อุตสาหกรรมปิโตรเคมี (Petrochemical Industry)
ไตรมาส 2 ปี 2549 ราคาแนฟธาของตลาดเอเชียปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาสก่อน ปัจจัยหลัก ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบใน
ตลาดโลก สาเหตุเกิดจากความไม่มั่นคงทางการเมืองของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองนิวเคลียร์ของประเทศอิหร่าน
การโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันในประเทศไนจีเรีย อีกทั้งความกังวลของประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีต่อตลาดน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากปริมาณสต็อก
น้ำมันในประเทศลดลงและการเข้าสู่ฤดูกาลเฮอริเคนในเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน ส่วนราคาเอทิลีนโดยเฉลี่ยของตลาดเอเชียมีการปรับตัวสูงขึ้น ตาม
ราคาแนฟธา สาเหตุมาจากปริมาณเอทิลีนมีน้อยจากการปิดซ่อมบำรุงเอทิลีนแครกเกอร์หลายแห่งในเอเชีย กอร์ปกับปริมาณการซื้อขายเอทิลีนมีไม่มาก
นัก เนื่องจากผู้ซื้อได้รอดูทิศทางของราคา อีกทั้งปริมาณเอทิลีนที่เสนอขายในตลาด spot มีไม่มาก เพราะเริ่มมีการเก็บสต็อกเอทิลีนไว้ชดเชยเอทิลีนที่
จะหายไปจากตลาดในช่วงที่แครกเกอร์จำนวนมากในเอเชียจะปิดซ่อมบำรุง ที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2549
สำหรับการซื้อขายเม็ดพลาสติกทั้ง PE และ PP ตลาดค่อนข้างทรงตัว ราคามีการปรับตัวสูงขึ้นตามราคาเอทิลีนและราคาน้ำมันดิบ อีกทั้งมี
ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากจีน เพื่อสต็อกหลังจากที่ได้ชะลอการซื้อลงในปลายไตรมาสที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคา PE และ PP ก็ปรับตัวสูงขึ้นไม่
มากนัก เนื่องจากแรงต้านจากกลุ่มผู้ซื้อเม็ดพลาสติก
จีนยังคงมีแนวโน้มที่จะนำเข้า LLDPE เพิ่มขึ้นมากกว่า LDPE เนื่องจากจีนมีกำลังการผลิต LDPE ใหม่ถึงประมาณ 800,000 ตัน/ปี
ตั้งแต่กลางปี 2548 และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกของจีนมีการเปลี่ยนมาใช้ LLDPE ทดแทน LDPE เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างราคา LLDPE
และ LDPE ในตลาดเอเชียแคบลง
อนึ่ง อุตสาหกรรมปิโตรเคมีของจีนจะมีความเข้มแข็งขึ้น เนื่องจากการเยือนประเทศซาอุดิอาระเบียของประธานาธิบดี Hu Jintao แห่ง
ประเทศจีนได้มีการเจรจาลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในหลายด้าน ในส่วนของปิโตรเลียมและปิโตรเคมี นั้น ได้มีการตกลง
ร่วมจัดตั้ง Marketing Joint Venture ภายในปี 2006 และมีข้อตกลงว่า Saudi Aramco ของซาอุดิอาระเบียจะป้อนน้ำมันให้กับ Sinopec และ
บริษัทในเครือ ซึ่งเป็นของจีน 1 ล้านบาร์เรล/วัน ภายในปี 2010
การผลิต
ไตรมาส 2 ปี 2549 อุตสาหกรรมปิโตรเคมีภายในประเทศ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตบางรายกลับมาเดินเครื่อง ในช่วง
กลางเดือนมิถุนายน หลังจากปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ตามผู้ผลิต PE ในประเทศบางรายลดปริมาณการผลิตลงในเดือนมิถุนายน เนื่องจากส่วนต่าง
ระหว่างราคา PE-เอทิลีนที่แคบลงมาก จึงไม่มีความต้องการซื้อเอทิลีนในตลาด spot เพิ่มขึ้น
สำหรับการผลิต Mono Ethylene Glycol (MEG) ซึ่งเป็นหน่วยผลิตใหม่ มีกำลังการผลิต 300,000 ตัน/ปี ได้เลื่อนกำหนดเดินเครื่อง
การผลิตจากกลางเดือนมิถุนายน เป็นสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2549
สำหรับการผลิตในภูมิภาคเอเชีย หลายประเทศมีการขยายกำลังการผลิต ดังนี้
- ประเทศอินเดีย ขยายกำลังการผลิต PP เพิ่มอีก 280,000 ตัน/ปี
- ประเทศญี่ปุ่น ขยายกำลังการผลิตโพรพิลีนรวม 210,000 ตัน/ปี ภายในเดือนพฤษภาคม 2549
- ประเทศซาอุดิอาระเบีย วางแผนขยายกำลังการผลิตเอทิลีนเพิ่มขึ้นอีก 100,000-200,000 ตัน/ปี ภายในปลายเดือนมิถุนายน 2549
- ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ผลิตเอทิลีนเกือบทุกรายมีแผนขยายกำลังการผลิตในช่วงปี 2549-2553 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตรวมในเกาหลี
ใต้เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 1.145 ล้านตัน/ปี
การตลาด
ราคาเม็ดพลาติก PE และ PP ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2549 ราคาจำหน่ายเม็ดพลาสติก (ราคาเฉลี่ย SE Asia CIF) ในเดือน
มิถุนายน 2549 ของ LDPE, HDPE, และ PP อยู่ที่ระดับ 48.26, 48.84 และ 48.26 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ ทั้งนี้ LDPE, HDPE
และ PP มีระดับราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ที่ระดับราคา 43.93 , 43.87 และ 44.12 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ
