ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. คาดว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระบบ ธพ.อาจปรับเพิ่มขึ้น 0.25-0.5% ในปี 48 กรรมการผู้
จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์ในปีนี้มีโอกาสปรับ
เพิ่มขึ้น 0.25-0.50% และในปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 0.50-1.00% เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการเข้ามาดูดซับสภาพ
คล่องในระบบ โดยเฉพาะการออก พธบ. ธปท. 250,000 ล.บาท และโครงการสาธารณูปโภค (เมกะโป
รเจกต์) ของรัฐบาล ขณะเดียวกัน ธปท. มีนโยบายการเงินให้ ธพ.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้สูงกว่าอัตราเงิน
เฟ้อ ซึ่งเชื่อว่าคงต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีข้างหน้า (โลกวันนี้)
2. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลัก
ทรัพย์ฯ วานนี้ (7ก.ค.) ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในรอบ 9 เดือน โดยปิดทำการซื้อขายที่ระดับ 638.31 ลดลง 21.60 จุดหรือ 3.27% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 23,827 ล.บาท เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.47 ซึ่งดัชนีปิดต่ำสุดที่
ระดับ 627.34 จุด เนื่องจากมีแรงเทขายในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และเทขายหุ้นเกือบทั้งกระดาน สาเหตุจากนักลงทุน
ต่างชาติไม่มั่นใจเศรษฐกิจของไทย ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 61
ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล และคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงการเกิดเหตุระเบิดในลอนดอน ทั้งนี้ หากนับ
ตั้งแต่ 4 ม.ค.48 ซึ่งดัชนีอยู่ที่ 684.48 จุด พบว่าขณะนี้ดัชนีลดลง 46.17 จุด (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งแรกปี 48 ขยายตัวลดลง รองกรรมการผู้จัดการ
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่อการขายและเช่าในครึ่งแรกปี
48 ว่า อัตราการขยายตัวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มชะลอตัว เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลงอยู่ที่ 10-
15% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งหลังปี 47 สาเหตุจากปัจจัยลบด้านอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อ
เนื่อง ด้านผลประกอบการของผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1-2 ปีที่ผ่านมามีกำไรลดลงต่อเนื่อง จากที่เคยมี
กำไรสูงสุด 35-40% ในปี 46-47 ขณะนี้เหลือ 30-32% เท่านั้น และในช่วงครึ่งแรกของปี 48 ที่ผ่านมายังมีกำไร
ลดลงไปอีก 4-5% (ไทยโพสต์)
4. การใช้น้ำมันดีเซลลดลงหลังการลอยตัวราคาแบบมีการจัดการ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า หลัง
จากมีการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลแบบมีการจัดการทำให้ภาพรวมการใช้น้ำมันดีเซลของประเทศเริ่มลดลง จากเดิมที่
เคยใช้สูงถึง 62-63 ล้านลิตรต่อวัน ลงมาอยู่ที่ประมาณ 53 ล้านลิตรต่อวัน แต่อัตราดังกล่าวยังถือว่าสูงกว่าปีที่ผ่าน
มา ส่วนปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินลดลงประมาณ 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งหากมีการปรับ
เปลี่ยนรถในภาคขนส่งมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้น จะช่วยลดการใช้น้ำมันดีเซลได้มากขึ้น (โลกวันนี้)
5. เดือน พ.ค.48 การเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จ 141 ล้านบาท ฝ่ายปรับปรุงโครง
สร้างหนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานความคืบหน้าการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในเดือน พ.
