ปชป.เผย ‘จีอี อินวิชั่น’ อาจถูก กลต.สหรัฐฯรื้อคดีใหม่ จี้ ‘สุวัจน์’ เปิด จ.ม.ไทยก่อนส่งให้มะกัน แนะนายกฯสั่ง ปปง.-อธิบดีกรมสรรพากรตรวจเส้นทางเงิน-การเสียภาษี กมธ.ปปช.เตรียมบุกไซต์หนองงูเห่า
ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานเทคโนโลยีและการสื่อสาร และคมนาคม ของพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขอชมเชยรัฐบาลที่พยายามหาทางแก้ปัญหานี้ด้วยการที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำจดหมายไปยังทางการสหรัฐฯ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 แต่กังวลว่าจดหมายที่จะทำขึ้นนี้มีเนื้อหาเป็นอย่างไร เพราะถ้าเขียนผิดก็จะได้คำตอบผิด ฉะนั้นจึงขอให้นายสุวัจน์ เขียนให้ตรงว่าต้องการขอสำเนาเอกสารที่บริษัท จีอี อินวิชั่น ได้สารภาพกับทางการสหรัฐฯ ในส่วนที่พาดพิงถึงทางการไทยว่าอย่างไร และขอให้นายสุวัจน์ เปิดเผยจดหมายให้ประชาชนทราบ ก่อนที่จะส่งไปให้กับทางการสหรัฐฯ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เห็นเนื้อความของจดหมายดังกล่าว เพราะรัฐบาลจะไปสรุปง่ายๆ ว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นก็จะค้านกับหลักฐานกับหลักฐานต่างๆ ที่ออกมา
ด้านนายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การจัดซื้อดังกล่าวไม่มีความไม่โปร่งใส โดยเป็นการทำสัญญาในหลายขั้นตอนกว่าจะถึงผู้ขาย และมีการเพิ่มราคาอุปกรณ์ ซึ่งหลายประเทศสั่งซื้อในราคา 800,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่ประเทศไทยกลับซื้อในวงเงิน 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจากกรณีทีเกิดขึ้น ตนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามแก้ต่างให้กับผู้ที่ต้องสงสัยว่าประพฤติมิชอบ ดังนั้น ตนจึงอยากแนะนำวิธีการให้ได้มาซึ่งเอกสารพยายานหลักฐานในเรื่องนี้แก่นายกฯ คือ 1.ขอให้นายกฯไปแจ้งความกล่าวโทษ แม้จะยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำผิด เพื่อให้พนักงานสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด และเกิดเป็นคดีขึ้น จากนั้น พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการขอเอกสารเพื่อนำมาใช้ในกระบวนการทางอาญา 2.ขอให้นายกฯสั่งการไปยังอธิบดีกรมสรรพากรให้ตรวจสอบเส้นทางของเงิน และการจ่ายภาษีของบุคคลที่เกี่ยวข้องที่รับเงินจากบทม.หรือเจบิค ไปแล้วประมาณ 2,900 ล้านบาท เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบว่าใครรับเงินและนำไปจ่ายต่อให้กับใคร และควรสั่งการไปยังคณะกรรมการปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าสิ่งที่พรรคทำอยู่นั้น ต้องการสร้างความกระจ่าง ไม่ใช่เป็นการเล่นเกมทางการเมือง
จากนั้น นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ คณะทำงานด้านคมนาคมฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้รับสำนวนคำฟ้องที่ทาง กลต.สหรัฐฯ ฟ้องบริษัท จีอี อินวิชั่น จากศาลแขวงเมืองแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ พบว่าคดีนี้ได้มีการยอมความกันในวันที่ 7 ก.พ.2548 โดยได้มีการทำสัญญาข้อตกลงในการยอมความซึ่งลงนามโดยนายดับเบิ้ลยู สก็อต ซีลีย์ เลขานุการบริษัท จีอี อินวิชั่น อิงค์ ที่กำหนดให้บริษัทดังกล่าวในฐานะจำเลย จะต้องยอมทำตามนโยบายของ กลต.