กรุงเทพ--12 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
นางเฮเลน คลาร์ค (The Right Honorable Helen Clark) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์มีกำหนดจะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน 2548 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง และร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงการค้าเสรีไทย-นิวซีแลนด์ และข้อตกลงความร่วมมือที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และเพื่อเป็นการตอบแทนการเยือนนิวซีแลนด์ของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2547 ในการเยือนครั้งนี้ จะมีนายจิม ซัททัน (The Honorable Jim Sutton) รัฐมนตรีเจรจาการค้าระหว่างประเทศ พร้อมด้วยนักธุรกิจชั้นนำ ของนิวซีแลนด์จำนวนหนึ่งร่วมเดินทางมาด้วย
นางเฮเลน คลาร์ค มีกำหนดจะหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในช่วงเช้าของวันที่ 19 เมษายน 2548 ก่อนจะร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงต่างๆ กับไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ระหว่างประเทศทั้งสองต่อไป 4 ฉบับคือ
1) ความตกลงการค้าเสรีไทย-นิวซีแลนด์ (Closer Economic Partnership - CEP)
2) ข้อตกลงตรวจลงตราทำงานและท่องเที่ยว (Arrangement on Working Holiday Scheme - WHS)
3) ข้อตกลงว่าด้วยแรงงาน (Arrangement on Labour)
4) ข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อม (Arrangement on Environment)
นอกจากนั้น ในวันที่ 20 เมษายน 2548 นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์จะเป็นประธานเปิดงานสัมมนาว่าด้วยการดำเนินธุรกิจในนิวซีแลนด์ (Doing Business with New Zealand) ที่โรงแรมคอนราดด้วย
ความสัมพันธ์ไทยกับนิวซีแลนด์ดำเนินมาด้วยความราบรื่นในทุกด้าน และได้พัฒนาไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ นิวซีแลนด์เป็นประเทศหนึ่งที่ได้ให้ความช่วยเหลือไทยอย่างทันท่วงทีและกระตือรือร้นที่จะให้ความร่วมมือในด้านการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ภายหลังเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ในระยะที่ผ่านมา ไทยและนิวซีแลนด์มีความร่วมมือ และมีบทบาทที่สร้างสรรค์ร่วมกันในด้านความมั่นคง การรักษาสันติภาพ และการพัฒนาทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี และจะมีการขยายความร่วมมือดังกล่าวออกไปอย่างกว้างขวาง และในปี 2549 ทั้งสองประเทศจะร่วมกันเฉลิมฉลอง ความสัมพันธ์ครบรอบ 50 ปี
การเยือนของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ในครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยไทยจะเป็นประตูสู่เอเชียให้แก่นิวซีแลนด์ ในขณะที่นิวซีแลนด์จะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ของไทย รวมทั้งเป็นแหล่งเทคโนโลยีและความชำนาญต่างๆ ที่ไทยสามารถเรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน อาทิ ด้านการเกษตร การศึกษา การท่องเที่ยว พลังงาน และวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
นางเฮเลน คลาร์ค (The Right Honorable Helen Clark) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์มีกำหนดจะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน 2548 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง และร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงการค้าเสรีไทย-นิวซีแลนด์ และข้อตกลงความร่วมมือที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และเพื่อเป็นการตอบแทนการเยือนนิวซีแลนด์ของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2547 ในการเยือนครั้งนี้ จะมีนายจิม ซัททัน (The Honorable Jim Sutton) รัฐมนตรีเจรจาการค้าระหว่างประเทศ พร้อมด้วยนักธุรกิจชั้นนำ ของนิวซีแลนด์จำนวนหนึ่งร่วมเดินทางมาด้วย
นางเฮเลน คลาร์ค มีกำหนดจะหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในช่วงเช้าของวันที่ 19 เมษายน 2548 ก่อนจะร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงต่างๆ กับไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ระหว่างประเทศทั้งสองต่อไป 4 ฉบับคือ
1) ความตกลงการค้าเสรีไทย-นิวซีแลนด์ (Closer Economic Partnership - CEP)
2) ข้อตกลงตรวจลงตราทำงานและท่องเที่ยว (Arrangement on Working Holiday Scheme - WHS)
3) ข้อตกลงว่าด้วยแรงงาน (Arrangement on Labour)
4) ข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อม (Arrangement on Environment)
นอกจากนั้น ในวันที่ 20 เมษายน 2548 นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์จะเป็นประธานเปิดงานสัมมนาว่าด้วยการดำเนินธุรกิจในนิวซีแลนด์ (Doing Business with New Zealand) ที่โรงแรมคอนราดด้วย
ความสัมพันธ์ไทยกับนิวซีแลนด์ดำเนินมาด้วยความราบรื่นในทุกด้าน และได้พัฒนาไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ นิวซีแลนด์เป็นประเทศหนึ่งที่ได้ให้ความช่วยเหลือไทยอย่างทันท่วงทีและกระตือรือร้นที่จะให้ความร่วมมือในด้านการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ภายหลังเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ในระยะที่ผ่านมา ไทยและนิวซีแลนด์มีความร่วมมือ และมีบทบาทที่สร้างสรรค์ร่วมกันในด้านความมั่นคง การรักษาสันติภาพ และการพัฒนาทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี และจะมีการขยายความร่วมมือดังกล่าวออกไปอย่างกว้างขวาง และในปี 2549 ทั้งสองประเทศจะร่วมกันเฉลิมฉลอง ความสัมพันธ์ครบรอบ 50 ปี
การเยือนของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ในครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยไทยจะเป็นประตูสู่เอเชียให้แก่นิวซีแลนด์ ในขณะที่นิวซีแลนด์จะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ของไทย รวมทั้งเป็นแหล่งเทคโนโลยีและความชำนาญต่างๆ ที่ไทยสามารถเรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน อาทิ ด้านการเกษตร การศึกษา การท่องเที่ยว พลังงาน และวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-