วันนี้ (18 มิ.ย. 49) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคฯ มีความเป็นห่วงในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี อีกทั้งยังไม่มีท่าทีจะยุติลง ในทางตรงข้าม ขณะที่คนของรัฐบาลออกมาบอกว่าสถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น หรือว่าสงบลงมากแล้วนั้น แต่หากพิจารณาดูให้ดีจะเห็นได้ว่าสถานการณ์น่าจะสุกงอมมากขึ้นเรื่อย ๆ
สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลควรจะดำเนินการเป็นเบื้องต้นก็คือการเข้าไปคุ้มครองชีวิตของผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของเจ้าหน้าที่ในภาครัฐ โดยทั่วไป ซึ่งอาจไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ ทหาร โดยตรงนั้น ข้าราชการจำนวนมากในพื้นที่ รวมทั้งพี่น้องประชาชนทั่วไป อันนี้เป็นปัญหาเฉพาะหน้า เบื้องต้นที่รัฐบาลควรเร่งเข้าไปคุ้มครองชีวิตของผู้บริสุทธิ์ต่าง ๆ
ถ้าพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าสิ่งที่ พล.ต.อ. ชิดชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม ได้เคยกล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก อีกทั้งท่านได้ตำหนิเจ้าหน้าที่ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ให้ระวังแล้ว แต่ก็ยังปล่อยให้คนร้ายก่อเหตุ รวมถึงการสั่งสอบหาความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นว่าแทนที่แกนนำคนหนึ่งของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบความรุนแรงในภาคใต้จะไปหาความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่นั้น กลับควรจะไปหาความผิดพลาดของตนเอง ของรัฐบาล ของแกนนำผู้กำหนดนโยบายต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหามากกว่า เพราะปัญหาที่แท้จริงที่ก่อให้เกิดความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะการทำงานของเจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่นายองอาจเห็นว่าปัญหาความรุนแรง ความไม่สงบในภาคใต้นั้น น่าจะเกิดขึ้นจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล จากแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงทิศ ตรงทาง มาโดยตลอด
ถ้าเราจะมองให้เห็นถึงปัญหาที่แท้จริงแล้วจะเห็นว่าเป็นเพราะประชาชน ขาดความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ ประชาชนไม่เชื่อถือคนของราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และไม่มีความไว้วางใจต่อคนของรัฐที่ไปทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาอยู่ ในทางตรงกันข้ามจะเห็นว่าประชาชนมีแต่ความหวาดกลัว และหวาดระแวง ในบางพื้นที่พบว่า ประชาชนมีความเกลียดชังรัฐบาลจนไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการแก้ไขปัญหา ตรงนี้เองรัฐบาลจะต้องทราบถึงสาเหตุที่ประชาชนเกิดความหวาดระแวง และเกลียดชังจนไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล กับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการแก้ไขปัญหา นายองอาจกล่าวเพิ่มเติม
“ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรุนแรงในช่วงนี้ ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากนโยบายที่ไม่ถูกต้องของรัฐบาล และแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ผิดพลาด มาถึงวันนี้รัฐบาลควรยอมรับความจริงว่าปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากระบอบทักษิณที่มุ่งในเรื่องของการใช้อำนาจ มากกว่าการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ เพราะฉะนั้นรัฐบาลควรหามาตรการที่จะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้เกิดขึ้นกับประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ได้ โดยสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างรัฐกับประชาชนให้เกิดขึ้นมากกว่าที่ดำเนินการอย่างล้มเหลวอย่างที่ผ่านมาในอดีต” นายองอาจยังเสนอแนะว่า ควรที่จะนำผลการศึกษาของ คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) มาประยุกต์ใช้ให้เกิดผล ดีกว่าไปเก็บไว้เฉย ๆ โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น
หลังจากเกิดเหตุความรุนแรงที่ผ่านมา หัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สั่งการให้ อดีต ส.ส. ในพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยี่ยนผู้ได้รับบาดเจ็บจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นใน 2 — 3 วันที่ผ่านมา รวมทั้งไปดูแลช่วยเหลือครอบครัว ของผู้ได้รับผลกระทบจนกระทั่งเสียชีวิตด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 มิ.ย. 2549--จบ--
สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลควรจะดำเนินการเป็นเบื้องต้นก็คือการเข้าไปคุ้มครองชีวิตของผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของเจ้าหน้าที่ในภาครัฐ โดยทั่วไป ซึ่งอาจไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ ทหาร โดยตรงนั้น ข้าราชการจำนวนมากในพื้นที่ รวมทั้งพี่น้องประชาชนทั่วไป อันนี้เป็นปัญหาเฉพาะหน้า เบื้องต้นที่รัฐบาลควรเร่งเข้าไปคุ้มครองชีวิตของผู้บริสุทธิ์ต่าง ๆ
ถ้าพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าสิ่งที่ พล.ต.อ. ชิดชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม ได้เคยกล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก อีกทั้งท่านได้ตำหนิเจ้าหน้าที่ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ให้ระวังแล้ว แต่ก็ยังปล่อยให้คนร้ายก่อเหตุ รวมถึงการสั่งสอบหาความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นว่าแทนที่แกนนำคนหนึ่งของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบความรุนแรงในภาคใต้จะไปหาความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่นั้น กลับควรจะไปหาความผิดพลาดของตนเอง ของรัฐบาล ของแกนนำผู้กำหนดนโยบายต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหามากกว่า เพราะปัญหาที่แท้จริงที่ก่อให้เกิดความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะการทำงานของเจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่นายองอาจเห็นว่าปัญหาความรุนแรง ความไม่สงบในภาคใต้นั้น น่าจะเกิดขึ้นจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล จากแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงทิศ ตรงทาง มาโดยตลอด
ถ้าเราจะมองให้เห็นถึงปัญหาที่แท้จริงแล้วจะเห็นว่าเป็นเพราะประชาชน ขาดความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ ประชาชนไม่เชื่อถือคนของราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และไม่มีความไว้วางใจต่อคนของรัฐที่ไปทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาอยู่ ในทางตรงกันข้ามจะเห็นว่าประชาชนมีแต่ความหวาดกลัว และหวาดระแวง ในบางพื้นที่พบว่า ประชาชนมีความเกลียดชังรัฐบาลจนไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการแก้ไขปัญหา ตรงนี้เองรัฐบาลจะต้องทราบถึงสาเหตุที่ประชาชนเกิดความหวาดระแวง และเกลียดชังจนไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล กับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการแก้ไขปัญหา นายองอาจกล่าวเพิ่มเติม
“ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรุนแรงในช่วงนี้ ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากนโยบายที่ไม่ถูกต้องของรัฐบาล และแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ผิดพลาด มาถึงวันนี้รัฐบาลควรยอมรับความจริงว่าปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากระบอบทักษิณที่มุ่งในเรื่องของการใช้อำนาจ มากกว่าการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ เพราะฉะนั้นรัฐบาลควรหามาตรการที่จะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้เกิดขึ้นกับประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ได้ โดยสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างรัฐกับประชาชนให้เกิดขึ้นมากกว่าที่ดำเนินการอย่างล้มเหลวอย่างที่ผ่านมาในอดีต” นายองอาจยังเสนอแนะว่า ควรที่จะนำผลการศึกษาของ คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) มาประยุกต์ใช้ให้เกิดผล ดีกว่าไปเก็บไว้เฉย ๆ โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น
หลังจากเกิดเหตุความรุนแรงที่ผ่านมา หัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สั่งการให้ อดีต ส.ส. ในพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยี่ยนผู้ได้รับบาดเจ็บจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นใน 2 — 3 วันที่ผ่านมา รวมทั้งไปดูแลช่วยเหลือครอบครัว ของผู้ได้รับผลกระทบจนกระทั่งเสียชีวิตด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 มิ.ย. 2549--จบ--