สหรัฐฯ ทั้งนี้ ในเอกสารดังกล่าวมีเนื้อความที่เป็นประเด็นสำคัญตอนหนึ่ง ระบุว่า จำเลยเข้าใจและตกลงที่จะปฏิบัติตามนโยบายของ กลต.สหรัฐฯ โดยจำเลยจะไม่ได้ดำเนินการใดๆ หรือทำการแถลง หรืออนุญาตให้มีการแถลงใดๆต่อสาธารณชน อันเป็นการปฏิเสธโดยตรงหรือโดยปริยาย ซึ่งข้อกล่าวหาใดๆในคำฟ้องหรือก่อให้เกิดความคิดว่าคำฟ้องนั้นปราศจากมูลข้อเท็จจริง โดยหากจำเลยกระทำผิดข้อตกลงนี้กลต.สหรัฐฯจะร้องขอต่อศาล เพื่อยกเลิกคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งหมายถึงยกเลิกการยอมความ แล้วรื้อฟื้นการดำเนินคดีขึ้นมาใหม่
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องคำฟ้องของทาง กลต.สหรัฐฯ ที่ได้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2548 ซึ่งศาลแขวงแคลิฟอร์เนียได้ตัดสินตามคำฟ้องดังกล่าว ทำให้บริษัท จีอี อินวิชั่น ยอมจ่ายค่าปรับรวม 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯนั้น ในสำนวนคำฟ้องมีประเด็นน่าสนใจ ซึ่งจะเจาะจงเฉพาะกรณีของไทย คือ การระบุว่าตัวแทนของบริษัทดังกล่าวที่อยู่ในประเทศไทยจะใช้ส่วนต่างของราคาในการจัดซื้อ มีความเป็นไปได้อย่างมากว่า จะนำเงินจำนวนนี้ไปซื้อของขวัญ หรือให้เป็นเงินแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่เป็นผู้ดูแลองค์กรที่ควบคุมการสร้างสนามบิน ส่วนที่มีข่าวว่ามีการจ่ายเงินกันไปแล้วบางส่วน แต่ปรากฏว่าในคำฟ้องข้อที่ 18 ระบุว่าบริษัท จีอี อินวิชั่น ยังไม่ได้แสดงรายรับจากสัญญาจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ โดยได้ตกลงในสัญญาซื้อขายว่าบริษัท จีอี อินวิชั่น จะรับเงินจากการซื้อขายกับบทม.หรือรัฐบาลไทยโดยตรงเท่านั้น ดังนั้น เงินที่ผู้รับเหมาใหญ่ คือ กิจการร่วมค้า ไอทีโอ อาจจะถูกจ่ายผ่านไปถึงบริษัทตัวแทนจำหน่าย จึงยังไม่มีการจ่ายให้กับบริษัท จีอี อินวิชั่น เพราะบริษัทนี้รับเงินจากการซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายไม่ได้
ด้านนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สัญญาจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์นี้เป็นการจัดซื้อแบบพิเศษที่ไม่มีการกำหนดราคากลางในการประมูล ซึ่งเจ้าหน้าที่ของบทม.ได้ยืนยันกับทางกมธ.ในประเด็นนี้ และในการกำหนดสเปกอุปกรณ์ พบว่ามีการปิดกั้นเพื่อให้มีบริษัทผู้ผลิตน้อยรายที่มีอุปกรณ์ตรงตามที่กำหนด ทำให้เกิดการล็อกสเปกตั้งแต่ยังไม่ได้ทำสัญญา และทางกิจการร่วมค้า ไอทีโอ ได้ทำเอกสารยืนยันกับ บทม.ว่าไม่ขอรับทำงานนี้ เนื่องจากมีความยุ่งยาก อาจทำให้งานใหญ่ของบริษัทฯได้รับผลกระทบไปด้วย แต่สุดท้ายก็ถูกบังคับให้เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีบริษัท แพทริออต บิสซิเนส คอนซัลแทนต์ เข้ามาเป็นตัวเชื่อมต่อในการนำสินค้าเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เห็นว่าไม่ได้เป็นการทำตามระเบียบของทางราชการหรือข้อบังคับใดๆ มาจัดการเลย แต่ทำสัญญาโดยใช้มติ ค.ร.ม.เมื่อเดือน พ.ย.2546 มาดำเนินการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ บทม.ได้รับคำสั่งไปทำตามความต้องการของผู้สั่งการที่อยากจะทำ