การนำเข้า
ไตรมาส 2 ปี 2549 การนำเข้าปิโตรเคมีขั้นต้นมีมูลค่า 5,787.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 74.40 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว
และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 120.04 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปิโตรเคมีขั้นกลางมีมูลค่านำเข้า 10,610.97 ล้านบาท เพิ่มร้อยละ 4.87 เมื่อ
เทียบกับไตรมาสที่แล้ว แต่ลดลงร้อยละ 14.47 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปิโตรเคมีขั้นปลายมีมูลค่านำเข้า 16,163.24 ล้านบาท ลด
ลงร้อยละ 2.15 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้วแต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่านำเข้า (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)
Q2/2548 Q1/2549 Q2/2549 เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ขั้นต้น 2,630 3,318.16 5,787.10 74.40 120.04
ขั้นกลาง 12,406 10,118.49 10,610.97 4.87 -14.47
ขั้นปลาย 16,126 16,518.92 16,163.24 -2.15 0.23
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
เมื่อพิจารณาการนำเข้าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2549 พบว่า ปิโตรเคมีขั้นต้นและขั้นปลาย มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปิโต
รเคมีขั้นกลาง มีมูลค่าการนำเข้าลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่านำเข้า (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง(ร้อยละ)
มกราคม-มิถุนายน2548 มกราคม-มิถุนายน2549
ขั้นต้น 3,490 9,105.26 160.89
ขั้นกลาง 25,307 20,729.45 -18.09
ขั้นปลาย 30,261 32,682.16 8.00
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
การส่งออก
ไตรมาส 2 ปี 2549 การส่งออกปิโตรเคมีขั้นต้นมีมูลค่าส่งออก 8,025.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.45 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่
แล้ว แต่ลดลงร้อยละ 20.68 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปิโตรเคมีขั้นกลางมีมูลค่าส่งออก 11,860.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.10
เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 165.82 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปิโตรเคมีขั้นปลายมีมูลค่าส่งออก 38,451.84
ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.77 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.79 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่าส่งออก (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)
Q2/2548 Q1/2549 Q2/2549 เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ขั้นต้น 10,118 6,951.57 8,025.93 15.45 -20.68
ขั้นกลาง 4,462 7,502.13 11,860.82 58.10 165.82
ขั้นปลาย 34,708 37,416.98 38,451.84 2.77 10.79
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
เมื่อพิจารณาการส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2549 พบว่า ปิโตรเคมีขั้นต้น มูลค่าการส่งออกมีอัตราการขยายตัวลดลง ในขณะที่ปิโต
รเคมีขั้นกลางและขั้นปลาย มูลค่าการส่งออกมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่าส่งออก (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)
มกราคม-มิถุนายน2548 มกราคม-มิถุนายน2549
ขั้นต้น 20,062 14,977.50 -25.34
ขั้นกลาง 8,281 19,362.95 133.82
ขั้นปลาย 70,393 75,868.82 7.78
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
แนวโน้ม
หากปัญหาทางการเมืองของอิสราเอล-เลบานอน เกิดการยืดเยื้อและลุกลามจนกลายเป็นสงครามตะวันออกกลาง จะส่งผลให้เกิดการ
ชะลอตัวของแผนการลงทุนในประเทศอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ผลิต ปิโตรเคมีที่มีแผนการขยายกำลังการผลิตปิโตรเคมีมากที่สุดในปลายทศวรรษนี้และทศวรรษ
หน้า
สำหรับประเทศไทย ปัญหาความผันผวนของราคาน้ำมันได้ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมที่ใช้เม็ดพลาสติกเป็นวัตถุดิบ
หลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมพลาสติก และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ ประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรม
ก่อสร้าง อุตสาหกรรมผลิตบรรจุภัณฑ์ และอุตสาหกรรมการเกษตร จะได้รับผลกระทบจากปัญหาการปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันที่ไม่มีเสถียรภาพในปัจจุบัน
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
