การส่งออกเครื่องประดับตกแต่งบ้านในเดือนธันวาคม 2547 มีมูลค่า 28.61ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน ร้อยละ 13.8และคาดว่าเดือนมกราคม 2548 จะมี มูลค่าการส่งออกประมาณ 27.45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการส่งออกเครื่องประดับตกแต่งบ้าน:
การส่งออกเครื่องประดับตกแต่งบ้านระหว่างเดือนมกราคมถึงธันวาคม 2547 มีมูลค่า 346.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากในช่วงเดียวกันของปี 2546 ร้อยละ 10.49
สินค้าประเภทประทีปโคมไฟ รูปแกะสลักและเครื่องประดับทำด้วยไม้ กรอบรูปไม้ และของใช้ในเทศกาลและงานรื่นเริง มี อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.49, 21.52, 12.7และ 6.09 ตามลำดับ ส่วนสินค้าประเภทของชำรวยและเครื่องประดับทำด้วย เซรามิค ดอกไม้ ใบไม้ ต้นไม้ประดิษฐ์ ส่งออกได้ลดลง คิดเป็น ร้อยละ-11.05 และ —8.55 เมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบอัตราเปลี่ยนแปลงของมูลค่าส่งออกตั้งแต่ปี 2545-2547 พบว่าประเภทสินค้าที่เป็นสินค้าส่งออกดาวรุ่ง ที่มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากได้แก่ ประทีป โคมไฟ (จากร้อยละ 5.94,14.09, เป็นร้อยละ 25.49) รูปแกะ-สลักและเครื่องประดับทำด้วยไม้ (จากร้อยละ 18.98,19.43 เป็นร้อยละ21.52) นอกจากนี้ กรอบรูปไม้ได้ตลาดกลับคืนมาจากเคยส่งออกได้ลดลง ร้อยละ —8.43 เป็นเพิ่มร้อยละ 12.7
ตลาดส่งออกหลัก 5 ประเทศ ยังคงเป็นตลาดเดิม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ นำเข้าสินค้าไทยมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ซึ่งปีก่อน นำเข้าลดลงร้อยละ 6.03 (อัตราส่งออกเพิ่มขึ้นของ 5 ตลาดหลัก คิดเป็นร้อยละ 2.98, 19.39, 30.64, 14.64 และ 27.4) อย่างไรก็ตามมีตลาดใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยตลาดอื่นๆ นอกเหนือ 10 ประเทศหลัก นำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.45 ในปี 2547 ในขณะที่เดิมเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.02
จากการประเมินสถานการณ์เป็นรายเดือน และตลอดทั้งปี 2547 พบว่า มูลค่าการส่งออกในปี 2547 ทุกเดือน สูงกว่าปี 2546 โดยตลอด ยกเว้นเดือนมกราคม 2547 และแนวโน้มการส่งออก สินค้ากลุ่มนี้ค่อนข้างดีมาก แม้ว่าช่วงปลายปี ค่าเงินบาทแข็งตัว เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงิน $US แต่มูลค่าส่งออกยังคงสูงขึ้นอย่างเห็นได้ขัดในเดือนธันวาคม 2547
วิเคราะห์เป้าหมายการส่งออกปี 2547 ซึ่งได้ตั้งไว้มูลค่า 339 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 จากปี 2546 และมูลค่าส่งออกจริงทั้งปี 2547 เป็น 346.85 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.49 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้
เป้าหมายการส่งออกปี 2548:
มูลค่า 388.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากปี 2547
ที่มา: http://www.depthai.go.th
-ดท-