุมสุดยอดอาเซียน-จีนที่เมืองหนานหนิง (30-31 ต.ค.)
(2) การประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 14 ที่กรุงฮานอย (18-19 พ.ย.)
(3) การประชุมสุดยอดอาเซียนที่เมืองเซบู ฟิลิปปินส์ (11-13 ธ.ค.)
การเข้าร่วมประชุมเหล่านี้จะเป็นโอกาสที่ นรม. จะได้ทำความรู้จักกับผู้นำของประเทศต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทย
5. สำหรับประเด็น “ความต่อเนื่อง” ของการดำเนินนโยบายกับรัฐบาลชุดที่แล้วนั้น จะต้องพิจารณาผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นหลัก นโยบายหลายเรื่องของรัฐบาลชุดก่อนก็เป็นนโยบายที่ดี โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับนโยบายการให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านเช่นในกรอบ ACMECS และ ACD อันมีส่วนช่วยส่งเสริมความร่วมมือและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาค ดังนั้น ความร่วมมือในกรอบดังกล่าวก็น่าจะต้องดำเนินต่อไป อย่างไรก็ดี การจะดำเนินโครงการหรือนโยบายใดต่อไปก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาบนพื้นฐานของหลักคุณธรรมและความโปร่งใส เพื่อตอบสนองผลประโยชน์ร่วมกัน และผลประโยชน์ของไทยเป็นที่ตั้ง
6. สำหรับการทำงานที่ กต. จะทำงานร่วมกันกับ รมช. และข้าราชการ กต. เป็นทีมเดียวกัน และคงจะไม่มีการแบ่งความรับผิดชอบกัน แต่เน้นการทำงานที่สามารถทดแทนกันได้ โดยจะยึดแนวการทำงานแบบบูรณาการทีมประเทศไทยต่อไป ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ทำงานในลักษณะบูรณาการโดยมีเอกอัครราชทูตเป็นหัวหน้าทีมมาโดยตลอด ทั้งในด้านยุทธศาสตร์ แผนงาน สรรพกำลังและทรัพยากร ซึ่งช่วยให้การทำงานของหน่วยงานไทยในต่างประเทศมีทิศทางและเป้าหมายร่วมกัน ในการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และตอบสนองผลประโยชน์ของประเทศและคนไทยในด้านต่างๆ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
แนวทางของนโยบายต่างประเทศ
1. ภารกิจหลักของ กต. คือ ช่วยกันเสริมสร้างความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
2. การต่างประเทศเป็นการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่เป็นเรื่องของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือพรรคใดพรรคหนึ่ง นรม.ได้ให้แนวทางสำหรับการบริหารงานของรัฐบาลไว้ว่า ให้ใช้ “คุณธรรม” และ “ความถูกต้อง” นำทุกด้าน ซึ่งรวมถึงการคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม และความโปร่งใส โดยเน้นผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ
3. การดำเนินนโยบายต่างประเทศต้องมีความต่อเนื่อง เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ โดยเน้นนโยบายที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ ซึ่งครอบคลุมถึง
- การคุ้มครองและดูแลสิทธิและผลประโยชน์ของคนไทยในต่างประเทศ
- การยึดมั่นต่อพันธกรณีที่มีอยู่กับต่างประเทศ
- การกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือกับมิตรประเทศของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรวมถึงการดำเนินความร่วมมือต่างๆ ที่มีอยู่ เช่น ASEAN, APEC, BIMSTEC, ACD, ACMECS, IMT-GT, GMS, ซึ่งหากพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นกรอบความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนไทย ก็จะดำเนินความร่วมมือต่อไป
4. นรม.จะมีกำหนดเยือนประเทศอาเซียน โดยจะเยือนประเทศกัมพูชาและลาวระหว่าง 14-15 ต.ค. 2549 สำหรับประเทศอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างการประสานกำหนดการ ทั้งนี้ การจะเยือนประเทศใดก่อนหรือหลังขึ้นกับความพร้อมของทั้งสองฝ่าย มากกว่านัยของลำดับความสำคัญ
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ นรม.มีกำหนดเข้าร่วมประชุมสำคัญๆ ในภูมิภาค อาทิ
(1) การประชุมสุดยอดอาเซียน-จีนที่เมืองหนานหนิง (30-31 ต.ค.)
(2) การประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 14 ที่กรุงฮานอย (18-19 พ.ย.)
(3) การประชุมสุดยอดอาเซียนที่เมืองเซบู ฟิลิปปินส์ (11-13 ธ.ค.)
การเข้าร่วมประชุมเหล่านี้จะเป็นโอกาสที่ นรม. จะได้ทำความรู้จักกับผู้นำของประเทศต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทย
5. สำหรับประเด็น “ความต่อเนื่อง” ของการดำเนินนโยบายกับรัฐบาลชุดที่แล้วนั้น จะต้องพิจารณาผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นหลัก นโยบายหลายเรื่องของรัฐบาลชุดก่อนก็เป็นนโยบายที่ดี โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับนโยบายการให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านเช่นในกรอบ ACMECS และ ACD อันมีส่วนช่วยส่งเสริมความร่วมมือและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาค ดังนั้น ความร่วมมือในกรอบดังกล่าวก็น่าจะต้องดำเนินต่อไป อย่างไรก็ดี การจะดำเนินโครงการหรือนโยบายใดต่อไปก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาบนพื้นฐานของหลักคุณธรรมและความโปร่งใส เพื่อตอบสนองผลประโยชน์ร่วมกัน และผลประโยชน์ของไทยเป็นที่ตั้ง
6. สำหรับการทำงานที่ กต. จะทำงานร่วมกันกับ รมช. และข้าราชการ กต. เป็นทีมเดียวกัน และคงจะไม่มีการแบ่งความรับผิดชอบกัน แต่เน้นการทำงานที่สามารถทดแทนกันได้ โดยจะยึดแนวการทำงานแบบบูรณาการทีมประเทศไทยต่อไป ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ทำงานในลักษณะบูรณาการโดยมีเอกอัครราชทูตเป็นหัวหน้าทีมมาโดยตลอด ทั้งในด้านยุทธศาสตร์ แผนงาน สรรพกำลังและทรัพยากร ซึ่งช่วยให้การทำงานของหน่วยงานไทยในต่างประเทศมีทิศทางและเป้าหมายร่วมกัน ในการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และตอบสนองผลประโยชน์ของประเทศและคนไทยในด้านต่างๆ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-