ค.48 ว่า มีการเจรจาจนได้ผลสำเร็จทั้งสิ้น 26 ราย มูลหนี้ 141 ล้านบาท จากลูกหนี้ที่มีการเจรจาจนมีข้อยุติใน
เดือน พ.ค.ทั้งสิ้น 66 รายมูลหนี้ 508 ล้านบาท โดยลูกหนี้ที่เจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จนับตั้งแต่เริ่มมีการ
เจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้เมื่อปี 41 นั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 11,581 ราย มูลหนี้ 1,498,351 ล้านบาท โดยส่วน
ใหญ่เป็นผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจการพาณิชย์ รองลงมาเป็นผู้ประกอบกิจการในกลุ่มการอุปโภคและบริโภค และ
กลุ่มการอุตสาหกรรม (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองเฉลี่ยระยะ 30 ปี และ 15 ปี ของ สรอ.ณ สัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้น
รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 7 ก.ค.48 บริษัทสินเชื่อจำนอง Freddie Mac เปิดเผยว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
จำนองเฉลี่ยระยะ 30 ปี และ 15 ปี ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ค.48 อยู่ที่ร้อยละ 5.62 และ 5.20 เพิ่มขึ้นจาก
ร้อยละ 5.53 และ 5.12 ในสัปดาห์ก่อนหน้าตามลำดับ เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะเวลา 1 ปีที่
ปรับได้ (Adjustable Rate Mortgages — ARM) ก็ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 4.33 จากร้อยละ 4.24 ใน
สัปดาห์ก่อน ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 30 ปี ระยะ 15 ปี และ ARM ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่
ร้อยละ 6.01, 5.42 และร้อยละ 4.05 ตามลำดับ สำหรับค่าธรรมเนียมในการจดจำนองทั้งระยะ 30 ปี และ
ARM ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยอยู่ที่ร้อยละ 0.6 และ 0.7 ตามลำดับ ขณะที่ค่าธรรมเนียมสำหรับ
ระยะ 15 ปีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 0.7 จากร้อยละ 0.6 ในสัปดาห์ก่อน ส่วน hybrid 5/1 ARM ที่กำหนดเป็นอัตรา
ดอกเบี้ยคงที่ระยะ 5 ปีและปรับได้ทุกๆ ปี อยู่ที่ร้อยละ 5.19 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.06 (รอยเตอร์)
2. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานของสรอ.เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รายงานจากวอชิงตันเมื่อ
วันที่ 7 ก.ค. 48 ก.แรงงานเปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ค.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่เพิ่ม
ขึ้น 7,000 คน ส่วนใหญ่เนื่องจากการเลิกจ้างงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ และภาคโรงเรียน โดยเพิ่มขึ้นเป็น
จำนวน 319,000 คนจาก 312,000 คน (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) ในสัปดาห์ก่อนหน้า สอดคล้องกับที่วอลสตรี
ทคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 319,000 คนจาก 310,000 คน (ตัวเลขเบื้องต้น) เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้นัก
วิเคราะห์จากก.แรงงานกล่าวว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุจากการปลดคนงานในภาค
อุตสาหกรรมรถยนต์เนื่องจากโรงงานเริ่มปิดทำการประจำปีเพื่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบรถยนต์ใหม่ รวมทั้งการปลด
ลูกจ้างชั่วคราวในระบบโรงเรียน อาทิ คนขับรถ และคนงานร้านอาหาร เนื่องจากโรงเรียนหลายแห่งปิดทำการใน
ช่วงฤดูร้อน สำหรับตัวเลขเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 อยู่ที่ระดับ
320,500 คนจาก 324,000 คนในสัปดาห์ก่อน ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. อย่างไรก็ตามภาพรวมเศรษฐกิจของ
สรอ. น่าจะถูกกระตุ้นให้ดีขึ้นจากตัวเลขการจ้างงานของเดือนมิ.ย.ที่จะประกาศในวันศุกร์โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น
178,500 ตำแหน่งหลังจากที่เพิ่มเพียงแค่ 78,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า ในขณะที่อัตราการว่างงานคาดว่าจะ
ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.1 (รอยเตอร์)
3. คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 3 ส.ค.48 รายงานจากกรุง
ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 7 ก.ค.48 ธ.กลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับร้อยละ 4.75 เป็น
เดือนที่ 11 ติดต่อกันหลังจากเกิดเหตุระเบิดในกรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ (7 ก.ค.48) ในขณะที่นักวิเคราะห์และ
ตลาดการเงินคาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 3 ส.ค.48 ด้านนัก
วิเคราะห์บางส่วนกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นกรณีฉุกเฉินเหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้น
หลังจากเกิดเหตุการณ์เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรด สรอ. เมื่อวันที่ 11 ก.ย.44 แต่ประธาน ธ.กลางสหภาพ
ยุโรปให้ความเห็นว่าไม่น่าเป็นไปได้ โดยกล่าวว่าเขาได้มีการติดต่อกับผู้ว่าการ ธ.กลางอังกฤษ และ ประธาน ธ.
