นายวิจักร วิเศษน้อย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ได้จัดงานเจรจาธุรกิจโดยนำโรงสีผู้ผลิตข้าวหอมมะลิไทยจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาพบปะเจรจาธุรกิจกับร้านค้า / ภัตตาคาร / โรงแรม / ผู้ค้าส่ง / บริษัทท่องเที่ยว และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใน ภาคตะวันออก ในงาน “ ข้าวหอมมะลิไทยของแท้จากแหล่งผลิต : ชิมได้ทุกทิศทั่วไทย ” วันที่ 14 กรกฎาคม 2549 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ โรงแรมดุสิตรีสอร์ทพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
วัตถุประสงค์ของการจัดงานเนื่องมาจากกรมการค้าต่างประเทศได้ดำเนินนโยบายเชิงรุกในการจัดทำโครงการสร้างตราข้าวหอมมะลิไทย เพื่อผลักดันและยกระดับข้าวหอมมะลิไทยให้เป็นสินค้าชั้นเลิศ (Premium) โดยร่วมมือกับจังหวัดที่เป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด คัดเลือก และรับรองโรงสีที่ผลิตข้าวหอมมะลิที่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด และให้จังหวัดนั้น ๆ สร้างตราข้าวหอมมะลิของจังหวัดขึ้น โดยบ่งชี้ถึงคุณค่าที่มีความแตกต่างแต่ละจังหวัดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ยังได้ตกลงเป็นพันธมิตรกับ 10 องค์กรหลัก ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันเผยแพร่ภาพลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไทยไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 14 ล้านคน ที่เดินทางมาประเทศไทยให้รู้จัก และลิ้มรสข้าวหอมมะลิไทยแท้ ๆ จนเกิดความประทับใจกลับไปเล่าขาน และหาบริโภคตามภัตตาคาร ร้านค้า และห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายข้าวหอมมะลิไทยในประเทศของตน
กรมการค้าต่างประเทศ ได้จัดงานเจรจาธุรกิจ (Business Matching) เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2549 ที่กระทรวงพาณิชย์ ในชื่องาน “ ข้าวหอมมะลิของแท้จากแหล่งผลิต ” โดยนำผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงสีผู้ผลิตข้าวหอมมะลิแท้ที่ได้รับการรับรอง / ห้างสรรพสินค้า / ร้านค้า / โรงแรม / ผู้ค้าส่ง / ภัตตาคาร / ผู้ส่งออก และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พบปะหาช่องทางในการนำข้าวหอมมะลิแท้จากแหล่งผลิตไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ และ สยามพารากอน ได้นำข้าวจากโรงสีที่ได้รับการรับรองคุณภาพจาก 4 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ และร้อยเอ็ด นำไปวางจำหน่ายในโฮมเฟรชมาร์ท และกูร์เมต์มาร์เก็ตของเดอะมอลล์ทุกสาขาทั่วประเทศ
จากความสำเร็จของการจัดงานในครั้งนั้น กรมฯ จึงจัดงานในรูปแบบดังกล่าว สัญจรไปใน ภูมิภาคที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ภายใต้ชื่องาน “ข้าวหอมมะลิไทยของแท้จากแหล่งผลิต : ชิมได้ทุกทิศทั่วไทย” โดยครั้งนี้สัญจรเป็นครั้งแรกในเขตภาคตะวันออกให้ครอบคลุมทั้งจังหวัดชลบุรี จันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา นครนายก และจังหวัดใกล้เคียง ในวันที่ 14 กรกฎาคม ศกนี้ กิจกรรมภายในงาน มีการจัด Mini Exhibition แสดงสินค้าและจำหน่ายข้าวหอมมะลิ Brand ต่าง ๆ และจัด Display แสดงตัวอย่างข้าวเพื่อประชาสัมพันธ์ Private Brand และจุดขายของแต่ละตราของโรงสีที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากจังหวัด 6 จังหวัด ประกอบด้วย โรงสีจากจังหวัดบุรีรัมย์ 7 แห่ง , สุรินทร์ 13 แห่ง , อำนาจเจริญ 2 แห่ง , ร้อยเอ็ด 1 แห่ง , ยโสธร 1 แห่ง และอุบลราชธานี 1 แห่ง 2 ตรา พร้อมทั้งจัดให้ผู้แทนจังหวัดหรือโรงสีนำเสนอคุณลักษณะพิเศษ จุดเด่น และจุดขายข้าวหอมมะลิไทยแต่ละจังหวัด
สำหรับผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ ประกอบด้วยผู้ค้าส่ง/ค้าปลีก อาทิ จากจังหวัดชลบุรี ห้างฟูด แลนด์ , ห้างเทสโก้โลตัส , ร้านค้าส่งเสนาพืชผล จากจังหวัดจันทบุรี ห้างโรบินสัน , จังหวัดฉะเชิงเทรา ห้างตะวันออกคอมเพล็กซ์ , ห้างบิ๊กซี , คาร์ฟูร์ จังหวัดนครนายก ร้านพรทวีพาณิชย์ เป็นต้น ร้านอาหารที่เข้าร่วมทั้งจากสมาชิกชมรมร้านอาหารในเขตภาคตะวันออก และภัตตาคาร / ร้านอาหารทั่วไป โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด ประมาณ 300 คน ซึ่งคาดว่าจะมีการพบปะทำความรู้จักกัน เป็นช่องทางในการขยายธุรกิจต่อไป ทั้งนี้ กรมฯ กำหนดแผนในการจัดงานครั้งต่อไป เพื่อให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ที่จังหวัดภูเก็ต (28 ก.ค.) , ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) (18 ส.ค.) และเชียงใหม่ (1 ก.ย.) นายวิจักรฯ กล่าวในที่สุด
