กรุงเทพ--4 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในฐานะผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนาย Anthony Hylton รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจาเมกา เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2549 ในระหว่างการเยือนจาเมกาอย่างเป็นทางการ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันในความร่วมมือด้านต่างๆ ที่เป็นรูปธรรม สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1.กันตธีร์เจรจาใช้จาเมกาเป็นประตูระบายสินค้าไทยไปลาตินอเมริกา
ดร.กันตธีร์ฯ ได้เสนอให้จาเมกาใช้ไทยเป็นประตูในการระบายสินค้าไทยเข้าสู่ภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ไทยจะใช้จาเมกาเป็นประตูระบายสินค้าไทยเข้าสู่ลาตินอเมริกา โดยอาศัยสิทธิพิเศษด้านภาษีของจาเมกาที่มีกับประเทศต่างๆ เช่น สหภาพยุโรป แม้ว่าทั้งสองประเทศจะมีความห่างไกลกันในที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ทำให้มีการติดต่อกันไม่มากนัก แต่โดยที่ต่างฝ่ายต่างมีศักยภาพ ความเชี่ยวชาญและข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนกัน กล่าวคือ จาเมกามีท่าเรือที่ดีที่สุดและมีความพร้อมมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าจากหลากหลายภูมิภาค ทั้งจากตะวันออกไกล อเมริกา ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลาง นอกจากนั้น จาเมกาเป็นสมาชิกองค์กรความร่วมมือหลายองค์กร ได้แก่ OAS, NAM, G15, G 77 และสมาชิกเครือจักรภพ และยังได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าและการลงทุนจากสหภาพยุโรปด้วย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ดร.กันตธีร์ฯ จึงเห็นว่า ภาคเอกชนไทยน่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพสถานะความสัมพันธ์ และสิทธิพิเศษที่จาเมกาได้รับจากประเทศต่างๆ ในการระบายสินค้าไทยไปยังลาตินเอเมริกา และภูมิภาคต่างๆ ได้
2.กันตธีร์เปิดโอกาสทองให้สปาไทยบุกจาเมกา
ดร.กันตธีร์ฯ เสนอให้ภาคเอกชนไทยไปร่วมลงทุนในกิจการโรงแรม การบริหารจัดการโรงแรม สปา และร้านอาหารไทย ในจาเมกาซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ โดยภาคบริการของจาเมกาทำรายได้กว่าร้อยละ 50 ของ GDP ในเรื่องนี้ นาย Hylton เห็นว่า หากภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมมือกันได้ จะช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจาเมกาพัฒนาไปมากยิ่งขึ้น และภาคเอกชนของทั้งสองประเทศจะได้ประโยชน์ร่วมกันจากการนี้ด้วย
3.กันตธีร์เชิญจาเมกาเยือนไทยเรียนรู้แนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
ดร.กันตธีร์ฯ เชิญจาเมกามาเยือนไทยเพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์ด้านการพัฒนา การแก้ปัญหาความยากจนตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม การป้องกันโรคเอดส์ ไข้หวัดนก การทำฟาร์มกุ้ง และการป้องกันพิบัติภัยสึนามิ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศจาเมกาแสดงความสนใจอย่างมากที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ในด้านต่างๆ ของไทยเพื่อนำมาปรับใช้กับการพัฒนาประเทศของตัวเอง
ที่ผ่านมา ไทยให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ประเทศในแคริบเบียนผ่าน OAS และ CARICOM และได้ให้ทุนฝึกอบรมแก่ CARICOM ในด้านเกษตรและสาธารณสุข ซึ่งจาเมกาก็เป็นประเทศหนึ่งที่เข้าร่วมในโครงการฝึกอบรมของไทยด้วย
กันตธีร์ชวนจาเมกาสอนฟุตบอลให้เด็กไทย
ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า โดยที่จาเมกาประสบความสำเร็จในกีฬาฟุตบอล จึงได้เชิญให้ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือกันด้านกีฬา โดยอาจเชิญให้ทีมชาติจาเมกามาแข่งขันกับทีมชาติไทย ให้ผู้ฝึกสอนฟุตบอลจาเมกามาถ่ายทอดประสบการณ์และสอนฟุตบอลให้เยาวชนไทย