นายชาญชัย ยังกล่าวอีกว่า กมธ.ได้ตรวจสอบเส้นทางการจ่ายเงิน นายศรีสุข จันทรางศุ ประธานกรรมการ บริษัท การท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวยืนยันในการชี้แจ้งกับ กมธ. ว่าได้มีการจ่ายเงินไปร้อยละ 69 ตามงวดงาน 36 งวด ซึ่งทางกมธ.ได้ตรวจสอบ พบว่ามีสิ่งที่แสดงการทุจริตชัดเจน คือ ในงวดงานที่ 34 ทาง บทม.จะต้องจ่ายเงินให้กับบริษัทคู่สัญญา เพื่อนำไปจ่ายให้บริษัท จีอี อินวิชั่น ร้อยละ 57 จากการไปตรวจเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 จำนวน 10 เครื่อง ที่โรงงานในสหรัฐฯ หลังจากนั้น ในงวดงานที่ 35 ในเดือน ต.ค. 2547 ได้จ่ายเงินอีก รวมคิดเป็นร้อยละ 63 ซึ่งกำหนดว่าต้องนำสินค้าลงเรือ เพื่อส่งมายังประเทศไทย แต่ขณะนี้อุปกรณ์ทั้ง 10 เครื่องยังไม่ได้ส่งมาถึงไทย แต่ต่อมา ในงวดงานที่ 36 ได้มีการจ่ายเงินอีก รวมคิดเป็นร้อยละ 69 โดยผู้ผลิตจะต้องส่งสินค้าชนิดนี้อีกจำนวน 10 เครื่อง แต่ก็ยังไม่มีการส่งเครื่องซีทีเอ็กซ์มาถึงไทยแม้แต่เครื่องเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ บทม.ยืนยันว่า เครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 ทั้งหมดจำนวน 26 เครื่อง ยังคงอยู่ที่โรงงาน ในสหรัฐฯ จึงทำให้เห็นว่าเส้นทางการจ่ายเงินดังกล่าวมีการทุจริตและทำผิดสัญญา โดยน่าสงสัยว่าการจ่ายเงินที่เกิดขึ้นเป็นการจ่ายเงินให้กับใคร ทั้งนี้ ในการเดินทางไปตรวจการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 24 พ.ค. 2548 คณะกรรมาธิการจะไปพบกับประธานบอร์ดบทม. โดยมีจะนำเอกสารการอนุมัติจ่ายเงินที่ระบุว่าใครเป็นผู้ลงนามอนุมัติมาให้กับกรรมาธิการ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 พ.ค. 2548--จบ--
-ดท-
ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานเทคโนโลยีและการสื่อสาร และคมนาคม ของพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขอชมเชยรัฐบาลที่พยายามหาทางแก้ปัญหานี้ด้วยการที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำจดหมายไปยังทางการสหรัฐฯ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 แต่กังวลว่าจดหมายที่จะทำขึ้นนี้มีเนื้อหาเป็นอย่างไร เพราะถ้าเขียนผิดก็จะได้คำตอบผิด ฉะนั้นจึงขอให้นายสุวัจน์ เขียนให้ตรงว่าต้องการขอสำเนาเอกสารที่บริษัท จีอี อินวิชั่น ได้สารภาพกับทางการสหรัฐฯ ในส่วนที่พาดพิงถึงทางการไทยว่าอย่างไร และขอให้นายสุวัจน์ เปิดเผยจดหมายให้ประชาชนทราบ ก่อนที่จะส่งไปให้กับทางการสหรัฐฯ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เห็นเนื้อความของจดหมายดังกล่าว เพราะรัฐบาลจะไปสรุปง่ายๆ ว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นก็จะค้านกับหลักฐานกับหลักฐานต่างๆ ที่ออกมา
ด้านนายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การจัดซื้อดังกล่าวไม่มีความไม่โปร่งใส โดยเป็นการทำสัญญาในหลายขั้นตอนกว่าจะถึงผู้ขาย และมีการเพิ่มราคาอุปกรณ์ ซึ่งหลายประเทศสั่งซื้อในราคา 800,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่ประเทศไทยกลับซื้อในวงเงิน 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจากกรณีทีเกิดขึ้น ตนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามแก้ต่างให้กับผู้ที่ต้องสงสัยว่าประพฤติมิชอบ ดังนั้น ตนจึงอยากแนะนำวิธีการให้ได้มาซึ่งเอกสารพยายานหลักฐานในเรื่องนี้แก่นายกฯ คือ 1.