นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัยเปิดเผยว่า ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2548 กรมการประกันภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้ส่งเอกสารใบปลิวไปยังบริษัทต่างๆ เรื่องกรมการประกันภัยมีคำสั่งปิดบริษัทประกันภัยจำนวน 6 บริษัท ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ขณะนี้มีบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตเพียง 1 บริษัทเท่านั้น โดยเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการลงนามคำสั่ง เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของ บริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด เนื่องจากแผนฟื้นฟูไม่สามารถแก้ไขปัญหาการเพิ่มทุนและการจ่ายค่าสินไหมให้กับผู้เอาประกันภัยได้ ประกอบกับบริษัทประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทนและฝ่าฝืนกฏหมายประกันภัย
เพื่อเป็นการให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัย และผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัยของ บริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด กรมการประกันภัยได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือดังนี้
1. ในกรณีที่กรมธรรม์ประกันภัยยังมีระยะเวลาคุ้มครองเหลืออยู่ หากผู้เอาประกันภัยต้องการใช้สิทธิในการได้รับความคุ้มครองตามระยะเวลาประกันภัยที่เหลืออยู่ สามารถยื่นหลักฐานขอทำประกันภัยใหม่กับบริษัทประกันภัยหรือสาขาของบริษัทประกันภัยที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อบริษัทที่เข้าร่วมมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยจำนวน 33 แห่ง ภายในวันที่ 30 กันยายน 2548ห้ความช่วยเหลือดังนี้
2. ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องการยกเลิกกรมธรรม์ ให้ผู้เอาประกันภัยติดต่อผู้ชำระบัญชีบริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด เพื่อยื่นขอรับคืนเบี้ยประกันภัย ณ ที่ทำการชั่วคราวผู้ชำระบัญชีกรณีบริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด ชั้น 3 กรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ เลขที่44/100 ถ.นนทบุรี 1 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี หรือที่สำนักงานคุ้มครองผู้เอาประกันภัยเขต 4 เขต และสำนักงาน ประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัด โดยใช้หลักฐานดังนี้ สำเนากรมธรรม์ประกันภัย สำเนาบัตรประชาชน ใบเสร็จรับเงิน (ถ้ามี) และ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2548 ตามประกาศผู้ชำระบัญชี
3. ในกรณีมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าก่อนหรือหลังวันที่ 7 กรกฎาคม 2548 ให้ผู้มีสิทธิ เรียกร้องติดต่อผู้ชำระบัญชีบริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด เพื่อยื่นขอรับชำระหนี้ต่อผู้ชำระบัญชี หรือที่สำนักงานคุ้มครองผู้เอาประกันภัยเขต 4 เขต และสำนักงานประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัด โดยใช้หลักฐานดังนี้ กรมธรรม์ประกันภัยพร้อมสำเนา สำเนาบัตรประชาชน ใบเคลม ใบนัดชำระหนี้ และหนังสือรับรอง การจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2548 ตามประกาศผู้ชำระบัญชี
หากมีปัญหาในเรื่องของการโอนกรมธรรม์หรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ ประกันภัย ขอให้ติดต่อสอบถามและขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186
ที่มา: http://www.doi.go.th