ธปท วิตกลงทุนทรุดกดศก.ต่ำ 5%

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 23, 2005 10:34 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สรุปสถานการณ์:
ม.ร.ว.ปริดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท)กล่าวว่าภาพรวมของเศรษฐกิจไทยหรือจีดีพีของไทยปี 2548 จะโตไม่ถึง 5 % ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้เนื่องจากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงและเหล็ก ทั้งนี้ ธปท ยังเป็นห่วงการชะลอตัวของการลงทุนภาคเอกชนซึ่งเกิดจากความไม่เชื่อมั่นอาจจะฉุดให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงได้ ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นไม่เช่นนั้นจะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ดี ภาพรวมการส่งออกของไทยจะยังขยายตัวได้ดี โดยคาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 13% แน่นอน
ด.ร.อำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช) กล่าวยอมรับว่าราคาน้ำมันในขณะนี้ได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าราคาเฉลี่ยที่ สศช.เคยประเมินไว้ แต่ยังยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ถดถอยจนถึงขั้นติดลบเพราะยังมีหลายปัจจัยที่เกื้อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัว เช่น การส่งออกที่ขยายตัวกว่า 10% การลงทุนภาคเอกชนและรัฐยังเติบโตได้ดี และการจ้างงานยังอยู่ในระดับที่สูง
ด.ร.วีรพงษ์ รามางกูร นักวิชาการด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตนได้แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบถึงความเป็นห่วงในเรื่องค่าเงินบาทอ่อนตัว และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด รวมทั้งเรื่องเม็ดเงินลงทุนโครงการขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจ็กวงเงิน 1.7 ล้านล้านบาท ว่ารายจ่ายที่เกิดขึ้นจะมาจากเงินตราในหรือต่างประเทศสัดส่วนเท่าใด หากเป็นต่างประเทศมากโดยเฉพาะการนำเข้าเครื่องจักรต่างๆ อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทให้อ่อนลงได้
ด.ร. นริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า คณะทำงานด้านเศรษฐกิจของกระทรวงการคลัง จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อวางแผนรับมือการนำเข้าที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องและคาดว่าน่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนก่อนจะนำเสนอให้ระดับนโยบายเพื่อพิจารณาต่อไป
อนึ่ง มาตรการด้านภาษีจะถูกนำมาหารือและเป็นมาตรการเบื้องต้นที่คาดว่าจะนำมาใช้เพื่อลดการนำเข้าสินค้า ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะพยายามคิดมาตรการลดการนำเข้าในลักษณะครอบคลุมในทุกด้าน เช่น ส่งเสริมให้ใช้สินค้าทดแทนที่สามารถผลิตได้ในประเทศ โดยเน้นให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีทุกประเภท
ประเด็นวิเคราะห์:
ปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวลดลงจากประมาณการที่เคยตั้งไว้มาเหลือต่ำกว่า 5% มาจากการนำเข้าที่สูงมากขึ้น ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง และราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