คำถาม : ธุรกิจใดของไทยที่น่าจะมีโอกาสลงทุนในรัสเซีย
คำตอบ : รัสเซียเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรราว 143 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับ 9 ของโลก ประกอบกับรัฐบาลรัสเซียมีนโยบายส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนด้วยการให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนต่างๆ ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าไปลงทุนในรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ทั้งนี้ The Economist Intelligence Unit (EIU)สำนักเศรษฐกิจชั้นนำของสหราชอาณาจักร รายงานว่า ในปี 2548 มีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ารัสเซีย(Foreign Direct Investment Inflows : FDI Inflows) เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากปีก่อน เป็น 16.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงที่สุดในภูมิภาคยุโรปตะวันออกและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States : CIS) โดยพื้นที่ที่นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนกันมาก ได้แก่ กรุงมอสโก (เมืองหลวงของรัสเซีย) และเกาะ Sakhalin ทางตะวันออกของประเทศ เป็นต้น
สำหรับธุรกิจไทยที่น่าจะมีโอกาสในรัสเซีย อาทิ
ธุรกิจร้านอาหารไทย จากเศรษฐกิจของรัสเซียที่เติบโตดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ชาวรัสเซียมีฐานะดีขึ้นและนิยมออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในกรุงมอสโก ทั้งนี้ อาหารไทยเริ่มเป็นที่นิยมของชาวรัสเซีย เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่เลี่ยน แต่ขณะเดียวกันชาวรัสเซียก็ไม่ชอบอาหารเผ็ดจัด ปัจจุบันมีโรงแรมขนาดใหญ่ในรัสเซียหลายแห่งได้เพิ่มรายการอาหารไทยในเมนูอาหาร ซึ่งนอกจากจะสะท้อนว่าอาหารไทยได้รับการยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคชาวรัสเซียแล้ว ยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์อาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย
ทางการรัสเซียอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนในธุรกิจร้านอาหารได้ทั้ง 100% แต่ทั้งนี้ต้องให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคค่อนข้างมาก โดยการทำอาหารแต่ละจานต้องมีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อไม่ให้ร้านค้าเอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขของรัสเซียจะเข้าตรวจร้านอาหารเป็นประจำ ดังนั้น เพื่อส่งเสริมให้ร้านอาหารไทยในรัสเซียมีมาตรฐานเดียวกันและอาหารมีรสชาติอร่อยตามแบบฉบับเฉพาะของอาหารไทยแท้ ๆ กระทรวงพาณิชย์ไทยจึงได้มอบหมายให้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในกรุงมอสโก จัดอบรมและสาธิตการปรุงอาหารไทย รวมทั้งการแกะสลักผักและผลไม้ โดยผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรประกาศเกียรติคุณ (Certificate of Merit) เมื่อเข้าอบรมครบหลักสูตร ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากร้านอาหารไทยและโรงแรมในรัสเซีย ทั้งนี้ ร้านอาหารไทยในกรุงมอสโกส่วนใหญ่นิยมจ้างพ่อครัวและแม่ครัวจากประเทศไทยเข้าไปทำงาน
ธุรกิจสปา ปัจจุบันชาวรัสเซียมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น จึงหันมาให้ความสนใจสุขภาพและความงามมากขึ้นประกอบกับรัสเซียเป็นประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี ส่งผลให้ชาวรัสเซียมีโอกาสเลือกทำกิจกรรมด้านสันทนาการต่าง ๆ ได้ไม่มากนัก สปาเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มชาวรัสเซียที่มีฐานะดีที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงมอสโก โดยธุรกิจสปาส่วนใหญ่จะให้บริการนวดเพื่อสุขภาพควบคู่ไปด้วยนอกจากนี้ ศูนย์ฟิตเนสบางแห่งยังให้บริการสปาด้วย ทำให้ธุรกิจสปาในรัสเซียเริ่มแพร่หลายมากขึ้น
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ตุลาคม 2549--
