“อลงกรณ์”ลุยให้ข้อมูลทุจริตซีทีเอ็กซ์ฉาว แก่คตส.ชี้ช่องมี 7 พฤติการส่อทุจริต เผยบริษัทอดีตรัฐมน ตรีเอี่ยวโครงการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน แนะคตส. จับมือรัฐบาลสิงคโปร์ สอบปากคำมิสเตอร์ วี ของบริษัทอินวิชั่น ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค เพื่อสาวว่ามีการติดสินบนให้นักการเมืองคนใดบ้าง
วันนี้ (25พ.ย.49) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายนนี้ เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปยื่นข้อมูลให้กับนายต่อตระกูล ยมนาค อนุกรรมการคณะกรรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เกี่ยวกับการทุจริตการจัดซื้ออุปกรณ์ตรวจสอบวัตถุระเบิดในสนามบินสุวรรณภูมิ (ซีทีเอ็กซ์ 9000) เนื่องจากพบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องในการทุจริตดังกล่าว ประกอบด้วย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กทพ.) ในขณะนั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมทั้งข้าราชการ และบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พฤติกรรมสมรู้ร่วมคิดกันทุจริต ซีทีเอ็กซ์ 9000 มี 7 ข้อ คือ 1. กำหนดนโยบายเอื้อต่อการทุจริต 2. เพิ่มงาน เพิ่มงบประมาณสูงเกินจริง นำไปสู่การทุจริตติดสินบน 3. ไม่มีการประมูล 4. จ้างงานแบบชงเองกินเอง 5. ตั้งบริษัทที่ปรึกษา ล็อกสเปกกลุ่มบริษัทที่มีความใกล้ชิด 6. สมคบวางสเปก ใช้ข้อมูลเท็จล็อกสเปก ให้ซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 และ 7. ซื้อขายต่อหลายช่วง และบวกราคาเกินจริง โกงกินส่วนต่าง
“ขอแนะนำ คตส. ให้ขอความร่วมมือไปยังทางการสิงคโปร์ เพื่อสอบปากคำมิสเตอร์ วี ของบริษัทอินวิชั่น ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค เพื่อให้ได้ความจริงว่ามีการติดสินบนให้นักการเมืองคนใดบ้าง เพื่อจะได้คลี่คลายปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น ทั้งนี้จากการเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ของผมพบว่ามิสเตอร์ วี มี ตัวตนอยู่จริงหากทางการสิงคโปร์ให้ความร่วมมือก็จะสามารถสอบปากคำได้ทันที”ประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน กล่าว
นายอลงกรณ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางพรรคได้รับการร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสจากตู้ ปณ. 222 เรื่องการก่อสร้างอาคารและสาธารณูปโภคในสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 3 สัญญา แบ่งเป็น อาคารคลังสินค้า อาคารสินค้าปลอดอากรและสาธารณูปโภค ที่มีงบประมาณในการก่อสร้าง 3,040 ล้านบาท ที่พบอาคารดังกล่าวมีการก่อสร้างผิดสเปก เช่น การถมที่และการก่อสร้างหลังคาก็ไม่เป็นไปตามหลักวิศวกรรม ซึ่งอาจพังทลายลงมาได้ โดยพบว่าบริษัทที่รับงานประมูลก่อสร้างอาคารดังกล่าวเป็นของอดีตรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดที่แล้ว และ อดีต ส.ส. ในพรรคไทยรักไทย ดังนั้น จึงขอให้คณะกรรมการของบริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ชุดใหม่ ที่เป็นผู้ว่าจ้างได้เข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อดำเนินการหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพราะหากปล่อยให้นานไปก็จะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้บริการในอนาคต
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 พ.ย. 2549--จบ--
วันนี้ (25พ.ย.49) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายนนี้ เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปยื่นข้อมูลให้กับนายต่อตระกูล ยมนาค อนุกรรมการคณะกรรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เกี่ยวกับการทุจริตการจัดซื้ออุปกรณ์ตรวจสอบวัตถุระเบิดในสนามบินสุวรรณภูมิ (ซีทีเอ็กซ์ 9000) เนื่องจากพบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องในการทุจริตดังกล่าว ประกอบด้วย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กทพ.) ในขณะนั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมทั้งข้าราชการ และบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พฤติกรรมสมรู้ร่วมคิดกันทุจริต ซีทีเอ็กซ์ 9000 มี 7 ข้อ คือ 1. กำหนดนโยบายเอื้อต่อการทุจริต 2. เพิ่มงาน เพิ่มงบประมาณสูงเกินจริง นำไปสู่การทุจริตติดสินบน 3. ไม่มีการประมูล 4. จ้างงานแบบชงเองกินเอง 5. ตั้งบริษัทที่ปรึกษา ล็อกสเปกกลุ่มบริษัทที่มีความใกล้ชิด 6. สมคบวางสเปก ใช้ข้อมูลเท็จล็อกสเปก ให้ซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 และ 7. ซื้อขายต่อหลายช่วง และบวกราคาเกินจริง โกงกินส่วนต่าง
“ขอแนะนำ คตส. ให้ขอความร่วมมือไปยังทางการสิงคโปร์ เพื่อสอบปากคำมิสเตอร์ วี ของบริษัทอินวิชั่น ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค เพื่อให้ได้ความจริงว่ามีการติดสินบนให้นักการเมืองคนใดบ้าง เพื่อจะได้คลี่คลายปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น ทั้งนี้จากการเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ของผมพบว่ามิสเตอร์ วี มี ตัวตนอยู่จริงหากทางการสิงคโปร์ให้ความร่วมมือก็จะสามารถสอบปากคำได้ทันที”ประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน กล่าว
นายอลงกรณ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางพรรคได้รับการร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสจากตู้ ปณ. 222 เรื่องการก่อสร้างอาคารและสาธารณูปโภคในสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 3 สัญญา แบ่งเป็น อาคารคลังสินค้า อาคารสินค้าปลอดอากรและสาธารณูปโภค ที่มีงบประมาณในการก่อสร้าง 3,040 ล้านบาท ที่พบอาคารดังกล่าวมีการก่อสร้างผิดสเปก เช่น การถมที่และการก่อสร้างหลังคาก็ไม่เป็นไปตามหลักวิศวกรรม ซึ่งอาจพังทลายลงมาได้ โดยพบว่าบริษัทที่รับงานประมูลก่อสร้างอาคารดังกล่าวเป็นของอดีตรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดที่แล้ว และ อดีต ส.ส. ในพรรคไทยรักไทย ดังนั้น จึงขอให้คณะกรรมการของบริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ชุดใหม่ ที่เป็นผู้ว่าจ้างได้เข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อดำเนินการหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพราะหากปล่อยให้นานไปก็จะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้บริการในอนาคต
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 พ.ย. 2549--จบ--