กลาง สรอ. แล้ว ยืนยันได้ว่า ณ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ทำให้ต้องดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น (รอยเตอร์)
4. ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปีเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อ
กัน รายงานจากโซล เมื่อ 7 ก.ค.48 ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปี
เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันเพื่อกระตุ้นความต้องการในประเทศหลังจากที่ผลสำรวจของรัฐบาลชี้ให้เห็นว่าความเชื่อมั่น
ของผู้บริโภคลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดย ธ.กลางเกาหลีใต้ต้องการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศซึ่งอยู่ใน
ภาวะซบเซามากว่า 2 ปีให้เป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจแทนการส่งออกที่เริ่มชะลอตัวลงจากผลกระทบของราคาน้ำมันซึ่ง
ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งนี้สองวันก่อนหน้าที่จะมีการประกาศอัตราดอกเบี้ย ธ.กลางเกาหลีใต้ได้ปรับลด
ประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้จากร้อยละ 4.0 เหลือร้อยละ 3.8 โดยอ้างผลกระทบของราคา
น้ำมัน ในขณะที่รัฐบาลกำลังกังวลว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นในขณะนี้จะเป็นภาวะฟองสบู่ซึ่งจะส่งผลเสียต่อ
เศรษฐกิจเหมือนวิกฤตการเงินในเอเชียในช่วงปี 40-41 หรือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำยาวนานกว่า 10 ปีในญี่ปุ่น ซึ่ง
ก่อนหน้านี้คาดกันว่าจะเป็นสาเหตุให้ ธ.กลางเกาหลีใต้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอการขยายตัวของตลาดอสังหาริม
ทรัพย์ อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ธ.กลางเกาหลีใต้จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับปัจจุบันต่อไป
จนถึงสิ้นปีนี้แต่มีความเสี่ยงที่อัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นหากราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นเกินกว่าที่จะควบคุมได้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 8 ก.ค. 48 7 ก.ค. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.7 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.4837/41.7603 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.59375-2.60 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 638.31/23.83 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,350/8,450 8,300/8,400 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 53.79 53.06 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 25.34*/21.69 25.34*/21.69 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม เมื่อ 7 ก.ค. 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. คาดว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระบบ ธพ.อาจปรับเพิ่มขึ้น 0.25-0.5% ในปี 48 กรรมการผู้
จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์ในปีนี้มีโอกาสปรับ
เพิ่มขึ้น 0.25-0.50% และในปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 0.50-1.00% เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการเข้ามาดูดซับสภาพ
คล่องในระบบ โดยเฉพาะการออก พธบ. ธปท. 250,000 ล.บาท และโครงการสาธารณูปโภค (เมกะโป
รเจกต์) ของรัฐบาล ขณะเดียวกัน ธปท. มีนโยบายการเงินให้ ธพ.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้สูงกว่าอัตราเงิน
เฟ้อ ซึ่งเชื่อว่าคงต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีข้างหน้า (โลกวันนี้)
2. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลัก
ทรัพย์ฯ วานนี้ (7ก.ค.) ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในรอบ 9 เดือน โดยปิดทำการซื้อขายที่ระดับ 638.31 ลดลง 21.60 จุดหรือ 3.27% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 23,827 ล.บาท เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.47 ซึ่งดัชนีปิดต่ำสุดที่
ระดับ 627.34 จุด เนื่องจากมีแรงเทขายในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และเทขายหุ้นเกือบทั้งกระดาน สาเหตุจากนักลงทุน
ต่างชาติไม่มั่นใจเศรษฐกิจของไทย ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 61
ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล และคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงการเกิดเหตุระเบิดในลอนดอน ทั้งนี้ หากนับ
ตั้งแต่ 4 ม.ค.48 ซึ่งดัชนีอยู่ที่ 684.48 จุด พบว่าขณะนี้ดัชนีลดลง 46.17 จุด (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งแรกปี 48 ขยายตัวลดลง รองกรรมการผู้จัดการ
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่อการขายและเช่าในครึ่งแรกปี