ขอให้นายกฯไปแจ้งความกล่าวโทษ แม้จะยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำผิด เพื่อให้พนักงานสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด และเกิดเป็นคดีขึ้น จากนั้น พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการขอเอกสารเพื่อนำมาใช้ในกระบวนการทางอาญา 2.ขอให้นายกฯสั่งการไปยังอธิบดีกรมสรรพากรให้ตรวจสอบเส้นทางของเงิน และการจ่ายภาษีของบุคคลที่เกี่ยวข้องที่รับเงินจากบทม.หรือเจบิค ไปแล้วประมาณ 2,900 ล้านบาท เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบว่าใครรับเงินและนำไปจ่ายต่อให้กับใคร และควรสั่งการไปยังคณะกรรมการปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าสิ่งที่พรรคทำอยู่นั้น ต้องการสร้างความกระจ่าง ไม่ใช่เป็นการเล่นเกมทางการเมือง
จากนั้น นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ คณะทำงานด้านคมนาคมฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้รับสำนวนคำฟ้องที่ทาง กลต.สหรัฐฯ ฟ้องบริษัท จีอี อินวิชั่น จากศาลแขวงเมืองแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ พบว่าคดีนี้ได้มีการยอมความกันในวันที่ 7 ก.พ.2548 โดยได้มีการทำสัญญาข้อตกลงในการยอมความซึ่งลงนามโดยนายดับเบิ้ลยู สก็อต ซีลีย์ เลขานุการบริษัท จีอี อินวิชั่น อิงค์ ที่กำหนดให้บริษัทดังกล่าวในฐานะจำเลย จะต้องยอมทำตามนโยบายของ กลต.สหรัฐฯ ทั้งนี้ ในเอกสารดังกล่าวมีเนื้อความที่เป็นประเด็นสำคัญตอนหนึ่ง ระบุว่า จำเลยเข้าใจและตกลงที่จะปฏิบัติตามนโยบายของ กลต.สหรัฐฯ โดยจำเลยจะไม่ได้ดำเนินการใดๆ หรือทำการแถลง หรืออนุญาตให้มีการแถลงใดๆต่อสาธารณชน อันเป็นการปฏิเสธโดยตรงหรือโดยปริยาย ซึ่งข้อกล่าวหาใดๆในคำฟ้องหรือก่อให้เกิดความคิดว่าคำฟ้องนั้นปราศจากมูลข้อเท็จจริง โดยหากจำเลยกระทำผิดข้อตกลงนี้กลต.สหรัฐฯจะร้องขอต่อศาล เพื่อยกเลิกคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งหมายถึงยกเลิกการยอมความ แล้วรื้อฟื้นการดำเนินคดีขึ้นมาใหม่
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องคำฟ้องของทาง กลต.สหรัฐฯ ที่ได้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2548 ซึ่งศาลแขวงแคลิฟอร์เนียได้ตัดสินตามคำฟ้องดังกล่าว ทำให้บริษัท จีอี อินวิชั่น ยอมจ่ายค่าปรับรวม 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯนั้น ในสำนวนคำฟ้องมีประเด็นน่าสนใจ ซึ่งจะเจาะจงเฉพาะกรณีของไทย คือ การระบุว่าตัวแทนของบริษัทดังกล่าวที่อยู่ในประเทศไทยจะใช้ส่วนต่างของราคาในการจัดซื้อ มีความเป็นไปได้อย่างมากว่า จะนำเงินจำนวนนี้ไปซื้อของขวัญ หรือให้เป็นเงินแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่เป็นผู้ดูแลองค์กรที่ควบคุมการสร้างสนามบิน ส่วนที่มีข่าวว่ามีการจ่ายเงินกันไปแล้วบางส่วน แต่ปรากฏว่าในคำฟ้องข้อที่ 18 ระบุว่าบริษัท จีอี อินวิชั่น ยังไม่ได้แสดงรายรับจากสัญญาจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ โดยได้ตกลงในสัญญาซื้อขายว่าบริษัท จีอี อินวิชั่น จะรับเงินจากการซื้อขายกับบทม.หรือรัฐบาลไทยโดยตรงเท่านั้น ดังนั้น เงินที่ผู้รับเหมาใหญ่ คือ กิจการร่วมค้า ไอทีโอ อาจจะถูกจ่ายผ่านไปถึงบริษัทตัวแทนจำหน่าย จึงยังไม่มีการจ่ายให้กับบริษัท จีอี อินวิชั่น เพราะบริษัทนี้รับเงินจากการซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายไม่ได้
