นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องต่อผู้ร่างและผู้ผ่านรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าหลักสำคัญต้องขจัดความเสียหายเลวร้ายที่ทำให้บ้านเมืองเกิดวิกฤตที่ผ่านมา คือปัญหาอำนาจเหนือระบบ ที่มีบุคคลสามารถใช้อำนาจทางการเงินตั้งพรรคการเมืองเป็นของตนเองทำไห้มีอำนาจเหนือพรรคการเมือง และใช้เงื่อนไขการร่วมรัฐบาลควบรวมพรรคการเมืองอื่น จนมีเสียงข้างมากนำไปสู่การมีอำนาจเหนือสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภาในที่สุด
‘เมื่อมีอำนาจเหนือรัฐสภาจึงมีอำนาจเหนือการตรวจสอบและจึงเกิดการทุจริตคอรัปชั่น การใช้อำนาจโดยมิชอบและล้ำเส้นทุกสถาบันหลักทางสังคมตามมา ซึ่งยากมากที่การเมืองในระบอบประชาธิปไตยแบบปกติจะล้มล้างลงได้ แม้การเมืองนอกระบบคือการยึดอำนาจก็ไม่ไช่ชนะได้โดยง่าย เพราะในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาเชื้อร้ายได้แทรกซึมไปทั่วทั้งข้าราชการ การเมืองและประชาชนทุกระดับ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จึงต้องมีบทบัญญัตที่ต้องขจัดอำนาจนอกระบบนี้ให้ได้มิฉะนั้นบ้านเมืองจะย่ำอยู่รอยเดิม’ นายนริศกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ธ.ค. 2549--จบ--
‘เมื่อมีอำนาจเหนือรัฐสภาจึงมีอำนาจเหนือการตรวจสอบและจึงเกิดการทุจริตคอรัปชั่น การใช้อำนาจโดยมิชอบและล้ำเส้นทุกสถาบันหลักทางสังคมตามมา ซึ่งยากมากที่การเมืองในระบอบประชาธิปไตยแบบปกติจะล้มล้างลงได้ แม้การเมืองนอกระบบคือการยึดอำนาจก็ไม่ไช่ชนะได้โดยง่าย เพราะในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาเชื้อร้ายได้แทรกซึมไปทั่วทั้งข้าราชการ การเมืองและประชาชนทุกระดับ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จึงต้องมีบทบัญญัตที่ต้องขจัดอำนาจนอกระบบนี้ให้ได้มิฉะนั้นบ้านเมืองจะย่ำอยู่รอยเดิม’ นายนริศกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ธ.ค. 2549--จบ--