วันนี้ (1 สิงหาคม 2549) ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นกรณีการขนย้ายช้าง 8 เชือกจากสนามบินอู่ตะเภาไปออสเตรเลียที่ทำกันอย่างปกปิดไม่โปร่งใสยามวิกาลจากกาญจนบุรีเข้าสนามบินแล้วก็ขนย้ายต่อเป็นไป ราวกับว่าเป็นความพยายามที่จะขโมยทรัพย์สินของประเทศชาติเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
‘ผมไม่โทษรัฐบาลออสเตรเลียและไม่โทษหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องโทษรัฐบาลไทยที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมันกระทบกระเทือนกับศักดิ์ศรีของประเทศชาติและคนไทยทั้งหมดเพราะช้างเป็นสัญลักษณ์ของประเทศและก็ช้างไทยเป็นที่นิยมชมชอบของคนทั่วโลก การที่เราทำอย่างนี้กับทรัพย์สินที่มีค่า ทรัพย์สินทางธรรมชาติที่มีค่า สัตว์ป่าที่มีค่าคู่บ้านคู่เมืองเหมือนกับดูถูกดูหมิ่นประเทศชาติเราเอง’ นายสุรินทร์ กล่าว
ดร.สุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลต่างๆที่ออกมาจากฝ่ายรัฐบาลไม่ชัดเจนและก็ขัดแย้งกันเองตกลงได้มีการสั่งการหรือมีการตรวจสอบดีเอ็นเอหรือไม่ ได้ดำเนินการตรวจสอบดีเอ็นเอหรือไม่ ถ้าไม่มีการตรวจสอบทำไมถึงไปรับปากกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยที่จะดำเนินการขนส่งช้างไปออสเตรเลีย ถ้าหากว่าการตรวจสอบมันมีความยุ่งยากลำบากทางเทคนิคทำไมพูดประเด็นนี้ออกมาก่อน และทำไมต้องขนย้ายจากกาญจนบุรีเข้าสนามบินอู่ตะเภากลางคืนดูเหมือนว่ามีอะไรที่จะปกปิด ไม่เป็นการเริ่มต้นที่ดีของโครงการแลกเปลี่ยนสัตว์ป่าเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างไทย - ออสเตรเลีย
‘เรื่องนี้ทางออกที่ดีที่สุดก็คือเปิดเผยข้อตกลงทั้งหมดที่ทำกันไว้ตั้งแต่ปี 2004 เมื่อ 2 ปีที่แล้วเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดเจนความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางด้านพันธุ์สัตว์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าต้องดำเนินไปในบรรยากาศที่โปร่งใสและเคารพในศักดิ์ศรีและความรู้สึกของกันและกันระวังจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ได้’ รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าว
ดร.สุรินทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า การที่คนไทยส่วนหนึ่งซึ่งมีความสนใจในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะไม่ว่าจะเป็น นางภินันท์ โชติรสเศรณี ประธานกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ นายสุรพล ดวงแข เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชพันธุ์แห่งประเทศไทยฯ Ms.Soraida Salwala, Secretary-General of the Friends of the Asian Elephants (FAE) ที่เขามีความรู้สึกค่อนข้างจะอ่อนไหวรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ต้องได้รับคำตอบ ต้องได้รับคำอธิบายที่ชัดเจนและขอยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของประเทศชาติและคนไทยโดยส่วนรวม อย่ามุบมิบทำกันแบบนี้ มีอะไรจะต้องปิดบัง
‘ถ้าหากว่าเรายอมดำเนินการในลักษณะนี้เพื่อที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นการคิดผิด เพราะเริ่มต้นก็มีความขัดแย้ง เริ่มต้นก็มีการต่อต้านและมันจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความขัดแย้งมากกว่าที่จะเป็นสัญลักษณ์ของมิตรไมตรีระหว่างกัน’ รองหัวหน้าพรรค ปชป.ตั้งข้อสังเกต
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ส.ค. 2549--จบ--
‘ผมไม่โทษรัฐบาลออสเตรเลียและไม่โทษหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องโทษรัฐบาลไทยที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมันกระทบกระเทือนกับศักดิ์ศรีของประเทศชาติและคนไทยทั้งหมดเพราะช้างเป็นสัญลักษณ์ของประเทศและก็ช้างไทยเป็นที่นิยมชมชอบของคนทั่วโลก การที่เราทำอย่างนี้กับทรัพย์สินที่มีค่า ทรัพย์สินทางธรรมชาติที่มีค่า สัตว์ป่าที่มีค่าคู่บ้านคู่เมืองเหมือนกับดูถูกดูหมิ่นประเทศชาติเราเอง’ นายสุรินทร์ กล่าว
ดร.สุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลต่างๆที่ออกมาจากฝ่ายรัฐบาลไม่ชัดเจนและก็ขัดแย้งกันเองตกลงได้มีการสั่งการหรือมีการตรวจสอบดีเอ็นเอหรือไม่ ได้ดำเนินการตรวจสอบดีเอ็นเอหรือไม่ ถ้าไม่มีการตรวจสอบทำไมถึงไปรับปากกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยที่จะดำเนินการขนส่งช้างไปออสเตรเลีย ถ้าหากว่าการตรวจสอบมันมีความยุ่งยากลำบากทางเทคนิคทำไมพูดประเด็นนี้ออกมาก่อน และทำไมต้องขนย้ายจากกาญจนบุรีเข้าสนามบินอู่ตะเภากลางคืนดูเหมือนว่ามีอะไรที่จะปกปิด ไม่เป็นการเริ่มต้นที่ดีของโครงการแลกเปลี่ยนสัตว์ป่าเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างไทย - ออสเตรเลีย
‘เรื่องนี้ทางออกที่ดีที่สุดก็คือเปิดเผยข้อตกลงทั้งหมดที่ทำกันไว้ตั้งแต่ปี 2004 เมื่อ 2 ปีที่แล้วเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดเจนความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางด้านพันธุ์สัตว์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าต้องดำเนินไปในบรรยากาศที่โปร่งใสและเคารพในศักดิ์ศรีและความรู้สึกของกันและกันระวังจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ได้’ รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าว
ดร.สุรินทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า การที่คนไทยส่วนหนึ่งซึ่งมีความสนใจในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะไม่ว่าจะเป็น นางภินันท์ โชติรสเศรณี ประธานกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ นายสุรพล ดวงแข เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชพันธุ์แห่งประเทศไทยฯ Ms.Soraida Salwala, Secretary-General of the Friends of the Asian Elephants (FAE) ที่เขามีความรู้สึกค่อนข้างจะอ่อนไหวรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ต้องได้รับคำตอบ ต้องได้รับคำอธิบายที่ชัดเจนและขอยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของประเทศชาติและคนไทยโดยส่วนรวม อย่ามุบมิบทำกันแบบนี้ มีอะไรจะต้องปิดบัง
‘ถ้าหากว่าเรายอมดำเนินการในลักษณะนี้เพื่อที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นการคิดผิด เพราะเริ่มต้นก็มีความขัดแย้ง เริ่มต้นก็มีการต่อต้านและมันจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความขัดแย้งมากกว่าที่จะเป็นสัญลักษณ์ของมิตรไมตรีระหว่างกัน’ รองหัวหน้าพรรค ปชป.ตั้งข้อสังเกต
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ส.ค. 2549--จบ--