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-
วัตถุประสงค์ของการจัดงานเนื่องมาจากกรมการค้าต่างประเทศได้ดำเนินนโยบายเชิงรุกในการจัดทำโครงการสร้างตราข้าวหอมมะลิไทย เพื่อผลักดันและยกระดับข้าวหอมมะลิไทยให้เป็นสินค้าชั้นเลิศ (Premium) โดยร่วมมือกับจังหวัดที่เป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด คัดเลือก และรับรองโรงสีที่ผลิตข้าวหอมมะลิที่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด และให้จังหวัดนั้น ๆ สร้างตราข้าวหอมมะลิของจังหวัดขึ้น โดยบ่งชี้ถึงคุณค่าที่มีความแตกต่างแต่ละจังหวัดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ยังได้ตกลงเป็นพันธมิตรกับ 10 องค์กรหลัก ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันเผยแพร่ภาพลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไทยไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 14 ล้านคน ที่เดินทางมาประเทศไทยให้รู้จัก และลิ้มรสข้าวหอมมะลิไทยแท้ ๆ จนเกิดความประทับใจกลับไปเล่าขาน และหาบริโภคตามภัตตาคาร ร้านค้า และห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายข้าวหอมมะลิไทยในประเทศของตน
กรมการค้าต่างประเทศ ได้จัดงานเจรจาธุรกิจ (Business Matching) เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2549 ที่กระทรวงพาณิชย์ ในชื่องาน “ ข้าวหอมมะลิของแท้จากแหล่งผลิต ” โดยนำผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงสีผู้ผลิตข้าวหอมมะลิแท้ที่ได้รับการรับรอง / ห้างสรรพสินค้า / ร้านค้า / โรงแรม / ผู้ค้าส่ง / ภัตตาคาร / ผู้ส่งออก และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พบปะหาช่องทางในการนำข้าวหอมมะลิแท้จากแหล่งผลิตไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ และ สยามพารากอน ได้นำข้าวจากโรงสีที่ได้รับการรับรองคุณภาพจาก 4 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ และร้อยเอ็ด นำไปวางจำหน่ายในโฮมเฟรชมาร์ท และกูร์เมต์มาร์เก็ตของเดอะมอลล์ทุกสาขาทั่วประเทศ
จากความสำเร็จของการจัดงานในครั้งนั้น กรมฯ จึงจัดงานในรูปแบบดังกล่าว สัญจรไปใน ภูมิภาคที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ภายใต้ชื่องาน “ข้าวหอมมะลิไทยของแท้จากแหล่งผลิต : ชิมได้ทุกทิศทั่วไทย” โดยครั้งนี้สัญจรเป็นครั้งแรกในเขตภาคตะวันออกให้ครอบคลุมทั้งจังหวัดชลบุรี จันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา นครนายก และจังหวัดใกล้เคียง ในวันที่ 14 กรกฎาคม ศกนี้ กิจกรรมภายในงาน มีการจัด Mini Exhibition แสดงสินค้าและจำหน่ายข้าวหอมมะลิ Brand ต่าง ๆ และจัด Display แสดงตัวอย่างข้าวเพื่อประชาสัมพันธ์ Private Brand และจุดขายของแต่ละตราของโรงสีที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากจังหวัด 6 จังหวัด ประกอบด้วย โรงสีจากจังหวัดบุรีรัมย์ 7 แห่ง , สุรินทร์ 13 แห่ง , อำนาจเจริญ 2 แห่ง , ร้อยเอ็ด 1 แห่ง , ยโสธร 1 แห่ง และอุบลราชธานี 1 แห่ง 2 ตรา พร้อมทั้งจัดให้ผู้แทนจังหวัดหรือโรงสีนำเสนอคุณลักษณะพิเศษ จุดเด่น และจุดขายข้าวหอมมะลิไทยแต่ละจังหวัด
สำหรับผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ ประกอบด้วยผู้ค้าส่ง/ค้าปลีก อาทิ จากจังหวัดชลบุรี ห้างฟูด แลนด์ , ห้างเทสโก้โลตัส , ร้านค้าส่งเสนาพืชผล จากจังหวัดจันทบุรี ห้างโรบินสัน , จังหวัดฉะเชิงเทรา ห้างตะวันออกคอมเพล็กซ์ , ห้างบิ๊กซี , คาร์ฟูร์ จังหวัดนครนายก ร้านพรทวีพาณิชย์ เป็นต้น ร้านอาหารที่เข้าร่วมทั้งจากสมาชิกชมรมร้านอาหารในเขตภาคตะวันออก และภัตตาคาร / ร้านอาหารทั่วไป โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด ประมาณ 300 คน ซึ่งคาดว่าจะมีการพบปะทำความรู้จักกัน เป็นช่องทางในการขยายธุรกิจต่อไป ทั้งนี้ กรมฯ กำหนดแผนในการจัดงานครั้งต่อไป เพื่อให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ที่จังหวัดภูเก็ต (28 ก.ค.) , ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) (18 ส.ค.) และเชียงใหม่ (1 ก.ย.) นายวิจักรฯ กล่าวในที่สุด
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-