วันนี้ (27 ส.ค.49) เวลา 12.15 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวกรณีตรวจสอบการทุจริตล็อคสเปคโครงการก่อสร้างระบบประปามูลค่า 3,700 ล้านบาท ของเทศบาลนครราชสีมาว่า งานก่อสร้างระบบประปาผู้รับเหมาทั่วๆไป ใครก็สามารถทำได้จึงต้องมีการออกคุณสมบัติผู้เข้าประมูลหรือ TOR เพื่อกีดกันเพื่อไม่ให้ผู้รับเหมาทั่วไปเข้าได้ เพื่อจะได้ฮั้วงานกันเพราะมูลค่างานครั้งนี้มูลค่ากว่า 3,700 ล้านบาท เทศบาลฯ ได้ออกประกาศประมูลจ้างด้วยอีเล็คโทรนิกส์ งานจ้างเหมาก่อสร้างระบบประปา โครงการแก้ไขปัญหาความขาดแคลน น้ำอุปโภคบริโกค จ.นครราชสีมา มูลค่า 3,678 ล้านบาท
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อไปว่า โครงการดังกล่าวเป็นการประมูลแบบอีอ็อคชั่นงบประมาณที่ได้จากเงินสะสมเงินกู้ เงินงบประมาณรายจ่าย และเงินอุดหนุนเฉพาะกิจของเทศบาลนครราชสีมา เงินงบประมาณมหาศาลสำหรับเทศบาล ฯ ดังนั้นจึงต้องมีการล็อคสเปคกัน ขั้นตอนในการล็อคสเปคมีดังนี้ กำหนดเป็นบุคคลที่จดทะเบียน เป็นนิติบุคคลในประเทศไทยมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างซึ่งจะต้องมีผลงานก่อสร้างที่แล้วเสร็จ โดยมีผลงานดังนี้ 1.1.1 ก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปา จำนวน 1 โรงกรอง ขนาดกำลังผลิตไม่น้อยกว่า 1,000 ลบ.ม.ต่อซม. และ 1.1.2 ก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำระบบความดันชนิดท่อเหล็กเหนียว ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อไม่น้อยกว่า 800 มม.และมีความยาวไม่น้อยกว่า 10 กม.
“และ 1.1.3 ก่อสร้างท่อจ่ายน้ำประปา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อไม่น้อยกว่า 100 มม. และมีความยาวท่อรวมไม่น้อยกว่า 10 กม.ในสัญญาเดียว และ 1.1.4 มีผลงานก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปาและท่อส่งระบบความดัน หรือระบบผลิตน้ำประปา หรือระบบท่อส่งน้ำระบบความดัน ที่แล้วเสร็จสัญญาเดียว เป็นเงินไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ที่ผมกล่าวมาคือต้องมีทั้งหมด หากขาดข้อหนึ่งข้อใดก็จะตกทันที ต้องมีทั้ง 4 ข้อ” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายยุทธพงศ์กล่าวต่อไปว่า การกำหนดให้มีผลงาน 1,000 ลูกบาตรกิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 1,000 คิวปิดต่อชั่วโมง ถ้าใน 1 วันผลิต 24 ชั่วโมงก็จะต้องมีผลงานผลิตได้วันละ 20,000 ลูกบาตรเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้น กลุ่มบริษัทที่มีผลงานเข้าร่วมประมูลได้จะต้องเป็นกลุ่มที่ทำงานกับการประปาส่วนภูมิภาคและเทศบาลคือ กลุ่มบริษัทสามประสิทธิ์ ซึ่งจะทำงานกับเทศบาล อีกกลุ่มหนึ่งที่ทำงานกับการประปานครหลวงคือ กลุ่มบริษัทอิตาเลียนไทย และกลุ่มบริษัท ช.การช่าง
