มติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยันร่วมต้าน “ระบบทักษิณ” ขีดเส้นภายในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.49) จี้ “นายกฯ” ลงสัตยาบันแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 313 ขอพระราชทานคนกลางปฏิรูปการเมือง
วันนี้ (26 ก.พ.49) แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน อันประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ได้แถลงร่วมกันมีมติเรียกร้องให้พรรคไทยรักไทยร่วมลงสัตยาบันแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 313 ภายในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.49) เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปการเมือง
สาระสำคัญที่ฝ่ายค้านเป็นห่วงในเรื่องของพัฒนาการของการเมืองระบอบทักษิณ และต้องการที่จะต่อสู้ไม่ให้ระบบนี้เกิดขึ้น เพราะเป็นระบอบที่ไม่ความชอบธรรม และเป้าหมายสำคัญคือต้องการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปทางการเมือง จากการหารือของพรรคฝ่ายค้านมีความเห็นร่วมกันว่าถ้าไม่มีการผลักดันให้มีการปฏิรูปทางการเมือง บ้านเมืองต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ มีความขัดแย้งอย่างรุนแรง ไม่ช้าก็เร็ว แม้จะมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้วก็ตาม
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลักสำคัญคือให้บุคคลที่เป็นกลาง ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นผู้ดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญและเดินหน้าปฏิรูปการเมืองต่อไป จึงเห็นว่าควรเรียกร้องให้มีการจัดประชุมหัวหน้าพรรคการเมือง 4 พรรค คือพรรคไทยรักไทย ชาติไทย มหาชนและประชาธิปัตย์ ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.)เพื่อหาวิธีในการปฏิบัติ ให้การปฏิรูปการเมืองเริ่มต้นอย่างเป็นรูปธรรม และลงนามในสัตยาบันร่วมกัน เพราะสิ่งนี้จะทำให้เกิดความชัดเจน และตอบสนองต่อสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมือง และจะเป็นการคลี่คลายสถานการณ์ในทางที่ดีอย่างรวดเร็ว โดยมอบให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ประสาน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26 ก.พ. 2549--จบ--
วันนี้ (26 ก.พ.49) แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน อันประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ได้แถลงร่วมกันมีมติเรียกร้องให้พรรคไทยรักไทยร่วมลงสัตยาบันแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 313 ภายในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.49) เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปการเมือง
สาระสำคัญที่ฝ่ายค้านเป็นห่วงในเรื่องของพัฒนาการของการเมืองระบอบทักษิณ และต้องการที่จะต่อสู้ไม่ให้ระบบนี้เกิดขึ้น เพราะเป็นระบอบที่ไม่ความชอบธรรม และเป้าหมายสำคัญคือต้องการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปทางการเมือง จากการหารือของพรรคฝ่ายค้านมีความเห็นร่วมกันว่าถ้าไม่มีการผลักดันให้มีการปฏิรูปทางการเมือง บ้านเมืองต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ มีความขัดแย้งอย่างรุนแรง ไม่ช้าก็เร็ว แม้จะมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้วก็ตาม
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลักสำคัญคือให้บุคคลที่เป็นกลาง ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นผู้ดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญและเดินหน้าปฏิรูปการเมืองต่อไป จึงเห็นว่าควรเรียกร้องให้มีการจัดประชุมหัวหน้าพรรคการเมือง 4 พรรค คือพรรคไทยรักไทย ชาติไทย มหาชนและประชาธิปัตย์ ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.)เพื่อหาวิธีในการปฏิบัติ ให้การปฏิรูปการเมืองเริ่มต้นอย่างเป็นรูปธรรม และลงนามในสัตยาบันร่วมกัน เพราะสิ่งนี้จะทำให้เกิดความชัดเจน และตอบสนองต่อสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมือง และจะเป็นการคลี่คลายสถานการณ์ในทางที่ดีอย่างรวดเร็ว โดยมอบให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ประสาน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26 ก.พ. 2549--จบ--