‘องอาจ’ เชื่อ ‘วาสนา’ ไม่ออก ยื้อเวลาเอาผิดยุบปชป.

          โฆษกปชป. ชี้ วาสนา พูดโกหกหาข้ออ้างไม่ออกเพราะต้องการเคลียร์งาน ชี้หากไม่มีกกต.ชุดนี้ยังมีชุดใหม่มาสางงานต่อได้ ระบุเป็นไปไม่ได้ที่จะพิจารณาคำร้องในเวลาสั้น แฉสาเหตุที่แท้จริงจ้องเล่นงานเอาผิดยุบปชป.โดยสั่งเจ้าหน้าที่เร่งทำคำร้องของทรท.จนดึก แต่เรื่องผลสอบอนุกกต.กลับเมินเฉยทั้งที่สรุปพบมีความผิดชัดเจน ซัดม็อบเชียร์กกต.ทำร้ายสื่อละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้อื่น จี้ตำรวจดูแลเข้ม เชื่อทหารไม่เคลื่อนไหว วอนทุกฝ่ายเคารพมติ3ศาล
          วันนี้(18พ.ค.)นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุจะยังไม่ลาออกขณะนี้ เนื่องจากต้องการอยู่ทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นว่าเป็นเหตุผลที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากหากไม่มี กกต.ชุดนี้ทำหน้าที่ กกต.ชุดใหม่ก็สามารถพิจารณาวินิจฉัยคำร้องได้ อีกทั้งระยะเวลาอันสั้น กกต.คงไม่สามารถพิจารณาคำร้องได้หมด ดังนั้น คำพูดดังกล่าวเป็นเพียงคำกล่าวอ้างเพื่อจะยืดระยะเวลาอยู่ในตำแหน่งต่อไปโดยที่ไม่มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริง
          โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีรายงานว่า กกต.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับใน กกต. เร่งพิจารณาคำร้องของพรรคไทยรักไทยที่จะเอาผิดกับพรรคประชาธิปัตย์ถึงขั้นยุบพรรค โดยสั่งการให้ทำงานกันจนถึงเวลา 23.00 น. ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่พรรคเคยร้องให้สอบสวนกรณีที่พรรคการเมืองใหญ่จ้างพรรคการเมืองเล็ก ปรากฏว่ามีวิธีการที่แตกต่างกัน เพราะผ่านมาเป็นเดือนแล้วยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ทั้ง ๆ ที่คณะอนุกรรมการของ กกต.ได้สรุปแล้วว่าพรรคการเมืองเล็กรับจ้างจากพรรคใหญ่จริงและสั่งยุบพรรคการเมืองเล็กไปเรียบร้อยแล้ว
          “แสดงให้เห็นชัดเจนว่าการทำหน้าที่ของ กกต.เข้าข่ายช่วยเหลือบางพรรคการเมืองอย่างเห็นได้ชัด จึงถือว่า กกต.ไม่มีความเที่ยงธรรมหรือสุจริต ไม่เหมาะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” นายองอาจ กล่าว
          สำหรับการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุน พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. กับกลุ่มที่คัดค้านการทำหน้าที่ของ กกต. รวมทั้งการปะทะกับสื่อมวลชนที่หน้าอาคารศรีจุลทรัพย์นั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าวิตกกังวลว่าจะขยายออกไปมากกว่าที่เกิดขึ้นหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ ดังนั้น พรรคจึงขอเรียกร้องกลุ่มที่มาให้กำลังใจ กกต. ขอให้มาด้วยความเคารพในสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่ควรใช้วิธีการรุนแรงด้วยการเอาร่มไปตีสื่อมวลชน หรือทำลายป้ายผู้ที่มีความเห็นแตกต่างกับตัวเอง พร้อมกันนี้อยากเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวถือได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่พอสมควร หากเอาใจใส่มากขึ้นเหตุการณ์ความรุนแรงคงไม่เกิดขึ้น
          ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 พ.ค. 2549