ไตรมาส 2 ปี 2549 ราคาแนฟธาของตลาดเอเชียปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาสก่อน ปัจจัยหลัก ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบใน
ตลาดโลก สาเหตุเกิดจากความไม่มั่นคงทางการเมืองของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองนิวเคลียร์ของประเทศอิหร่าน
การโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันในประเทศไนจีเรีย อีกทั้งความกังวลของประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีต่อตลาดน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากปริมาณสต็อก
น้ำมันในประเทศลดลงและการเข้าสู่ฤดูกาลเฮอริเคนในเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน ส่วนราคาเอทิลีนโดยเฉลี่ยของตลาดเอเชียมีการปรับตัวสูงขึ้น ตาม
ราคาแนฟธา สาเหตุมาจากปริมาณเอทิลีนมีน้อยจากการปิดซ่อมบำรุงเอทิลีนแครกเกอร์หลายแห่งในเอเชีย กอร์ปกับปริมาณการซื้อขายเอทิลีนมีไม่มาก
นัก เนื่องจากผู้ซื้อได้รอดูทิศทางของราคา อีกทั้งปริมาณเอทิลีนที่เสนอขายในตลาด spot มีไม่มาก เพราะเริ่มมีการเก็บสต็อกเอทิลีนไว้ชดเชยเอทิลีนที่
จะหายไปจากตลาดในช่วงที่แครกเกอร์จำนวนมากในเอเชียจะปิดซ่อมบำรุง ที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2549
สำหรับการซื้อขายเม็ดพลาสติกทั้ง PE และ PP ตลาดค่อนข้างทรงตัว ราคามีการปรับตัวสูงขึ้นตามราคาเอทิลีนและราคาน้ำมันดิบ อีกทั้งมี
ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากจีน เพื่อสต็อกหลังจากที่ได้ชะลอการซื้อลงในปลายไตรมาสที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคา PE และ PP ก็ปรับตัวสูงขึ้นไม่
มากนัก เนื่องจากแรงต้านจากกลุ่มผู้ซื้อเม็ดพลาสติก
จีนยังคงมีแนวโน้มที่จะนำเข้า LLDPE เพิ่มขึ้นมากกว่า LDPE เนื่องจากจีนมีกำลังการผลิต LDPE ใหม่ถึงประมาณ 800,000 ตัน/ปี
ตั้งแต่กลางปี 2548 และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกของจีนมีการเปลี่ยนมาใช้ LLDPE ทดแทน LDPE เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างราคา LLDPE
และ LDPE ในตลาดเอเชียแคบลง
อนึ่ง อุตสาหกรรมปิโตรเคมีของจีนจะมีความเข้มแข็งขึ้น เนื่องจากการเยือนประเทศซาอุดิอาระเบียของประธานาธิบดี Hu Jintao แห่ง
ประเทศจีนได้มีการเจรจาลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในหลายด้าน ในส่วนของปิโตรเลียมและปิโตรเคมี นั้น ได้มีการตกลง
ร่วมจัดตั้ง Marketing Joint Venture ภายในปี 2006 และมีข้อตกลงว่า Saudi Aramco ของซาอุดิอาระเบียจะป้อนน้ำมันให้กับ Sinopec และ
บริษัทในเครือ ซึ่งเป็นของจีน 1 ล้านบาร์เรล/วัน ภายในปี 2010
การผลิต
ไตรมาส 2 ปี 2549 อุตสาหกรรมปิโตรเคมีภายในประเทศ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตบางรายกลับมาเดินเครื่อง ในช่วง
กลางเดือนมิถุนายน หลังจากปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ตามผู้ผลิต PE ในประเทศบางรายลดปริมาณการผลิตลงในเดือนมิถุนายน เนื่องจากส่วนต่าง
ระหว่างราคา PE-เอทิลีนที่แคบลงมาก จึงไม่มีความต้องการซื้อเอทิลีนในตลาด spot เพิ่มขึ้น
สำหรับการผลิต Mono Ethylene Glycol (MEG) ซึ่งเป็นหน่วยผลิตใหม่ มีกำลังการผลิต 300,000 ตัน/ปี ได้เลื่อนกำหนดเดินเครื่อง
การผลิตจากกลางเดือนมิถุนายน เป็นสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2549
สำหรับการผลิตในภูมิภาคเอเชีย หลายประเทศมีการขยายกำลังการผลิต ดังนี้
- ประเทศอินเดีย ขยายกำลังการผลิต PP เพิ่มอีก 280,000 ตัน/ปี
- ประเทศญี่ปุ่น ขยายกำลังการผลิตโพรพิลีนรวม 210,000 ตัน/ปี ภายในเดือนพฤษภาคม 2549
- ประเทศซาอุดิอาระเบีย วางแผนขยายกำลังการผลิตเอทิลีนเพิ่มขึ้นอีก 100,000-200,000 ตัน/ปี ภายในปลายเดือนมิถุนายน 2549
- ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ผลิตเอทิลีนเกือบทุกรายมีแผนขยายกำลังการผลิตในช่วงปี 2549-2553 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตรวมในเกาหลี
ใต้เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 1.145 ล้านตัน/ปี
การตลาด
ราคาเม็ดพลาติก PE และ PP ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2549 ราคาจำหน่ายเม็ดพลาสติก (ราคาเฉลี่ย SE Asia CIF) ในเดือน
มิถุนายน 2549 ของ LDPE, HDPE, และ PP อยู่ที่ระดับ 48.26, 48.84 และ 48.26 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ ทั้งนี้ LDPE, HDPE
และ PP มีระดับราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ที่ระดับราคา 43.93 , 43.87 และ 44.12 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ
