เอกชนชี้พาณิชย์เดินถูกทางการจัดตั้งกองทุนฯ แต่ยังต้องอุดช่องโหว่

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 19, 2006 10:51 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          นางสาวชุติมา  บุณประภัศร  อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการสัมมนา การจัดตั้งแนวทางการจัดตั้งกองทุนเพื่อการปรับตัวรองรับการเปิดเสรีทางการค้า ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันศุกรืที่ 15 ธันวาคม  2549 ณ ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ว่า ทุกฝ่ายเห็นด้วยกับแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสหกรรม และบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรี FTA แต่ในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับหลักการและรูปแบบการบริหารจัดการกองทุนฯ ยังมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเพราะการพิจารณาจัดทำหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ของกองทุนฯ จะได้มีมุมมองที่หลากหลายและครอบคลุมทุกมิติ
ภาคเอกชนเห็นด้วยกับแนวคิดของกองทุนฯ ซึ่งให้ความช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวและเป็นการให้ความช่วยเหลือต่อกลุ่มอุตสาหกรรม/สถาบัน/สมาคม ไม่ใช่การช่วยเหลือรายบุคคลเพราะเป็นการลดการนำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ที่ผิดวัตถุประสงค์ (abuse) แต่มีข้อสังเกตว่าอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกรที่ไม่มีความพร้อมในการรวมกลุ่ม และในส่วนของการช่วยเหลือในลักษณะที่เป็นมาตรการให้ความช่วยเหลือ (in kind) นั้น เป็นหลักการที่ดีที่จะลด abuse ได้ แต่มาตรการ in kind บางเรื่องเช่น มาตรการสนับสนุนให้บริโภคนมในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นต้นอาจมีความผิดพลาดในการนำมาปฏิบัติซึ่งจะต้องระมัดระวังในการนำมาใช้
ส่วนหลักการที่ต้องรอผลการศึกษาในการวิเคราะห์ผลกระทบของอุตสาหกรรมที่เดือดร้อนนั้นอาจไม่ทันต่อการให้ความช่วยเหลือ และได้เสนอแนวทางแก้ไข คือ สำหรับสินค้านำเข้าภายใต้ FTA ควรพิจารณาจากเอกสาร c/o เพื่อดูว่าการทะลักเข้ามาของสินค้านำเข้านั้นเกิดจาก FTA หรือไม่และตั้งข้อสังเกตว่าถ้าอุตสาหกรรมปลายน้ำได้รับผลกระทบ อุตสาหกรรมต้นน้ำจะได้รับความช่วยเหลือด้วยหรือไม่ ส่วนการพิจารณาการนำเข้าบริการจาก FTA นั้น อาจพิจารณาจากการขอรับอนุญาตภายใต้ พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังให้ความเห็นว่ากองทุนฯ เพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถทำให้บังเกิดผลในทางปฏิบัติได้ สิ่งที่ต้องกระทำควบคู่ไปด้วย คือ การกำหนดแผนยุทธศาสาตร์การเปิดเสรีการค้าที่ชัดเจนจะช่วยส่งสัญญาณการปรับตัวให้ผู้ประกอบการได้ และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและรัฐสภา เพื่อช่วยกรองผลกระทบและมีการตรวจสอบที่โปร่งใส
“ภาคเอกชนต้องการให้มีความรอบคอบในการจัดตั้งกองทุนฯ เพื่อให้มีผลในทางปฎิบัติที่เป็นประโยชน์ในวงกว้างที่แท้จริง และเชื่อว่า FTA ยังไม่มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ ผลกระทบที่ได้รับในปัจจุบันนี้ไม่ได้เกิดจาก FTA จึงไม่ควรเร่งรีบในการกำหนดมาตรการจนเกินไป” อธิบดีกรมเจรจาฯ กล่าว
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