“ผมจะยกตัวอย่างบริษัทอย่างใหญ่ๆ จดทะเบียนมีหลายชื่อมีที่ตั้งเดียวกัน บางครั้งเขาก็ไม่ใช่ตัวบริษัทแม่เป็นคู่สัญญากับทางราชการจะใช้ชื่อบริษัทลูก แต่สามารถตรวจสอบได้ เพราะว่ามีที่ตั้งอยู่ที่เดียวกัน ดูรายชื่อผู้ถือหุ้น แต่ว่ากลุ่มใหญ่ๆจะมีอยู่ 3 กลุ่ม สรุปง่ายๆว่า ถ้าทำงานในการประปาภูมิภาค และเทศบาลนครราชสีมาก็จะเป็นกลุ่มสามประสิทธิ์ และกลุ่มที่ทำงานกับการประปานครหลวงจะเป็นกลุ่ม ช.การช่าง และกลุ่มอิตาเลียนไทย ซึ่งเหมือนกับการแบ่งงานกัน” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ในเอกสารยังเขียนอีกว่า ท่อส่งน้ำจะต้องเป็นชนิดเหล็กเหนียว เมื่อบอกว่าเป็นชนิดท่อเหล็กเหนียว ซึ่งในประเทศไทยก็มีจะมีผู้ผลิตเพียง 2 ราย คือ บริษัทสามประสิทธิ์ และบริษัทอิตาเลียนไทย โดยเฉพาะใน (1.1.4) อธิบายง่ายๆว่า ต้องมีผลงานก่อสร้างระบบประปาในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ทำไมต้องไปกำหนดที่มูลค่างาน 500 ล้านบาท ดังนั้นผมสามารถตอบได้ล่วงหน้าว่า จะมีผู้รับเหมา 3 กลุ่มที่เข้าร่วมประมูลได้คือ 1.กลุ่มบริษัทสามประสิทธิ์ 2.กลุ่มบริษัทอิตาเลียนไทย และ 3. กลุ่มบริษัท ช.การช่าง ซึ่ง 3 กลุ่มนี้มีผลงานทำงานอยู่กับการประปาส่วนภูมิภาค และการรประปานครหลวง
“เหตุที่ผมต้องนำเรื่องเหล่านี้มาเปิดเผยเสียก่อนทั้งๆที่ยังไม่ได้มีการยื่นซองประมูลงาน ซึ่งจะมีการกำหนดยื่นซองวันที่ 5 กันยายน 2549 ที่เทศบาลนครราชสีมา เพราะผมเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เรื่องไหนที่จะสามารถป้องกันความเสียหายให้กับรัฐได้ต้องรีบทำ ไม่เหมือนกับนักการเมืองรุ่นเก่า ที่รอให้มีการประมูลเรียบร้อยไป ทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว ถึงจะมีการนำเรื่องการทุจริตออกมาแฉ ซึ่งความเสียหายได้เกิดขึ้นต่อรัฐไปแล้ว กว่าจะไปฟ้องร้องเอาคืนได้ใช้เวลานาน ยกตัวอย่าง เช่น กรณีรถดับเพลิง กทม. ความเสียหายก็ยังไม่เกิดผมก็เอามาเปิดเผยเสียก่อน” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อไปอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการให้ใครมาขูดรีดมาหากินกับประชาชนชาวโคราชในเรื่องน้ำประปาเพราะจะทำให้ต้นทุนค่าน้ำประปามีราคาสูง และชาวโคราชต้องเสียเงินและเดือดร้อนในระยะยาว เพราะต้องใช้น้ำประปาตลอดไป พรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นห่วงชาวโคราชว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่มีนักการเมืองใหญ่ระดับชาติที่เคยทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกับบ้านเมืองในกรณีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน วันนี้จะมาทำความเสียหายให้กับระบบน้ำประปาที่โคราชอีกจึงต้องรับนำเรื่องนี้มาเปิดเผย