48 ว่า อัตราการขยายตัวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มชะลอตัว เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลงอยู่ที่ 10-
15% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งหลังปี 47 สาเหตุจากปัจจัยลบด้านอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อ
เนื่อง ด้านผลประกอบการของผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1-2 ปีที่ผ่านมามีกำไรลดลงต่อเนื่อง จากที่เคยมี
กำไรสูงสุด 35-40% ในปี 46-47 ขณะนี้เหลือ 30-32% เท่านั้น และในช่วงครึ่งแรกของปี 48 ที่ผ่านมายังมีกำไร
ลดลงไปอีก 4-5% (ไทยโพสต์)
4. การใช้น้ำมันดีเซลลดลงหลังการลอยตัวราคาแบบมีการจัดการ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า หลัง
จากมีการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลแบบมีการจัดการทำให้ภาพรวมการใช้น้ำมันดีเซลของประเทศเริ่มลดลง จากเดิมที่
เคยใช้สูงถึง 62-63 ล้านลิตรต่อวัน ลงมาอยู่ที่ประมาณ 53 ล้านลิตรต่อวัน แต่อัตราดังกล่าวยังถือว่าสูงกว่าปีที่ผ่าน
มา ส่วนปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินลดลงประมาณ 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งหากมีการปรับ
เปลี่ยนรถในภาคขนส่งมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้น จะช่วยลดการใช้น้ำมันดีเซลได้มากขึ้น (โลกวันนี้)
5. เดือน พ.ค.48 การเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จ 141 ล้านบาท ฝ่ายปรับปรุงโครง
สร้างหนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานความคืบหน้าการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในเดือน พ.
ค.48 ว่า มีการเจรจาจนได้ผลสำเร็จทั้งสิ้น 26 ราย มูลหนี้ 141 ล้านบาท จากลูกหนี้ที่มีการเจรจาจนมีข้อยุติใน
เดือน พ.ค.ทั้งสิ้น 66 รายมูลหนี้ 508 ล้านบาท โดยลูกหนี้ที่เจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จนับตั้งแต่เริ่มมีการ
เจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้เมื่อปี 41 นั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 11,581 ราย มูลหนี้ 1,498,351 ล้านบาท โดยส่วน
ใหญ่เป็นผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจการพาณิชย์ รองลงมาเป็นผู้ประกอบกิจการในกลุ่มการอุปโภคและบริโภค และ
กลุ่มการอุตสาหกรรม (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองเฉลี่ยระยะ 30 ปี และ 15 ปี ของ สรอ.ณ สัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้น
รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 7 ก.ค.48 บริษัทสินเชื่อจำนอง Freddie Mac เปิดเผยว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
จำนองเฉลี่ยระยะ 30 ปี และ 15 ปี ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ค.48 อยู่ที่ร้อยละ 5.62 และ 5.20 เพิ่มขึ้นจาก
ร้อยละ 5.53 และ 5.12 ในสัปดาห์ก่อนหน้าตามลำดับ เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะเวลา 1 ปีที่
ปรับได้ (Adjustable Rate Mortgages — ARM) ก็ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 4.33 จากร้อยละ 4.24 ใน
สัปดาห์ก่อน ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 30 ปี ระยะ 15 ปี และ ARM ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่
ร้อยละ 6.01, 5.42 และร้อยละ 4.05 ตามลำดับ สำหรับค่าธรรมเนียมในการจดจำนองทั้งระยะ 30 ปี และ
ARM ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยอยู่ที่ร้อยละ 0.6 และ 0.7 ตามลำดับ ขณะที่ค่าธรรมเนียมสำหรับ
ระยะ 15 ปีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 0.7 จากร้อยละ 0.6 ในสัปดาห์ก่อน ส่วน hybrid 5/1 ARM ที่กำหนดเป็นอัตรา
ดอกเบี้ยคงที่ระยะ 5 ปีและปรับได้ทุกๆ ปี อยู่ที่ร้อยละ 5.19 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.06 (รอยเตอร์)
2. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานของสรอ.เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รายงานจากวอชิงตันเมื่อ
วันที่ 7 ก.ค. 48 ก.แรงงานเปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ค.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่เพิ่ม
ขึ้น 7,000 คน ส่วนใหญ่เนื่องจากการเลิกจ้างงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ และภาคโรงเรียน โดยเพิ่มขึ้นเป็น
จำนวน 319,000 คนจาก 312,000 คน (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) ในสัปดาห์ก่อนหน้า สอดคล้องกับที่วอลสตรี
ทคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 319,000 คนจาก 310,000 คน (ตัวเลขเบื้องต้น) เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้นัก
วิเคราะห์จากก.แรงงานกล่าวว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุจากการปลดคนงานในภาค
