เศรษฐกิจไทยหลังปฏิรูป

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 27, 2006 14:03 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) นางธาริสา วัฒนเกส ได้กล่าวถึงเรื่องเศรษฐกิจไทย ในการสัมมนาหัวข้อ “เศรษฐกิจหลังปฏิรูป ร่อแร่หรือรุ่งเรือง” ที่สมาคมเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2549 ซึ่งสรุป โดยภาพรวมเศรษฐกิจไทยถือว่ามีความแข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงสูง โดยจะเห็นได้จากความสามารถในการผ่านปัจจัยลบหลายๆ ปัจจัยได้ เช่น ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เหตุการภัยธรรมชาติตลอดจนสถานการณ์ทางการเมือง อีกทั้งการที่ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง และสามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการบริโภคและการลงทุนในระยะต่อไป
นอกจากนี้ผู้ว่าการฯ ธปท ยังได้ให้ความเห็นเรื่องการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทมีปัจจัยหลัก 4 ประการได้แก่
- ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีมาอย่างต่อเนื่อง
- ความไม่สมดุลของเศรษฐกิจโลก (Global imbalance) คือ การที่สหรัฐฯ ซึ่งมีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ แต่มีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างมหาศาล
- ค่าเงินในเอเซียแข็งขึ้น ซึ่งเกิดจากกระแสการไหลของเงินทุนจากประเทศที่ขาดดุล ไปสู่ประเทศที่เกินดุล นั่นคือ ภูมิภาคเอเซีย รวมถึงประเทศไทย
- ปัจจัยภายในประเทศของไทย ได้แก่ การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง โดย 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดรวม 2.8 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับปี 2548 ที่ขาดดุลทั้งปี 3.7 พันล้านดอลลาร์ โดยเงินที่เข้าประเทศส่วนใหญ่ในปีนี้ อยู่ในกลุ่มที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ธปท ได้เน้นบทบาทเรื่องการดูแลด้านเสถียรภาพมิให้มีความผันผวนมากเกินไป กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ จะได้รับผลกระทบมากด้วยเหตุนี้ภาคเอกชนต้องเรียนรู้การบริหารความเสี่ยงด้วยตนเอง ในขณะเดียวกันภาครัฐบาลก็จะจัดหาแนวทางที่จะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการลงทุนมากขึ้น
ประเด็นวิเคราะห์
แต่อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกค่อนข้างมาก จึงต้องรักษาฐานการส่งออกในตลาดหลักไว้ ควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าในตลาดใหม่ๆ ใกว้างขวางยิ่งขึ้น ดังนั้นทั้งภาคเอกชนและรัฐบาล จะต้องร่วมมือกันหากลยุทธ์ในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและการบริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