วันนี้ (27 ส.ค.49) เวลา 12.15 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวสืบเนื่องจากกรณีที่กลุ่มแกนนำพันธมิตรเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตั้งข้อสังเกตว่า การวางแผนระเบิดสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นการสร้างฉากเพื่อปฏิวัติอำนาจตัวเองและเรียกร้องคะแนนสงสารจากประชาชนว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่คิดว่าวิธีการในเรื่องของการรัฐประหารจะเป็นวิธีการที่เข้ามาแก้ไขวิกฤตของประเทศชาติบ้านเมืองได้อย่างแท้จริง ในอดีตที่ผ่านมาการรัฐประหารก็เป็นเพียงการเข้ามาแย่งชิงอำนาจกันระหว่างผู้มีอำนาจในบ้านเมืองมากกว่าการที่จะเป็นการรัฐประหารเพื่อเข้ามาแก้ไขวิกฤต
นายองอาจกล่าวต่อไปอีกว่า เพราะฉะนั้นถ้าดูการรัฐประหารในอดีตที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า เป็นเรื่องของการแย่งชิงอำนาจ โดยอาศัยข้ออ้างต่างๆและก็กำลังที่มีอยู่เพื่อจะเข้ามายึดกุมอำนาจในบ้านเมืองเท่านั้น เพราะฉะนั้น ตนไม่คิดว่า การเข้ามารัฐประหารจะช่วยแก้ไขวิกฤตของบ้านเมืองได้อย่างแท้จริง
“พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่คิดไปไกลถึงการเผชิญหน้ากันระหว่างทหารและตำรวจ แต่ผมคิดว่าทหารและตำรวจเป็นเพียงเบี้ยในกระดานที่กำลังเดินอยู่ในขณะนี้มากกว่า ทหาร ตำรวจในขณะนี้หมายถึงบุคลากรทหาร ตำรวจ คงไม่ใช้ม้าขุน หรือโคนที่เดินอยู่ในกระดานของวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ แต่แน่นอนที่สุดว่า ม้าขุนและโคนก็กำลังใช้ทหารตำรวจส่วนหนึ่งในการทำให้ตนเองได้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตนเองตั้งไว้ และแน่นอนที่สำคัญที่สุดคือวัตถุประสงค์เหล่านั้นไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรต่อประชาชน ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุประสงค์ในเรื่องของอำนาจทั้งสิ้น” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทั้งนี้ นายองอาจ ยังฝากความห่วงใยถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกที่ปฏบัติหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศอยู่ในขณะนี้ว่า ตนคิดว่าทหาร หรือ ผบ.เหล่าทัพในยุคปัจจุบันนี้เป็น ผบ.เหล่าทัพ หรือเป็นทหารที่เติบโตมาขึ้นมามีอำนาจระดับสูงในบรรยากาศของระบอบประชาธิปไตย และเท่าที่มีโอกาสสัมผัสรู้จักกับหลายๆ คน ตนคิดว่า หลายคนก็เป็นผู้มีอุดมการณ์และจิตใจยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย และตนเชื่อมั่นว่าทหารเหล่านี้จะไม่ดำเนินการใดๆจะดำเนินการที่เป็นไปในการที่ไม่ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยหรือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย
“ผมเชื่อมั่นว่าทหารเหล่านี้จะพยายามมีส่วนในการแก้ไขวิกฤตต่างไปในทิศทาง ไปในหนทางที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นกับประเทศ” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 ส.ค. 2549--จบ--
นายองอาจกล่าวต่อไปอีกว่า เพราะฉะนั้นถ้าดูการรัฐประหารในอดีตที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า เป็นเรื่องของการแย่งชิงอำนาจ โดยอาศัยข้ออ้างต่างๆและก็กำลังที่มีอยู่เพื่อจะเข้ามายึดกุมอำนาจในบ้านเมืองเท่านั้น เพราะฉะนั้น ตนไม่คิดว่า การเข้ามารัฐประหารจะช่วยแก้ไขวิกฤตของบ้านเมืองได้อย่างแท้จริง
“พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่คิดไปไกลถึงการเผชิญหน้ากันระหว่างทหารและตำรวจ แต่ผมคิดว่าทหารและตำรวจเป็นเพียงเบี้ยในกระดานที่กำลังเดินอยู่ในขณะนี้มากกว่า ทหาร ตำรวจในขณะนี้หมายถึงบุคลากรทหาร ตำรวจ คงไม่ใช้ม้าขุน หรือโคนที่เดินอยู่ในกระดานของวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ แต่แน่นอนที่สุดว่า ม้าขุนและโคนก็กำลังใช้ทหารตำรวจส่วนหนึ่งในการทำให้ตนเองได้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตนเองตั้งไว้ และแน่นอนที่สำคัญที่สุดคือวัตถุประสงค์เหล่านั้นไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรต่อประชาชน ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุประสงค์ในเรื่องของอำนาจทั้งสิ้น” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทั้งนี้ นายองอาจ ยังฝากความห่วงใยถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกที่ปฏบัติหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศอยู่ในขณะนี้ว่า ตนคิดว่าทหาร หรือ ผบ.เหล่าทัพในยุคปัจจุบันนี้เป็น ผบ.เหล่าทัพ หรือเป็นทหารที่เติบโตมาขึ้นมามีอำนาจระดับสูงในบรรยากาศของระบอบประชาธิปไตย และเท่าที่มีโอกาสสัมผัสรู้จักกับหลายๆ คน ตนคิดว่า หลายคนก็เป็นผู้มีอุดมการณ์และจิตใจยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย และตนเชื่อมั่นว่าทหารเหล่านี้จะไม่ดำเนินการใดๆจะดำเนินการที่เป็นไปในการที่ไม่ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยหรือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย
“ผมเชื่อมั่นว่าทหารเหล่านี้จะพยายามมีส่วนในการแก้ไขวิกฤตต่างไปในทิศทาง ไปในหนทางที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นกับประเทศ” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 ส.ค. 2549--จบ--