4. กันตธีร์เสนอกระชับความร่วมมือกับ CARICOM
ดร.กันตธีร์ฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้เสนอให้มีการประสานความร่วมมือระหว่างไทยกับกลุ่ม CARICOM เพื่อประสานความร่วมมือในกรอบสหประชาชาติ และ WTO รวมทั้งเสนอให้ ASEAN มีบทบาทในการหารือกับกลุ่ม CARICOM เพิ่มมากขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศจาเมกาเห็นด้วยว่า ไทยและจาเมกาควรมีบทบาทนำในการผลักดันให้อาเซียนและ CARICOM มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น และว่า การหารือกันจะช่วยให้ต่างฝ่ายต่างเข้าใจในท่าทีของกันและกันเพื่อสามารถกำหนดท่าทีร่วมกันในการผลักดันการแก้ปัญหากระทบต่อแต่ละฝ่ายในเวทีระหว่างประเทศ
บัวแก้วขอให้จาเมกาโน้มน้าวลาตินอเมริกาสนับสนุนสุรเกียรติ์
ดร.กันตธีร์ฯ ในฐานะผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีได้ขอให้จาเมกาสนับสนุนการสมัครของ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ในตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ โดยกล่าวว่า ดร.สุรเกียรติ์ฯ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงทั้งในภาครัฐและเอกชน และมีคุณสมบัติที่จะผลักดันการปฏิรูปสหประชาชาติให้ลุล่วงไปได้ นอกจากนั้น ดร.สุรเกียรติ์ฯ ยังเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มประเทศอันได้แก่ อาเซียนด้วย ทั้งนี้ ดร.กันตธีร์ฯ ได้ขอให้จาเมกาซึ่งเป็นประเทศผู้ประสานงานด้านการต่างประเทศของกลุ่ม CARICOM ช่วยโน้มน้าวสมาชิกกลุ่ม CARICOM และประเทศในลาตินอเมริกาให้สนับสนุน ดร.สุรเกียรติ์ฯ ด้วย
ในการนี้ ดร.กันตธีร์ฯ ได้ขอให้จาเมกาประสานนัดหมายให้ ดร.สุรเกียรติ์ฯ ได้พบหารือกับกลุ่ม CARICOM ก่อนการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มฯ ในวันที่ 25 กันยายน ศกนี้ที่นิวยอร์กด้วย ซึ่งฝ่ายจาเมการับจะพิจารณาคำขอของไทยด้วยดี และจะประสานการนัดหมายให้ รวมทั้งจะช่วยประสานให้ ดร.สุรเกียรติ์ฯ ได้พบกับกลุ่ม GRULAC ในระหว่างที่ไปร่วมประชุมที่นิวยอร์กด้วย
5. กันตธีร์เสนอตั้งคณะกรรมาธิการร่วมไทย-จาเมกา เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์
ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า ไทยและจาเมกามีศักยภาพที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ ระหว่างกันอีกมาก จึงเสนอให้ทั้งสองฝ่ายจัดทำความตกลงตั้งคณะกรรมาธิการร่วมไทย-จาเมกาเพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือระหว่างกัน ซึ่งฝ่ายจาเมกาเห็นพ้องด้วย และเห็นว่า ควรจะต้องให้ระดับการเมืองเข้ามามีบทบาทสำคัญในการประชุมด้วยเพื่อผลักดันความร่วมมือให้รุดหน้าไปโดยเร็ว
นอกจากนั้น ดร.กันตธีร์ฯ ยังได้เสนอให้เร่งทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับ CARICOM รวมทั้งความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ อันจะเป็นกรอบในการที่ไทยจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับจาเมกาในด้านการพัฒนา การแก้ไขปัญหาความยากจน ด้านสาธารณสุข และการเกษตร
6. การหารือกันเกี่ยวกับปัญหาในภูมิภาค
ดร.กันตธีร์ฯ ได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับนาย Hylton เกี่ยวกับสถานการณ์ใน ภูมิภาค เช่น อาเซียน ปัญหาพม่า คาบสมุทรเกาหลี อิหร่าน เวเนซูเอลา คิวบา ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น
นอกจากนั้น ดร.กันตธีร์ฯ ได้ไปเยี่ยม International Seabed Authority และได้หารือกับนาย Satya N. Nandan เลขาธิการของ ISA โดยนาย Nandan ได้บรรยายสรุปการดำเนินงานของ ISA พร้อมนำ ดร.กันตธีร์ฯ เยี่ยมชม ISA
