นายนริศ ชัยสูตรผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปิดเผยถึงการเดินทางมาRoad Show ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 1 - 6 กุมภาพันธ์ 2549 ของนายไชยยศ สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังว่า เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการส่งเสริมให้ต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ที่เป็นพิเศษในการเดินทางมาครั้งนี้ คือ นอกจากจะชี้ชวนให้เห็นถึงความน่าลงทุนในธุรกิจทั่วไปแล้ว ยังจะมีการพูดถึงโครงการMega project ด้วย เนื่องจากขณะนี้ส่วนหนึ่งมีความชัดเจนแล้วว่าประเทศไทยจะใช้วิธีการให้ต่างชาติเสนอวิธีการจัดทำโครงสร้างด้านการเงิน หรือการไฟแนนซ์โครงการ โดยฝ่านไทยจะให้รายละเอียดในเรื่องข้อมูลพื้นฐาน
สำหรับโครงการ Mega project ที่จะนำมาพูดถึงคือ โครงการด้านขนส่งมวลชน (Mass rapid transit) ซึ่งมีมูลค่าโครงการโดยประมาณ 400,000 ล้านบาท จากยอดโครงการ Mega project ทั้งหมดที่มีมูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท โดยรายละเอียดประกอบด้วย
โครงการ Mass Transit 7-10 สาย เป็นมูลค่า 400,000 ล้านบาทจากการศึกษาเบื้องต้นประมาณการว่าจะก่อสร้างเสร็จสิ้นภายใน 6 ปี
ขณะนี้รัฐบาลได้เชิญชวนนักลงทุนต่างชาติและในประเทศมากกว่า 1,000 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้รับข้อเสนอประมาณภายในเดือนเมษายน2549โดยภาคเอกชนจะเสนอรายละเอียดของโครงการ ผลประโยชน์ ต้นทุน และโครงสร้างทางการเงิน เพื่อให้รัฐบาลพิจารณา ซึ่งโครงสร้างทางการเงินจะรวมถึง การมีส่วนร่วมของภาครัฐและเอกชน (Public Private Participation - /PPP)
เหตุผลสำคัญในการลงทุนในโครงการ Mass rapid transit มีดังนี้
1. ประเทศไทยควรจะต้องมีการขนส่งมวลชนที่ทันสมัย เพื่อรักษาความเป็นศูนย์กลางการเดินทางของโลก
2. พัฒนาระบบ logistic เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทันสมัยไปสู่อินโดจีน จีนตอนใต้ และเอเชียใต้
เมื่อปี 2548 ประเทศไทยนำเข้าน้ำมันเข้ามากกว่า 10% ของ GDP เล็กน้อย เพราะฉะนั้นการมี Mega project จะช่วยแก้ปัญหาต้นทุนด้านพลังงานนี้
เพราะฉะนั้น การลงทุนในระบบสาธารณูปโภคดังที่กล่าวไว้นี้ ( Mega Projects) จะทำให้ประเทศไทยสามารถใช้น้ำมันได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น
ดร. นริศ ชัยสูตร คาดว่าจะมีนักลงทุนไม่น้อยกว่า 80-100 คน จากเยอรมันนีและยูโรปที่สนใจเข้าฟังการชี้แจงครั้งนี้ และโอกาสที่นักลงทุนเหล่านี้ จะมาร่วมทำข้อเสนอน่าจะมีสูง เพราะขณะนี้ประเทศต่างๆมีเงินออมเหลือมากและต้องการจะหาแหล่งลงทุนใหม่ๆ
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 10/2549 2 กุมภาพันธ์ 49--
สำหรับโครงการ Mega project ที่จะนำมาพูดถึงคือ โครงการด้านขนส่งมวลชน (Mass rapid transit) ซึ่งมีมูลค่าโครงการโดยประมาณ 400,000 ล้านบาท จากยอดโครงการ Mega project ทั้งหมดที่มีมูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท โดยรายละเอียดประกอบด้วย
โครงการ Mass Transit 7-10 สาย เป็นมูลค่า 400,000 ล้านบาทจากการศึกษาเบื้องต้นประมาณการว่าจะก่อสร้างเสร็จสิ้นภายใน 6 ปี
ขณะนี้รัฐบาลได้เชิญชวนนักลงทุนต่างชาติและในประเทศมากกว่า 1,000 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้รับข้อเสนอประมาณภายในเดือนเมษายน2549โดยภาคเอกชนจะเสนอรายละเอียดของโครงการ ผลประโยชน์ ต้นทุน และโครงสร้างทางการเงิน เพื่อให้รัฐบาลพิจารณา ซึ่งโครงสร้างทางการเงินจะรวมถึง การมีส่วนร่วมของภาครัฐและเอกชน (Public Private Participation - /PPP)
เหตุผลสำคัญในการลงทุนในโครงการ Mass rapid transit มีดังนี้
1. ประเทศไทยควรจะต้องมีการขนส่งมวลชนที่ทันสมัย เพื่อรักษาความเป็นศูนย์กลางการเดินทางของโลก
2. พัฒนาระบบ logistic เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทันสมัยไปสู่อินโดจีน จีนตอนใต้ และเอเชียใต้
เมื่อปี 2548 ประเทศไทยนำเข้าน้ำมันเข้ามากกว่า 10% ของ GDP เล็กน้อย เพราะฉะนั้นการมี Mega project จะช่วยแก้ปัญหาต้นทุนด้านพลังงานนี้
เพราะฉะนั้น การลงทุนในระบบสาธารณูปโภคดังที่กล่าวไว้นี้ ( Mega Projects) จะทำให้ประเทศไทยสามารถใช้น้ำมันได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น
ดร. นริศ ชัยสูตร คาดว่าจะมีนักลงทุนไม่น้อยกว่า 80-100 คน จากเยอรมันนีและยูโรปที่สนใจเข้าฟังการชี้แจงครั้งนี้ และโอกาสที่นักลงทุนเหล่านี้ จะมาร่วมทำข้อเสนอน่าจะมีสูง เพราะขณะนี้ประเทศต่างๆมีเงินออมเหลือมากและต้องการจะหาแหล่งลงทุนใหม่ๆ
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 10/2549 2 กุมภาพันธ์ 49--