สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เตือนเกษตรกรไม่ควรรีบหว่านข้าวในช่วงเดือนเมษายนนี้ เพราะหากไม่มีฝนตกมาในช่วงนี้ อาจทำให้ข้าวที่หว่านไปเสียหาย ทำให้ต้องเสียเวลาหว่านใหม่ หากหว่านข้าวในช่วงเดือนมิถุนายน ถึงกรกฎาคม ก็คงยังไม่สายเกินไป
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 5 จังหวัดนครราชสีมา เตือนเกษตรกรถึงการหว่านข้าวในเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูที่เกษตรกรผู้ทำนาในหลายพื้นที่เริ่มเตรียมพื้นที่ เตรียมดินสำหรับฤดูการปลูกต่อไป โดยเฉพาะในพื้นที่นาลุ่ม พื้นที่นอกเขตชลประทานที่ต้องอาศัยน้ำฝนจะต้องเตรียมดิน ไถดะ ไถแปร และเริ่มหว่านข้าวแห้ง หรือที่เรียกกันว่าหว่านข้าวสำรวยแล้วก็คราดกลบ ซึ่งเกษตรกรในหลายพื้นที่เริ่มหว่านกันในช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นไปเป็นประจำทุกๆ ปี ถึงแม้ว่าในระยะนี้จะมีฝนตกมาบ้างแล้วในหลายพื้นที่แต่การกระจายตัวของฝนยังไม่ดีพอ มีฝนตกเป็นหย่อมๆ ประกอบกับปีนี้เป็นปีที่มีภาวะอากาศค่อนข้างร้อนแห้งแล้ง รวมทั้งภาวะอากาศค่อนข้างแปรปรวนเป็นอย่างมาก ในรอบหลายสิบปีในทุกพื้นที่
ดังนั้นเกษตรกรจึงไม่ควรที่จะรีบหว่านข้าวในช่วงเดือนนี้ ควรจะชะลอไปก่อน หากไม่มีฝนตกลงมาในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้จะทำให้ข้าวที่หว่านไปนั้นเสียหายได้ เกษตรกรต้องเสียเวลาหว่านใหม่ไม่คุ้มกับการลงทุน ขณะเดียวกันเกษตรกรต้องรอให้มั่นใจเสียก่อนว่าในพื้นที่นั้นๆ มีฝนตกสม่ำเสมอ และความชื้นในดินมีเพียงพอสำหรับการงอกของเมล็ดข้าว ดังนั้นการหว่านข้าวแห่งหรือหว่านสำรวยในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมก็ยังคงไม่สายเกินไป ดังคำกล่าวที่ว่า “หว่านวันแม่แล้วเกี่ยววันพ่อ” ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เต็มที่เช่นกันหากฟ้าฝนเอื้ออำนวย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 5 จังหวัดนครราชสีมา เตือนเกษตรกรถึงการหว่านข้าวในเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูที่เกษตรกรผู้ทำนาในหลายพื้นที่เริ่มเตรียมพื้นที่ เตรียมดินสำหรับฤดูการปลูกต่อไป โดยเฉพาะในพื้นที่นาลุ่ม พื้นที่นอกเขตชลประทานที่ต้องอาศัยน้ำฝนจะต้องเตรียมดิน ไถดะ ไถแปร และเริ่มหว่านข้าวแห้ง หรือที่เรียกกันว่าหว่านข้าวสำรวยแล้วก็คราดกลบ ซึ่งเกษตรกรในหลายพื้นที่เริ่มหว่านกันในช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นไปเป็นประจำทุกๆ ปี ถึงแม้ว่าในระยะนี้จะมีฝนตกมาบ้างแล้วในหลายพื้นที่แต่การกระจายตัวของฝนยังไม่ดีพอ มีฝนตกเป็นหย่อมๆ ประกอบกับปีนี้เป็นปีที่มีภาวะอากาศค่อนข้างร้อนแห้งแล้ง รวมทั้งภาวะอากาศค่อนข้างแปรปรวนเป็นอย่างมาก ในรอบหลายสิบปีในทุกพื้นที่
ดังนั้นเกษตรกรจึงไม่ควรที่จะรีบหว่านข้าวในช่วงเดือนนี้ ควรจะชะลอไปก่อน หากไม่มีฝนตกลงมาในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้จะทำให้ข้าวที่หว่านไปนั้นเสียหายได้ เกษตรกรต้องเสียเวลาหว่านใหม่ไม่คุ้มกับการลงทุน ขณะเดียวกันเกษตรกรต้องรอให้มั่นใจเสียก่อนว่าในพื้นที่นั้นๆ มีฝนตกสม่ำเสมอ และความชื้นในดินมีเพียงพอสำหรับการงอกของเมล็ดข้าว ดังนั้นการหว่านข้าวแห่งหรือหว่านสำรวยในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมก็ยังคงไม่สายเกินไป ดังคำกล่าวที่ว่า “หว่านวันแม่แล้วเกี่ยววันพ่อ” ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เต็มที่เช่นกันหากฟ้าฝนเอื้ออำนวย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-