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในฐานะผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนาย Anthony Hylton รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจาเมกา เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2549 ในระหว่างการเยือนจาเมกาอย่างเป็นทางการ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันในความร่วมมือด้านต่างๆ ที่เป็นรูปธรรม สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1.กันตธีร์เจรจาใช้จาเมกาเป็นประตูระบายสินค้าไทยไปลาตินอเมริกา
ดร.กันตธีร์ฯ ได้เสนอให้จาเมกาใช้ไทยเป็นประตูในการระบายสินค้าไทยเข้าสู่ภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ไทยจะใช้จาเมกาเป็นประตูระบายสินค้าไทยเข้าสู่ลาตินอเมริกา โดยอาศัยสิทธิพิเศษด้านภาษีของจาเมกาที่มีกับประเทศต่างๆ เช่น สหภาพยุโรป แม้ว่าทั้งสองประเทศจะมีความห่างไกลกันในที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ทำให้มีการติดต่อกันไม่มากนัก แต่โดยที่ต่างฝ่ายต่างมีศักยภาพ ความเชี่ยวชาญและข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนกัน กล่าวคือ จาเมกามีท่าเรือที่ดีที่สุดและมีความพร้อมมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าจากหลากหลายภูมิภาค ทั้งจากตะวันออกไกล อเมริกา ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลาง นอกจากนั้น จาเมกาเป็นสมาชิกองค์กรความร่วมมือหลายองค์กร ได้แก่ OAS, NAM, G15, G 77 และสมาชิกเครือจักรภพ และยังได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าและการลงทุนจากสหภาพยุโรปด้วย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ดร.กันตธีร์ฯ จึงเห็นว่า ภาคเอกชนไทยน่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพสถานะความสัมพันธ์ และสิทธิพิเศษที่จาเมกาได้รับจากประเทศต่างๆ ในการระบายสินค้าไทยไปยังลาตินเอเมริกา และภูมิภาคต่างๆ ได้
2.กันตธีร์เปิดโอกาสทองให้สปาไทยบุกจาเมกา
ดร.กันตธีร์ฯ เสนอให้ภาคเอกชนไทยไปร่วมลงทุนในกิจการโรงแรม การบริหารจัดการโรงแรม สปา และร้านอาหารไทย ในจาเมกาซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ โดยภาคบริการของจาเมกาทำรายได้กว่าร้อยละ 50 ของ GDP ในเรื่องนี้ นาย Hylton เห็นว่า หากภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมมือกันได้ จะช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจาเมกาพัฒนาไปมากยิ่งขึ้น และภาคเอกชนของทั้งสองประเทศจะได้ประโยชน์ร่วมกันจากการนี้ด้วย
3.กันตธีร์เชิญจาเมกาเยือนไทยเรียนรู้แนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
ดร.กันตธีร์ฯ เชิญจาเมกามาเยือนไทยเพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์ด้านการพัฒนา การแก้ปัญหาความยากจนตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม การป้องกันโรคเอดส์ ไข้หวัดนก การทำฟาร์มกุ้ง และการป้องกันพิบัติภัยสึนามิ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศจาเมกาแสดงความสนใจอย่างมากที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ในด้านต่างๆ ของไทยเพื่อนำมาปรับใช้กับการพัฒนาประเทศของตัวเอง
ที่ผ่านมา ไทยให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ประเทศในแคริบเบียนผ่าน OAS และ CARICOM และได้ให้ทุนฝึกอบรมแก่ CARICOM ในด้านเกษตรและสาธารณสุข ซึ่งจาเมกาก็เป็นประเทศหนึ่งที่เข้าร่วมในโครงการฝึกอบรมของไทยด้วย
กันตธีร์ชวนจาเมกาสอนฟุตบอลให้เด็กไทย
ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า โดยที่จาเมกาประสบความสำเร็จในกีฬาฟุตบอล จึงได้เชิญให้ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือกันด้านกีฬา โดยอาจเชิญให้ทีมชาติจาเมกามาแข่งขันกับทีมชาติไทย ให้ผู้ฝึกสอนฟุตบอลจาเมกามาถ่ายทอดประสบการณ์และสอนฟุตบอลให้เยาวชนไทย
