พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 5 - 11 ธ.ค. พ.ศ. 2548

ข่าวทั่วไป Tuesday December 6, 2005 06:25 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วัน จันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 145/2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 5-11 ธ.ค. 2548
ในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศา ส่งผลทำให้มีอากาศหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ส่วนภาคใต้มีฝน เพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ คลื่นในอ่าวไทยมีกำลังแรง ในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทย ตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นในทุกภาคโดยทั่วไป โดยมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ของภาคเหนือและภาคตะวันออก เฉียงเหนือ สำหรับภาคใต้มีฝนลดลง
ข้อควรระวัง
ในระยะนี้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่เสี่ยงภัย เกษตรกรควรเตรียมพร้อมระวังความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนคลื่นลม ในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควร งดออกจากฝั่ง และในช่วงวันที่ 9-11ธ.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีหมอกเพิ่มในหลายพื้นที่ เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนด้วย
เหนือ
ลักษณอากาศ
# ในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-8 องศา ในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. มีหมอกหนาในหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-8 องศา ในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. มีหมอกหนาในหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยได้ง่าย สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชผักและไม้ดอกในช่วงฤดูหนาวควรใช้วัสดุสีเข้มคลุมดิน เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิดินเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่วนผู้ที่ปลูกสตรอเบอรี่ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวก ปากดูดไว้ด้วย
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. มีหมอกเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. มีหมอกเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้มีลมแรง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังจากเลิกให้งาน รวมทั้งควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ส่วนชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของเชื้อราในฝักมะขามด้วย
กลาง
ลักษณะอากาศ
# ในวันที่ 5 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา และมีฝน เล็กน้อยบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี ในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค. อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา และลมแรง ทำให้อากาศเย็นทั่งไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อยและมีหมอกเพิ่มขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในวันที่ 5 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา และมีฝน เล็กน้อยบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี ในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค. อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา และลมแรง ทำให้อากาศเย็นทั่งไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อยและมีหมอกเพิ่มขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงเกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง และในบางพื้นที่จะมีลมแรง เกษตรกรควรผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งของไม้ผลให้แข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ชาวสวนองุ่นควรระวังและป้องกันการ
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# ในวันที่ 5 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 23 องศา และมีฝนเป็นแห่ง ๆ 20 % ของพื้นที่ ส่วนมากตามชายฝั่งบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 6 — 8 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็น โดยทั่วไป ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. อุณหภูมิสูงขึ้นและมีหมอกเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในวันที่ 5 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 23 องศา และมีฝนเป็นแห่ง ๆ 20 % ของพื้นที่ ส่วนมากตามชายฝั่งบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 6 — 8 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็น โดยทั่วไป ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. อุณหภูมิสูงขึ้นและมีหมอกเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ระยะนี้มีฝนตกน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืช โดยเฉพาะพืชที่มีระบบรากตื้น เช่น ไม้ดอก พืชไร่ และพืชผักที่กำลังเจริญเติบโต รวมทั้งควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงที่อุณหภูมิลดต่ำลงด้วย
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 70-80 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ส่วนทางฝั่ง ตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 50-70 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 70-80 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ส่วนทางฝั่ง ตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 50-70 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้ยังคงมีฝนตกชุก เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังด้วย ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมา หากระดับน้ำลดลงแล้ว ควรรีบฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้การได้ดีดังเดิม นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคราสีชมพูในยางพารา อนึ่ง ระยะนี้คลื่นลม ในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