“ดังนั้น ผมขอให้เรียกร้องให้นายกเทศมนตรีนครราชสีมา (รองศาสราจารย์เชิดชัย โชครัตนชัย) รีบดำเนินการยกเลิกการประกาศประมูลระบบน้ำประปามูลค่า 3,678 ล้านบาทในทันที และรับตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาคนผิดในทันที เพราะมีคนโคราชมาบอกกับผมว่า อาจารย์เชิดชัย เป็นคนดี เพราะเคยเป็นถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา อ.เชิดชัย อาจจะไม่รู้เรื่อง เพราะว่าเรื่องนี้มีนักการเมืองใหญ่ระดับชาติสั่งการอยู่เบื้องหลัง นักการเมืองใหญ่คนนี้มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำเป็นอย่างดีขนาดอยู่โคราชยังมาสร้างวีรกรรมได้ถึงคลองด่านได้” รองโฆษกพรรคปรระชาธิปัตย์กล่าว
นายยุทธพงศ์ ตั้งข้อสังเกตต่อไปว่า นอกจากนี้นายกเทศมนตรีฯ ทำไมถึงไม่ออก TOR ให้ผู้รับเหมาในโคราชสามารถเข้าประมูลงานได้ทั้งๆที่เงินงบประมาณก็เป็นเงินภาษีของคนโคราชจะมาให้ผู้รับเหมาใหญ่จากกรุงเทพมารับงานเสียอีก โดยในสัปดาห์หน้าผมจะนำหลักฐานเรื่องการล็อคสเปคระบบน้ำประปาใน จ.นครราชสีมา ไปยื่นต่อ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในวันที่ 31 สิงหาคม 2549 เวลา 10.00 น. เพื่อให้สอบสวนเรื่องนี้ เพราะถือว่าความผิดได้สำเร็จแล้วตั้งแต่ได้ออกประกาศ โดยวันที่ 31 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ตนได้ประสานงานกับ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วก่อนที่จะไปยื่นเอกสารต่างๆ
“ผมจะยื่นหนังสือต่อ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอให้สอบสวนในฐานะผู้บังคับบัญชาของนายกเทศมนตรีฯ ผมฝากสื่อมวลชนไปด้วยว่า ถ้า นายประชา มาลีนนท์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาต้องการเอกสารและข้อมูลต่างๆ เพื่อที่จะช่วยผมตรวจสอบเรื่องนี้ ในฐานะที่ นายประชา เคยอยู่กระทรวงมหาดไทยมาก่อน ผมก็ยินดีที่จะมอบเอกสารให้นายประชาช่วยผมตรวจสอบอีกแรง” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 ส.ค. 2549--จบ--
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อไปว่า โครงการดังกล่าวเป็นการประมูลแบบอีอ็อคชั่นงบประมาณที่ได้จากเงินสะสมเงินกู้ เงินงบประมาณรายจ่าย และเงินอุดหนุนเฉพาะกิจของเทศบาลนครราชสีมา เงินงบประมาณมหาศาลสำหรับเทศบาล ฯ ดังนั้นจึงต้องมีการล็อคสเปคกัน ขั้นตอนในการล็อคสเปคมีดังนี้ กำหนดเป็นบุคคลที่จดทะเบียน เป็นนิติบุคคลในประเทศไทยมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างซึ่งจะต้องมีผลงานก่อสร้างที่แล้วเสร็จ โดยมีผลงานดังนี้ 1.1.1 ก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปา จำนวน 1 โรงกรอง ขนาดกำลังผลิตไม่น้อยกว่า 1,000 ลบ.ม.ต่อซม. และ 1.1.2 ก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำระบบความดันชนิดท่อเหล็กเหนียว ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อไม่น้อยกว่า 800 มม.และมีความยาวไม่น้อยกว่า 10 กม.