4. กันตธีร์เสนอกระชับความร่วมมือกับ CARICOM
ดร.กันตธีร์ฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้เสนอให้มีการประสานความร่วมมือระหว่างไทยกับกลุ่ม CARICOM เพื่อประสานความร่วมมือในกรอบสหประชาชาติ และ WTO รวมทั้งเสนอให้ ASEAN มีบทบาทในการหารือกับกลุ่ม CARICOM เพิ่มมากขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศจาเมกาเห็นด้วยว่า ไทยและจาเมกาควรมีบทบาทนำในการผลักดันให้อาเซียนและ CARICOM มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น และว่า การหารือกันจะช่วยให้ต่างฝ่ายต่างเข้าใจในท่าทีของกันและกันเพื่อสามารถกำหนดท่าทีร่วมกันในการผลักดันการแก้ปัญหากระทบต่อแต่ละฝ่ายในเวทีระหว่างประเทศ
บัวแก้วขอให้จาเมกาโน้มน้าวลาตินอเมริกาสนับสนุนสุรเกียรติ์
ดร.กันตธีร์ฯ ในฐานะผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีได้ขอให้จาเมกาสนับสนุนการสมัครของ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ในตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ โดยกล่าวว่า ดร.สุรเกียรติ์ฯ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงทั้งในภาครัฐและเอกชน และมีคุณสมบัติที่จะผลักดันการปฏิรูปสหประชาชาติให้ลุล่วงไปได้ นอกจากนั้น ดร.สุรเกียรติ์ฯ ยังเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มประเทศอันได้แก่ อาเซียนด้วย ทั้งนี้ ดร.กันตธีร์ฯ ได้ขอให้จาเมกาซึ่งเป็นประเทศผู้ประสานงานด้านการต่างประเทศของกลุ่ม CARICOM ช่วยโน้มน้าวสมาชิกกลุ่ม CARICOM และประเทศในลาตินอเมริกาให้สนับสนุน ดร.สุรเกียรติ์ฯ ด้วย
ในการนี้ ดร.กันตธีร์ฯ ได้ขอให้จาเมกาประสานนัดหมายให้ ดร.สุรเกียรติ์ฯ ได้พบหารือกับกลุ่ม CARICOM ก่อนการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มฯ ในวันที่ 25 กันยายน ศกนี้ที่นิวยอร์กด้วย ซึ่งฝ่ายจาเมการับจะพิจารณาคำขอของไทยด้วยดี และจะประสานการนัดหมายให้ รวมทั้งจะช่วยประสานให้ ดร.สุรเกียรติ์ฯ ได้พบกับกลุ่ม GRULAC ในระหว่างที่ไปร่วมประชุมที่นิวยอร์กด้วย
5. กันตธีร์เสนอตั้งคณะกรรมาธิการร่วมไทย-จาเมกา เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์
ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า ไทยและจาเมกามีศักยภาพที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ ระหว่างกันอีกมาก จึงเสนอให้ทั้งสองฝ่ายจัดทำความตกลงตั้งคณะกรรมาธิการร่วมไทย-จาเมกาเพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือระหว่างกัน ซึ่งฝ่ายจาเมกาเห็นพ้องด้วย และเห็นว่า ควรจะต้องให้ระดับการเมืองเข้ามามีบทบาทสำคัญในการประชุมด้วยเพื่อผลักดันความร่วมมือให้รุดหน้าไปโดยเร็ว
นอกจากนั้น ดร.กันตธีร์ฯ ยังได้เสนอให้เร่งทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับ CARICOM รวมทั้งความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ อันจะเป็นกรอบในการที่ไทยจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับจาเมกาในด้านการพัฒนา การแก้ไขปัญหาความยากจน ด้านสาธารณสุข และการเกษตร
6. การหารือกันเกี่ยวกับปัญหาในภูมิภาค
ดร.กันตธีร์ฯ ได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับนาย Hylton เกี่ยวกับสถานการณ์ใน ภูมิภาค เช่น อาเซียน ปัญหาพม่า คาบสมุทรเกาหลี อิหร่าน เวเนซูเอลา คิวบา ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น
นอกจากนั้น ดร.กันตธีร์ฯ ได้ไปเยี่ยม International Seabed Authority และได้หารือกับนาย Satya N. Nandan เลขาธิการของ ISA โดยนาย Nandan ได้บรรยายสรุปการดำเนินงานของ ISA พร้อมนำ ดร.กันตธีร์ฯ เยี่ยมชม ISA
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-