สถาบันเอเซียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ร่วมกับสมาคมวัฒนธรรมไทย-จีน และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ จัดการประชุมสัมมนาทางวิชาการในวาระ “3 ทศวรรษ สัมพันธ์ภาพไทย-จีน” เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2548 ได้เชิญ ฯพณฯ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี มาปาฐกถาในหัวข้อ “ประสบการณ์ในการวางรากฐานความสัมพันธ์ไทย-จีน” โดยกล่าวว่าไทยและจีนได้มีความสัมพันธ์ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นของจีนและมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งโดยสังเกตุได้จากการถ่ายทอดศิลปะการทำเครื่องเคลือบดินเผาให้ไทยในสมัยสุโขทัย และพลเอกชวลิต ยังกล่าวด้วยว่าการชูนโยบายความสัมพันธ์ที่เน้นการเป็นพันธมิตรในปัจจุบันของไทยอาจทำให้ละเลยความสัมพันธ์ในเชิงลึกที่เคยเป็นมิตรในครัวเรือนมากกว่าหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ
ด้านศาสตราจารย์เหอเซิ่งต๋า รองผู้อำนวยการบัณฑิตยสภาด้านสังคมศาสตร์มณฑลหยุนหนัน ได้กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนในอนาคตควรเน้นการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจคุนหมิง-กรุงเทพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงซึ่งจะเป็นการผลักดันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
ในขณะที่นายโจว ฮอร์น กรรมการบริหาร บริษัทยุทธศาสตร์ 613 จำกัด บุตรบุญธรรมของอดีตนายกรัฐมนตรีของจีน นายโจวเอินไหล ได้ร่วมอภิปรายด้วย โดยกล่าวว่ายังมีธุรกิจในด้านต่างๆ เช่น ค้าปลีก ท่องเที่ยว รถยนต์ พลังงาน และการดูแลรักษาสิ่งแวคล้อม ที่จะเป็นที่น่าสนใจของนักธุรกิจไทย และได้แนะนำว่าการส่งสินค้าเข้าไปในจีนไม่ควรเข้าไปแข่งขันตัดราคากับสินค้าท้องถิ่น อีกทั้งยังได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของจีนในอีก 5 ปี จะมีความเจริญเติบโตเป็นอันดับ 5 ของโลก
นายสงวน ลิ่วมโนมนต์ ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายได้กล่าวว่าในด้านระบบการศึกษาของจีนได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการศึกษาอย่างเข้มข้น โดยชูแนวคิดว่า การศึกษาเปลี่ยนแปลงอนาคต โดยที่รัฐบาลได้ทุ่มเงินในการพัฒนาด้านการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 60% และระดับอุดมศึกษาเพิ่มเป็น 15% ตลอดจนมุ่งเน้นในด้านการศึกษาวิจัยเพื่อการพัฒนา
ประเด็นวิเคราะห์:
ปัจจุบันไทยและจีนมีค่านิยมหลายอย่างในด้านทางเศรษฐกิจและการเมืองที่เหมือนกันและความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนอยู่บนพื้นฐานของความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งในอดีตไทยและจีนมีความสัมพันธ์อันดีตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น จะสังเกตุได้จากการถ่ายทอดศิลปะการทำเครื่องเคลือบดินเผาในสมัยสุโขทัย การปักไหม 2 หน้า และการมอบหมีแพนด้าให้ไทย โดยพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้เตือนรัฐบาลไทยอย่าได้ละเลยความสัมพันธ์ในเชิงลึกในฐานะที่เป็นเพื่อนที่ใกล้ชิดกันมากกว่าการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ และผู้เชี่ยวชาญมณฑลยูนานได้แนะให้ไทยและจีนควรเน้นการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจคุนหมิง-กรุงเทพ
ที่มา: http://www.depthai.go.th