พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 3/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 6 - 12 ม.ค.49
ในช่วงวันที่ 6-9 ม.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย ตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกในระยะแรก ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงทำให้ภาคเหนือตอนบนมีอากาศหนาวกับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่บริเวณยอดดอย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศหนาวกับมีลมแรง ส่วนภาคอื่นๆ จะมีอากาศเย็นกับ มีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น คลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่ สุราษฎร์ธานีมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ในช่วงวันที่ 10-12 ม.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นนี้จะอ่อนกำลังลง ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้า ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจายและคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง
ข้อควรระวัง
ในระยะนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้น ขอให้ผู้เดินทางระมัดระวังอันตรายในการขับขี่ยานพาหนะขณะผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงไว้ด้วย
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
มีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ส่วนมากในช่วงวันที่ 7-10 ม.ค. ทำให้ทางตอนบนของภาคมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา บริเวณ ยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 1-4 องศา และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. เว้นแต่ ในช่วงวันที่ 6-7 ม.ค. จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่
มีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ส่วนมากในช่วงวันที่ 7-10 ม.ค. ทำให้ทางตอนบนของภาคมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา บริเวณ ยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 1-4 องศา และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. เว้นแต่ ในช่วงวันที่ 6-7 ม.ค. จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิต ทางการเกษตรไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าว รวมทั้งควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้ได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอด้วย ส่วนผู้ที่ปลูกลิ้นจี่ควรระวังและป้องกันการระบาดของไรซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ช่อดอกร่วงหล่น
ตะวันออกเฉียงเหนือ
มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา กับมีลมแรงส่วนมากในช่วงวันที่ 7-9 ม.ค. ทำให้ทางตอนบนของภาคมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศา เว้นแต่ในช่วงวันที่ 6-7 ม.ค. จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา กับมีลมแรงส่วนมากในช่วงวันที่ 7-9 ม.ค. ทำให้ทางตอนบนของภาคมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศา เว้นแต่ในช่วงวันที่ 6-7 ม.ค. จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ในช่วงนี้อุณหภูมิที่ลดลงจะทำให้สัตว์น้ำเครียดและ กินอาหารได้น้อย ดังนั้นผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหารให้เหมาะสม เพื่อป้องกันอาหารเหลือซึ่งจะทำให้น้ำเน่าเสีย ส่วนเกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดด้วย
กลาง
มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ส่วนมากทางตอนบนของภาค ในช่วงวันที่ 7-9 ม.ค. ทำให้มีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศา เว้นแต่ในช่วงวันที่ 6-7 ม.ค. จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 2-3 องศา ส่วนมากทางตอนบนของภาค ในช่วงวันที่ 7-9 ม.ค. ทำให้มีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศา เว้นแต่ในช่วงวันที่ 6-7 ม.ค. จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงที่มีฝนตกเกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทิ้งไว้กลางแจ้ง ส่วนชาวสวนมะม่วงควรดูแลให้น้ำรวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดด้วย
ตะวันออก
มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 2-3 องศา กับมีลมแรงในช่วงวันที่ 7-9 ม.ค. ทำให้มีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา และมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40% ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ชลบุรี ระยอง และตราด ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. เกษตรกรควรระวังและป้องกันผลผลิตเสียหายเนื่องจาก ฝนที่ตกด้วย ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก ชาวสวนควรป้องกันความเสียหายเนื่องจากลมแรง รวมทั้งควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ
มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 2-3 องศา กับมีลมแรงในช่วงวันที่ 7-9 ม.ค. ทำให้มีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา และมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40% ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ชลบุรี ระยอง และตราด ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. เกษตรกรควรระวังและป้องกันผลผลิตเสียหายเนื่องจาก ฝนที่ตกด้วย ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก ชาวสวนควรป้องกันความเสียหายเนื่องจากลมแรง รวมทั้งควร ระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ
ใต้
# ทางฝั่งตะวันออกอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมามีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-20% ของพื้นที่ ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนอง บางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30% ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
# ทางฝั่งตะวันออกอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมามีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-20% ของพื้นที่ ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนอง บางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30% ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ระยะนี้บริเวณตอนบนของภาคมีฝนตกน้อย สำหรับมะม่วงที่กำลังออกดอก ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆ ส่วนทางตอนล่างของภาคยังคงมีฝนตก ชาวสวนยางพาราควรระวังการระบาดของโรคพืชจากเชื้อรา อนึ่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจะมีกำลังแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-