วันนี้ (3พ.ย.49) นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า กรณีนายนาม ยิ้มแย้ม ได้ให้ความคิดเห็นผ่านสื่อว่าสามารถเอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ เนื่องนายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณฯ ได้ไปซื้อที่ดิน จากกองทุนฟื้นฟู ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมมนตรีว่าการการะทรวงการคลัง เป็นเป็นการซื้อในราคาที่ถูกเกินความเป็นจริง เป็นการ แสวงผลหาผลประโยชน์ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากมีกฎหมาย 2 ฉบับที่สามารถเอาผิด กับ พ.ต.ท.ทักษิณได้ คือ 1.พรบ.บริหารราชการแผ่นดิน ที่กำหนดให้นายกฯกำกับดูแล การบริหาราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง กรม ใดๆ รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่กำกับดูแลกองทุนฟื้นฟูที่ขายให้กับ คุณหญิงพจมาน ด้วย นั่นก็หมายความว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย
2. พรบ.ปปช.ที่มาตรา 100 ห้ามไม่ให้คู่สมรสของรัฐมนตรี ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลไปเป็นคู่สัญญากับรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐอันจะนำไปสู่ การแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างเช่นกรณีนี้ ดังนั้นเมื่อพิจารณากฎหมายทั้ง 2 ฉบับแล้ว นายกฯในฐานะเป็นผู้กำกับดูแล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกำกับดูแลกองทุนฟื้นฟู จึงต้องรับผิดชอบในการที่คุณหญิงเข้าไปซื้อที่ดินของกองทุนฟื้นฟู ที่ถนนรัชดาฯ ในราคาที่ถูกกว่าปกติ และเป็นการดำเนินการซื้อแบบวิธีพิเศษ
ดังนั้น นายนพดล ปัทมะ ทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต้องรับผิดชอบเนื่องจากไม่ใช่เป็นบอร์ดของกองทุนฟื้นฟู เป็นการเลี่ยงประเด็นเพื่อให้อดีตนายกฯพ้นจากความรับผิด แม้ว่านายนพดล พยายามออกมาชี้แจง แต่การชี้แจงดังกล่าวเป็นการเบี่ยงเนประเด็น เนื่องจากความรับผิดชอบของบอร์ดต้องรับผิดชอบในการบริหารจัดการ แต่การกำกับดูแล เป็นการรับผิดชอบในกรณีที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในขณะที่ตนเองกำกับดูแลอยู่
“ดังนั้นการเบี่ยงเบนประเด็นของ นายนพดล ในกรณีนี้ ตนในฐานะนักกฎหมายฟังไม่ได้ การที่นายนาม ยิ้มแย้ม ออกมาให้สัมภาษณ์ และนำเอากฎหมาย 2 ฉบับมาใช้นั้นเป็นการนำกฎหมายไปใช้และตีความในทางที่ถูกต้องแล้ว ไม่ได้แกล้ง พ.ต.ท.ทักษิร แต่อย่างใด ผมจึงขอให้กำลังใจ คุณนาม ว่าขอให้ทำหน้าที่เพื่อบ้านเมืองอย่างเต็มที่ ที่ดินแปลงงนี้เป็นที่ดินบาป ใครได้มาโดยไม่ชอบ หรือด้วยวิธีการเอาเปรียบประชาชนต้องมีอันเป็นไปทุกคน ผลจึงทำให้ครอบครัวคุณทักษิณ ไม่มีที่ดินอยู่ ผมขอย้ำว่า คุณนามได้วิเคราะห์ และนำกฎหมายมาใช้อย่างถูกต้องแล้ว” นายถาวรกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 พ.ย. 2549--จบ--
2. พรบ.ปปช.ที่มาตรา 100 ห้ามไม่ให้คู่สมรสของรัฐมนตรี ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลไปเป็นคู่สัญญากับรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐอันจะนำไปสู่ การแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างเช่นกรณีนี้ ดังนั้นเมื่อพิจารณากฎหมายทั้ง 2 ฉบับแล้ว นายกฯในฐานะเป็นผู้กำกับดูแล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกำกับดูแลกองทุนฟื้นฟู จึงต้องรับผิดชอบในการที่คุณหญิงเข้าไปซื้อที่ดินของกองทุนฟื้นฟู ที่ถนนรัชดาฯ ในราคาที่ถูกกว่าปกติ และเป็นการดำเนินการซื้อแบบวิธีพิเศษ
ดังนั้น นายนพดล ปัทมะ ทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต้องรับผิดชอบเนื่องจากไม่ใช่เป็นบอร์ดของกองทุนฟื้นฟู เป็นการเลี่ยงประเด็นเพื่อให้อดีตนายกฯพ้นจากความรับผิด แม้ว่านายนพดล พยายามออกมาชี้แจง แต่การชี้แจงดังกล่าวเป็นการเบี่ยงเนประเด็น เนื่องจากความรับผิดชอบของบอร์ดต้องรับผิดชอบในการบริหารจัดการ แต่การกำกับดูแล เป็นการรับผิดชอบในกรณีที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในขณะที่ตนเองกำกับดูแลอยู่
“ดังนั้นการเบี่ยงเบนประเด็นของ นายนพดล ในกรณีนี้ ตนในฐานะนักกฎหมายฟังไม่ได้ การที่นายนาม ยิ้มแย้ม ออกมาให้สัมภาษณ์ และนำเอากฎหมาย 2 ฉบับมาใช้นั้นเป็นการนำกฎหมายไปใช้และตีความในทางที่ถูกต้องแล้ว ไม่ได้แกล้ง พ.ต.ท.ทักษิร แต่อย่างใด ผมจึงขอให้กำลังใจ คุณนาม ว่าขอให้ทำหน้าที่เพื่อบ้านเมืองอย่างเต็มที่ ที่ดินแปลงงนี้เป็นที่ดินบาป ใครได้มาโดยไม่ชอบ หรือด้วยวิธีการเอาเปรียบประชาชนต้องมีอันเป็นไปทุกคน ผลจึงทำให้ครอบครัวคุณทักษิณ ไม่มีที่ดินอยู่ ผมขอย้ำว่า คุณนามได้วิเคราะห์ และนำกฎหมายมาใช้อย่างถูกต้องแล้ว” นายถาวรกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 พ.ย. 2549--จบ--