“และ 1.1.3 ก่อสร้างท่อจ่ายน้ำประปา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อไม่น้อยกว่า 100 มม. และมีความยาวท่อรวมไม่น้อยกว่า 10 กม.ในสัญญาเดียว และ 1.1.4 มีผลงานก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปาและท่อส่งระบบความดัน หรือระบบผลิตน้ำประปา หรือระบบท่อส่งน้ำระบบความดัน ที่แล้วเสร็จสัญญาเดียว เป็นเงินไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ที่ผมกล่าวมาคือต้องมีทั้งหมด หากขาดข้อหนึ่งข้อใดก็จะตกทันที ต้องมีทั้ง 4 ข้อ” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายยุทธพงศ์กล่าวต่อไปว่า การกำหนดให้มีผลงาน 1,000 ลูกบาตรกิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 1,000 คิวปิดต่อชั่วโมง ถ้าใน 1 วันผลิต 24 ชั่วโมงก็จะต้องมีผลงานผลิตได้วันละ 20,000 ลูกบาตรเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้น กลุ่มบริษัทที่มีผลงานเข้าร่วมประมูลได้จะต้องเป็นกลุ่มที่ทำงานกับการประปาส่วนภูมิภาคและเทศบาลคือ กลุ่มบริษัทสามประสิทธิ์ ซึ่งจะทำงานกับเทศบาล อีกกลุ่มหนึ่งที่ทำงานกับการประปานครหลวงคือ กลุ่มบริษัทอิตาเลียนไทย และกลุ่มบริษัท ช.การช่าง
“ผมจะยกตัวอย่างบริษัทอย่างใหญ่ๆ จดทะเบียนมีหลายชื่อมีที่ตั้งเดียวกัน บางครั้งเขาก็ไม่ใช่ตัวบริษัทแม่เป็นคู่สัญญากับทางราชการจะใช้ชื่อบริษัทลูก แต่สามารถตรวจสอบได้ เพราะว่ามีที่ตั้งอยู่ที่เดียวกัน ดูรายชื่อผู้ถือหุ้น แต่ว่ากลุ่มใหญ่ๆจะมีอยู่ 3 กลุ่ม สรุปง่ายๆว่า ถ้าทำงานในการประปาภูมิภาค และเทศบาลนครราชสีมาก็จะเป็นกลุ่มสามประสิทธิ์ และกลุ่มที่ทำงานกับการประปานครหลวงจะเป็นกลุ่ม ช.การช่าง และกลุ่มอิตาเลียนไทย ซึ่งเหมือนกับการแบ่งงานกัน” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ในเอกสารยังเขียนอีกว่า ท่อส่งน้ำจะต้องเป็นชนิดเหล็กเหนียว เมื่อบอกว่าเป็นชนิดท่อเหล็กเหนียว ซึ่งในประเทศไทยก็มีจะมีผู้ผลิตเพียง 2 ราย คือ บริษัทสามประสิทธิ์ และบริษัทอิตาเลียนไทย โดยเฉพาะใน (1.1.4) อธิบายง่ายๆว่า ต้องมีผลงานก่อสร้างระบบประปาในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ทำไมต้องไปกำหนดที่มูลค่างาน 500 ล้านบาท ดังนั้นผมสามารถตอบได้ล่วงหน้าว่า จะมีผู้รับเหมา 3 กลุ่มที่เข้าร่วมประมูลได้คือ 1.กลุ่มบริษัทสามประสิทธิ์ 2.กลุ่มบริษัทอิตาเลียนไทย และ 3. กลุ่มบริษัท ช.การช่าง ซึ่ง 3 กลุ่มนี้มีผลงานทำงานอยู่กับการประปาส่วนภูมิภาค และการรประปานครหลวง
“เหตุที่ผมต้องนำเรื่องเหล่านี้มาเปิดเผยเสียก่อนทั้งๆที่ยังไม่ได้มีการยื่นซองประมูลงาน ซึ่งจะมีการกำหนดยื่นซองวันที่ 5 กันยายน 2549 ที่เทศบาลนครราชสีมา เพราะผมเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เรื่องไหนที่จะสามารถป้องกันความเสียหายให้กับรัฐได้ต้องรีบทำ ไม่เหมือนกับนักการเมืองรุ่นเก่า ที่รอให้มีการประมูลเรียบร้อยไป ทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว ถึงจะมีการนำเรื่องการทุจริตออกมาแฉ ซึ่งความเสียหายได้เกิดขึ้นต่อรัฐไปแล้ว กว่าจะไปฟ้องร้องเอาคืนได้ใช้เวลานาน ยกตัวอย่าง เช่น กรณีรถดับเพลิง กทม. ความเสียหายก็ยังไม่เกิดผมก็เอามาเปิดเผยเสียก่อน” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อไปอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการให้ใครมาขูดรีดมาหากินกับประชาชนชาวโคราชในเรื่องน้ำประปาเพราะจะทำให้ต้นทุนค่าน้ำประปามีราคาสูง และชาวโคราชต้องเสียเงินและเดือดร้อนในระยะยาว เพราะต้องใช้น้ำประปาตลอดไป พรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นห่วงชาวโคราชว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่มีนักการเมืองใหญ่ระดับชาติที่เคยทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกับบ้านเมืองในกรณีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน วันนี้จะมาทำความเสียหายให้กับระบบน้ำประปาที่โคราชอีกจึงต้องรับนำเรื่องนี้มาเปิดเผย
“ดังนั้น ผมขอให้เรียกร้องให้นายกเทศมนตรีนครราชสีมา (รองศาสราจารย์เชิดชัย โชครัตนชัย) รีบดำเนินการยกเลิกการประกาศประมูลระบบน้ำประปามูลค่า 3,678 ล้านบาทในทันที และรับตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาคนผิดในทันที เพราะมีคนโคราชมาบอกกับผมว่า อาจารย์เชิดชัย เป็นคนดี เพราะเคยเป็นถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา อ.เชิดชัย อาจจะไม่รู้เรื่อง เพราะว่าเรื่องนี้มีนักการเมืองใหญ่ระดับชาติสั่งการอยู่เบื้องหลัง นักการเมืองใหญ่คนนี้มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำเป็นอย่างดีขนาดอยู่โคราชยังมาสร้างวีรกรรมได้ถึงคลองด่านได้” รองโฆษกพรรคปรระชาธิปัตย์กล่าว
นายยุทธพงศ์ ตั้งข้อสังเกตต่อไปว่า นอกจากนี้นายกเทศมนตรีฯ ทำไมถึงไม่ออก TOR ให้ผู้รับเหมาในโคราชสามารถเข้าประมูลงานได้ทั้งๆที่เงินงบประมาณก็เป็นเงินภาษีของคนโคราชจะมาให้ผู้รับเหมาใหญ่จากกรุงเทพมารับงานเสียอีก โดยในสัปดาห์หน้าผมจะนำหลักฐานเรื่องการล็อคสเปคระบบน้ำประปาใน จ.นครราชสีมา ไปยื่นต่อ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในวันที่ 31 สิงหาคม 2549 เวลา 10.00 น. เพื่อให้สอบสวนเรื่องนี้ เพราะถือว่าความผิดได้สำเร็จแล้วตั้งแต่ได้ออกประกาศ โดยวันที่ 31 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ตนได้ประสานงานกับ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วก่อนที่จะไปยื่นเอกสารต่างๆ
“ผมจะยื่นหนังสือต่อ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอให้สอบสวนในฐานะผู้บังคับบัญชาของนายกเทศมนตรีฯ ผมฝากสื่อมวลชนไปด้วยว่า ถ้า นายประชา มาลีนนท์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาต้องการเอกสารและข้อมูลต่างๆ เพื่อที่จะช่วยผมตรวจสอบเรื่องนี้ ในฐานะที่ นายประชา เคยอยู่กระทรวงมหาดไทยมาก่อน ผมก็ยินดีที่จะมอบเอกสารให้นายประชาช่วยผมตรวจสอบอีกแรง” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 ส.ค. 2549--จบ--