อุตสาหกรรมรถยนต์เนื่องจากโรงงานเริ่มปิดทำการประจำปีเพื่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบรถยนต์ใหม่ รวมทั้งการปลด
ลูกจ้างชั่วคราวในระบบโรงเรียน อาทิ คนขับรถ และคนงานร้านอาหาร เนื่องจากโรงเรียนหลายแห่งปิดทำการใน
ช่วงฤดูร้อน สำหรับตัวเลขเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 อยู่ที่ระดับ
320,500 คนจาก 324,000 คนในสัปดาห์ก่อน ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. อย่างไรก็ตามภาพรวมเศรษฐกิจของ
สรอ. น่าจะถูกกระตุ้นให้ดีขึ้นจากตัวเลขการจ้างงานของเดือนมิ.ย.ที่จะประกาศในวันศุกร์โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น
178,500 ตำแหน่งหลังจากที่เพิ่มเพียงแค่ 78,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า ในขณะที่อัตราการว่างงานคาดว่าจะ
ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.1 (รอยเตอร์)
3. คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 3 ส.ค.48 รายงานจากกรุง
ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 7 ก.ค.48 ธ.กลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับร้อยละ 4.75 เป็น
เดือนที่ 11 ติดต่อกันหลังจากเกิดเหตุระเบิดในกรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ (7 ก.ค.48) ในขณะที่นักวิเคราะห์และ
ตลาดการเงินคาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 3 ส.ค.48 ด้านนัก
วิเคราะห์บางส่วนกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นกรณีฉุกเฉินเหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้น
หลังจากเกิดเหตุการณ์เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรด สรอ. เมื่อวันที่ 11 ก.ย.44 แต่ประธาน ธ.กลางสหภาพ
ยุโรปให้ความเห็นว่าไม่น่าเป็นไปได้ โดยกล่าวว่าเขาได้มีการติดต่อกับผู้ว่าการ ธ.กลางอังกฤษ และ ประธาน ธ.
กลาง สรอ. แล้ว ยืนยันได้ว่า ณ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ทำให้ต้องดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น (รอยเตอร์)
4. ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปีเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อ
กัน รายงานจากโซล เมื่อ 7 ก.ค.48 ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปี
เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันเพื่อกระตุ้นความต้องการในประเทศหลังจากที่ผลสำรวจของรัฐบาลชี้ให้เห็นว่าความเชื่อมั่น
ของผู้บริโภคลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดย ธ.กลางเกาหลีใต้ต้องการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศซึ่งอยู่ใน
ภาวะซบเซามากว่า 2 ปีให้เป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจแทนการส่งออกที่เริ่มชะลอตัวลงจากผลกระทบของราคาน้ำมันซึ่ง
ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งนี้สองวันก่อนหน้าที่จะมีการประกาศอัตราดอกเบี้ย ธ.กลางเกาหลีใต้ได้ปรับลด
ประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้จากร้อยละ 4.0 เหลือร้อยละ 3.8 โดยอ้างผลกระทบของราคา
น้ำมัน ในขณะที่รัฐบาลกำลังกังวลว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นในขณะนี้จะเป็นภาวะฟองสบู่ซึ่งจะส่งผลเสียต่อ
เศรษฐกิจเหมือนวิกฤตการเงินในเอเชียในช่วงปี 40-41 หรือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำยาวนานกว่า 10 ปีในญี่ปุ่น ซึ่ง
ก่อนหน้านี้คาดกันว่าจะเป็นสาเหตุให้ ธ.กลางเกาหลีใต้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอการขยายตัวของตลาดอสังหาริม
ทรัพย์ อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ธ.กลางเกาหลีใต้จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับปัจจุบันต่อไป
จนถึงสิ้นปีนี้แต่มีความเสี่ยงที่อัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นหากราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นเกินกว่าที่จะควบคุมได้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 8 ก.ค. 48 7 ก.ค. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.7 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.4837/41.7603 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.59375-2.60 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 638.31/23.83 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,350/8,450 8,300/8,400 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 53.79 53.06 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 25.34*/21.69 25.34*/21.69 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม เมื่อ 7 ก.ค. 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--