ประธานกิติมศักดิ์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ดร.อาชว์ เตาลานนท์ ให้ความเห็นว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2549 การส่งออกจะเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยคาดว่าในปีนี้การส่งออกจะขยายตัวที่ประมาณ 14-15% ในขณะที่การบริโภคภายในอ่อนตัวต้นทุนสินค้าแพงขึ้น ประกอบกับการเมืองยังคงอยู่ในภาวะน่าวิตก ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุนเพื่อดูทิศทางการเมือง
การที่ค่าเงินบาทของไทยแข็งตัวขึ้นในขณะนี้ ส่งผลให้ผู้นำเข้าตัดสินใจซื้อสินค้าช้าลง ซึ่งที่ผ่านมาเอกชนจะแก้ปัญหาด้วยการชะลอการขายหรือยอมแบกรับภาระขาดทุน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 4-4.5% โดยสินค้าเกษตรจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นส่วนใหญ่รวมถึงผู้ส่งออกขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีรายได้จากการส่งออกน้อยลง และต้องเผชิญความเสี่ยงจากการผันผวนของค่าเงิน และที่สำคัญผู้ส่งออกไทยยังเสียเปรียบการแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งสำคัญ อาทิ จีนซึ่งมีสินค้าส่งออกคล้ายไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร
ประเด็นวิเคราะห์
ปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจากปัจจัยภายนอกเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมรับมือกับผลกระทบในขณะที่รัฐบาลก็จะต้องเร่งดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามการที่ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้นจะส่งผลดีกับผู้ส่งออกที่นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นหลัก เช่นอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ที่มา: http://www.depthai.go.th