ด้านนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สัญญาจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์นี้เป็นการจัดซื้อแบบพิเศษที่ไม่มีการกำหนดราคากลางในการประมูล ซึ่งเจ้าหน้าที่ของบทม.ได้ยืนยันกับทางกมธ.ในประเด็นนี้ และในการกำหนดสเปกอุปกรณ์ พบว่ามีการปิดกั้นเพื่อให้มีบริษัทผู้ผลิตน้อยรายที่มีอุปกรณ์ตรงตามที่กำหนด ทำให้เกิดการล็อกสเปกตั้งแต่ยังไม่ได้ทำสัญญา และทางกิจการร่วมค้า ไอทีโอ ได้ทำเอกสารยืนยันกับ บทม.ว่าไม่ขอรับทำงานนี้ เนื่องจากมีความยุ่งยาก อาจทำให้งานใหญ่ของบริษัทฯได้รับผลกระทบไปด้วย แต่สุดท้ายก็ถูกบังคับให้เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีบริษัท แพทริออต บิสซิเนส คอนซัลแทนต์ เข้ามาเป็นตัวเชื่อมต่อในการนำสินค้าเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เห็นว่าไม่ได้เป็นการทำตามระเบียบของทางราชการหรือข้อบังคับใดๆ มาจัดการเลย แต่ทำสัญญาโดยใช้มติ ค.ร.ม.เมื่อเดือน พ.ย.2546 มาดำเนินการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ บทม.ได้รับคำสั่งไปทำตามความต้องการของผู้สั่งการที่อยากจะทำ
นายชาญชัย ยังกล่าวอีกว่า กมธ.ได้ตรวจสอบเส้นทางการจ่ายเงิน นายศรีสุข จันทรางศุ ประธานกรรมการ บริษัท การท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวยืนยันในการชี้แจ้งกับ กมธ. ว่าได้มีการจ่ายเงินไปร้อยละ 69 ตามงวดงาน 36 งวด ซึ่งทางกมธ.ได้ตรวจสอบ พบว่ามีสิ่งที่แสดงการทุจริตชัดเจน คือ ในงวดงานที่ 34 ทาง บทม.จะต้องจ่ายเงินให้กับบริษัทคู่สัญญา เพื่อนำไปจ่ายให้บริษัท จีอี อินวิชั่น ร้อยละ 57 จากการไปตรวจเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 จำนวน 10 เครื่อง ที่โรงงานในสหรัฐฯ หลังจากนั้น ในงวดงานที่ 35 ในเดือน ต.ค. 2547 ได้จ่ายเงินอีก รวมคิดเป็นร้อยละ 63 ซึ่งกำหนดว่าต้องนำสินค้าลงเรือ เพื่อส่งมายังประเทศไทย แต่ขณะนี้อุปกรณ์ทั้ง 10 เครื่องยังไม่ได้ส่งมาถึงไทย แต่ต่อมา ในงวดงานที่ 36 ได้มีการจ่ายเงินอีก รวมคิดเป็นร้อยละ 69 โดยผู้ผลิตจะต้องส่งสินค้าชนิดนี้อีกจำนวน 10 เครื่อง แต่ก็ยังไม่มีการส่งเครื่องซีทีเอ็กซ์มาถึงไทยแม้แต่เครื่องเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ บทม.ยืนยันว่า เครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 ทั้งหมดจำนวน 26 เครื่อง ยังคงอยู่ที่โรงงาน ในสหรัฐฯ จึงทำให้เห็นว่าเส้นทางการจ่ายเงินดังกล่าวมีการทุจริตและทำผิดสัญญา โดยน่าสงสัยว่าการจ่ายเงินที่เกิดขึ้นเป็นการจ่ายเงินให้กับใคร ทั้งนี้ ในการเดินทางไปตรวจการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 24 พ.ค. 2548 คณะกรรมาธิการจะไปพบกับประธานบอร์ดบทม. โดยมีจะนำเอกสารการอนุมัติจ่ายเงินที่ระบุว่าใครเป็นผู้ลงนามอนุมัติมาให้กับกรรมาธิการ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 พ.ค. 2548--จบ--
-ดท-