การนำเข้า
ไตรมาส 2 ปี 2549 การนำเข้าปิโตรเคมีขั้นต้นมีมูลค่า 5,787.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 74.40 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว
และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 120.04 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปิโตรเคมีขั้นกลางมีมูลค่านำเข้า 10,610.97 ล้านบาท เพิ่มร้อยละ 4.87 เมื่อ
เทียบกับไตรมาสที่แล้ว แต่ลดลงร้อยละ 14.47 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปิโตรเคมีขั้นปลายมีมูลค่านำเข้า 16,163.24 ล้านบาท ลด
ลงร้อยละ 2.15 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้วแต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่านำเข้า (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)
Q2/2548 Q1/2549 Q2/2549 เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ขั้นต้น 2,630 3,318.16 5,787.10 74.40 120.04
ขั้นกลาง 12,406 10,118.49 10,610.97 4.87 -14.47
ขั้นปลาย 16,126 16,518.92 16,163.24 -2.15 0.23
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
เมื่อพิจารณาการนำเข้าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2549 พบว่า ปิโตรเคมีขั้นต้นและขั้นปลาย มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปิโต
รเคมีขั้นกลาง มีมูลค่าการนำเข้าลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่านำเข้า (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง(ร้อยละ)
มกราคม-มิถุนายน2548 มกราคม-มิถุนายน2549
ขั้นต้น 3,490 9,105.26 160.89
ขั้นกลาง 25,307 20,729.45 -18.09
ขั้นปลาย 30,261 32,682.16 8.00
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
การส่งออก
ไตรมาส 2 ปี 2549 การส่งออกปิโตรเคมีขั้นต้นมีมูลค่าส่งออก 8,025.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.45 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่
แล้ว แต่ลดลงร้อยละ 20.68 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปิโตรเคมีขั้นกลางมีมูลค่าส่งออก 11,860.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.10
เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 165.82 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปิโตรเคมีขั้นปลายมีมูลค่าส่งออก 38,451.84
ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.77 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.79 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่าส่งออก (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)
Q2/2548 Q1/2549 Q2/2549 เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ขั้นต้น 10,118 6,951.57 8,025.93 15.45 -20.68
ขั้นกลาง 4,462 7,502.13 11,860.82 58.10 165.82
ขั้นปลาย 34,708 37,416.98 38,451.84 2.77 10.79
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
เมื่อพิจารณาการส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2549 พบว่า ปิโตรเคมีขั้นต้น มูลค่าการส่งออกมีอัตราการขยายตัวลดลง ในขณะที่ปิโต
รเคมีขั้นกลางและขั้นปลาย มูลค่าการส่งออกมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่าส่งออก (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)
มกราคม-มิถุนายน2548 มกราคม-มิถุนายน2549
ขั้นต้น 20,062 14,977.50 -25.34
ขั้นกลาง 8,281 19,362.95 133.82
ขั้นปลาย 70,393 75,868.82 7.78
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
แนวโน้ม
หากปัญหาทางการเมืองของอิสราเอล-เลบานอน เกิดการยืดเยื้อและลุกลามจนกลายเป็นสงครามตะวันออกกลาง จะส่งผลให้เกิดการ
ชะลอตัวของแผนการลงทุนในประเทศอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ผลิต ปิโตรเคมีที่มีแผนการขยายกำลังการผลิตปิโตรเคมีมากที่สุดในปลายทศวรรษนี้และทศวรรษ
หน้า
สำหรับประเทศไทย ปัญหาความผันผวนของราคาน้ำมันได้ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมที่ใช้เม็ดพลาสติกเป็นวัตถุดิบ
หลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมพลาสติก และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ ประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรม
ก่อสร้าง อุตสาหกรรมผลิตบรรจุภัณฑ์ และอุตสาหกรรมการเกษตร จะได้รับผลกระทบจากปัญหาการปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันที่ไม่มีเสถียรภาพในปัจจุบัน
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-