-พห-
คำตอบ : รัสเซียเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรราว 143 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับ 9 ของโลก ประกอบกับรัฐบาลรัสเซียมีนโยบายส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนด้วยการให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนต่างๆ ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าไปลงทุนในรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ทั้งนี้ The Economist Intelligence Unit (EIU)สำนักเศรษฐกิจชั้นนำของสหราชอาณาจักร รายงานว่า ในปี 2548 มีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ารัสเซีย(Foreign Direct Investment Inflows : FDI Inflows) เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากปีก่อน เป็น 16.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงที่สุดในภูมิภาคยุโรปตะวันออกและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States : CIS) โดยพื้นที่ที่นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนกันมาก ได้แก่ กรุงมอสโก (เมืองหลวงของรัสเซีย) และเกาะ Sakhalin ทางตะวันออกของประเทศ เป็นต้น
สำหรับธุรกิจไทยที่น่าจะมีโอกาสในรัสเซีย อาทิ
ธุรกิจร้านอาหารไทย จากเศรษฐกิจของรัสเซียที่เติบโตดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ชาวรัสเซียมีฐานะดีขึ้นและนิยมออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในกรุงมอสโก ทั้งนี้ อาหารไทยเริ่มเป็นที่นิยมของชาวรัสเซีย เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่เลี่ยน แต่ขณะเดียวกันชาวรัสเซียก็ไม่ชอบอาหารเผ็ดจัด ปัจจุบันมีโรงแรมขนาดใหญ่ในรัสเซียหลายแห่งได้เพิ่มรายการอาหารไทยในเมนูอาหาร ซึ่งนอกจากจะสะท้อนว่าอาหารไทยได้รับการยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคชาวรัสเซียแล้ว ยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์อาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย
ทางการรัสเซียอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนในธุรกิจร้านอาหารได้ทั้ง 100% แต่ทั้งนี้ต้องให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคค่อนข้างมาก โดยการทำอาหารแต่ละจานต้องมีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อไม่ให้ร้านค้าเอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขของรัสเซียจะเข้าตรวจร้านอาหารเป็นประจำ ดังนั้น เพื่อส่งเสริมให้ร้านอาหารไทยในรัสเซียมีมาตรฐานเดียวกันและอาหารมีรสชาติอร่อยตามแบบฉบับเฉพาะของอาหารไทยแท้ ๆ กระทรวงพาณิชย์ไทยจึงได้มอบหมายให้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในกรุงมอสโก จัดอบรมและสาธิตการปรุงอาหารไทย รวมทั้งการแกะสลักผักและผลไม้ โดยผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรประกาศเกียรติคุณ (Certificate of Merit) เมื่อเข้าอบรมครบหลักสูตร ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากร้านอาหารไทยและโรงแรมในรัสเซีย ทั้งนี้ ร้านอาหารไทยในกรุงมอสโกส่วนใหญ่นิยมจ้างพ่อครัวและแม่ครัวจากประเทศไทยเข้าไปทำงาน
ธุรกิจสปา ปัจจุบันชาวรัสเซียมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น จึงหันมาให้ความสนใจสุขภาพและความงามมากขึ้นประกอบกับรัสเซียเป็นประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี ส่งผลให้ชาวรัสเซียมีโอกาสเลือกทำกิจกรรมด้านสันทนาการต่าง ๆ ได้ไม่มากนัก สปาเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มชาวรัสเซียที่มีฐานะดีที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงมอสโก โดยธุรกิจสปาส่วนใหญ่จะให้บริการนวดเพื่อสุขภาพควบคู่ไปด้วยนอกจากนี้ ศูนย์ฟิตเนสบางแห่งยังให้บริการสปาด้วย ทำให้ธุรกิจสปาในรัสเซียเริ่มแพร่หลายมากขึ้น
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ตุลาคม 2549--
-พห-