ดร.เกรียงศักดิ์ แจงขณะนี้ศาลประทับรับฟ้อง คดีหมายเลขดำที่ อ๕๒๑/๒๕๔๙ ศาลอาญา กรณีที่นายศิธาและนายภิมุข กล่าวหาว่าตนเป็นคนนำจดหมายที่นางมณฑาทิพย์ ขอให้ใช้เครื่องบิน ซี ๑๓๐ ไปให้นายสนธิ ลิ้มทองกุลแล้ว เหตุที่ฟ้องเพื่อสั่งสอนไม่ให้แถลงข่าวมั่ว ๆ โดยไม่มีมูลความจริง ทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายศิธา ทิวารี ในฐานะโฆษกพรรคไทยรักไทย และนายภิมุข สิมะโรจน์ ในฐานะรองโฆษกพรรคไทยรักไทย ได้ร่วมกันกล่าวหาใส่ความตน โดยการแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเครื่องบิน ซี ๑๓๐ ว่า ผมเป็นคนเดียวที่ขอให้ออกจดหมายเชิญให้ไปงานเลี้ยงของนางมณฑาทิพย์ เจริญโกวิท ชินวัตร ซึ่งเป็นน้องสาวของนายกฯ และได้นำจดหมายฉบับนั้นไปให้แก่นายสนธิ ลิ้มทองกุล เพื่อร่วมกันโดยทำเป็นขบวนการล้มล้างรัฐบาล และนำจดหมายเชิญฉบับดังกล่าวมาเป็นประเด็นการเมืองเพื่อโจมตีพรรคไทยรักไทย
ตอนนี้ ศาลได้ประทับรับฟ้อง คดีหมายเลขดำที่ อ๕๒๑/๒๕๔๙ ศาลอาญาแล้ว คือ น่าเชื่อว่าจำเลยทั้ง ๒ คือ นายศิธา ทิวารี และนายภิมุข สิมะโรจน์ ได้กระทำความผิดจริง ที่กล่าวหาตนในประเด็นอันเป็นเท็จ
“เป็นการยืนยันข้อเท็จจริง ว่า ผมไม่เคยมีส่วนร่วมรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับนายสนธิฯและไม่เคยนำหนังสือขอใช้เครื่องบิน ซี ๑๓๐ ไปให้นายสนธิฯ พูดในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ หรือหลอกให้เพื่อนนักเรียน วปอ.รุ่นเดียวกันออกหนังสือเชิญไปร่วมงานวันเกิดของนางมณฑาทิพย์ฯ และหนังสือเชิญให้ร่วมงานดังกล่าวก็มิได้ออกมาให้ผมแต่เพียงคนเดียวตามที่ตามที่นายศิธาฯและนายภิมุขฯกล่าวอ้างแต่อย่างใด”
“เหตุที่ผมตัดสินใจฟ้องร้องเอาผิดกับนายศิธาและนายภิมุขเพื่อสั่งสอน ไม่ให้แถลงข่าวมั่ว ๆ โดยไม่มีมูลความจริง และไม่กระทำพฤติกรรมแย่ ๆ เช่นนี้กับผู้อื่น เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการไม่เล่นตามกติกา ชกใต้เข็มชัด โดยพยายามทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง “ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสรุป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 พ.ค. 2549--จบ--
ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายศิธา ทิวารี ในฐานะโฆษกพรรคไทยรักไทย และนายภิมุข สิมะโรจน์ ในฐานะรองโฆษกพรรคไทยรักไทย ได้ร่วมกันกล่าวหาใส่ความตน โดยการแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเครื่องบิน ซี ๑๓๐ ว่า ผมเป็นคนเดียวที่ขอให้ออกจดหมายเชิญให้ไปงานเลี้ยงของนางมณฑาทิพย์ เจริญโกวิท ชินวัตร ซึ่งเป็นน้องสาวของนายกฯ และได้นำจดหมายฉบับนั้นไปให้แก่นายสนธิ ลิ้มทองกุล เพื่อร่วมกันโดยทำเป็นขบวนการล้มล้างรัฐบาล และนำจดหมายเชิญฉบับดังกล่าวมาเป็นประเด็นการเมืองเพื่อโจมตีพรรคไทยรักไทย
ตอนนี้ ศาลได้ประทับรับฟ้อง คดีหมายเลขดำที่ อ๕๒๑/๒๕๔๙ ศาลอาญาแล้ว คือ น่าเชื่อว่าจำเลยทั้ง ๒ คือ นายศิธา ทิวารี และนายภิมุข สิมะโรจน์ ได้กระทำความผิดจริง ที่กล่าวหาตนในประเด็นอันเป็นเท็จ
“เป็นการยืนยันข้อเท็จจริง ว่า ผมไม่เคยมีส่วนร่วมรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับนายสนธิฯและไม่เคยนำหนังสือขอใช้เครื่องบิน ซี ๑๓๐ ไปให้นายสนธิฯ พูดในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ หรือหลอกให้เพื่อนนักเรียน วปอ.รุ่นเดียวกันออกหนังสือเชิญไปร่วมงานวันเกิดของนางมณฑาทิพย์ฯ และหนังสือเชิญให้ร่วมงานดังกล่าวก็มิได้ออกมาให้ผมแต่เพียงคนเดียวตามที่ตามที่นายศิธาฯและนายภิมุขฯกล่าวอ้างแต่อย่างใด”
“เหตุที่ผมตัดสินใจฟ้องร้องเอาผิดกับนายศิธาและนายภิมุขเพื่อสั่งสอน ไม่ให้แถลงข่าวมั่ว ๆ โดยไม่มีมูลความจริง และไม่กระทำพฤติกรรมแย่ ๆ เช่นนี้กับผู้อื่น เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการไม่เล่นตามกติกา ชกใต้เข็มชัด โดยพยายามทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง “ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสรุป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 พ.ค. 2549--จบ--