กรุงเทพ--8 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
ดร. วีระชัย วีระเมธีกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางเยือนคิวบาและกัวเตมาลาอย่างเป็นทางการในฐานะผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 9-16 กุมภาพันธ์ 2549 เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับประเทศทั้งสอง ตลอดจนรณรงค์หาเสียงสนับสนุนให้แก่ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี ผู้สมัครของไทยและอาเซียนในตำแน่งเลขาธิการสหประชาชาติคนต่อไป
ในการเดินทางเยือนคิวบา ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ และนาย Ramon Ignacio Ripoll Diaz รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจคิวบา จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม (Joint Commission: JC) ไทย-คิวบา ครั้งที่ 2 ณ กรุงฮาวานา ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2549 เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ (JC ไทย-คิวบา จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2545 และมีการประชุมครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2547) โอกาสนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะนาย Felipe Perez Roque รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคิวบา เพื่อหาเสียงสนับสนุนการสมัครตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของรองนายกรัฐมนตรี ดร. สุรเกียรติ์ฯ ด้วย
ไทยและคิวบาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2501 ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปอย่างราบรื่นและแน่นแฟ้น ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สถานะความสัมพันธ์ได้พัฒนาก้าวหน้าขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างกันหลายครั้ง ปัจจุบันไทยและคิวบามีการลงนามความตกลงร่วมกัน 3 ฉบับคือ 1) ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ 2) ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ และ 3) ความตกลงระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและคิวบาในปี 2548 การค้าระหว่างไทย-คิวบามีมูลค่า 10.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ 3.17) โดยไทยส่งออกไปคิวบา 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยได้แก่ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศ เครื่องคอมเรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเครื่องโทรสาร โทรพิมพ์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ) และนำเข้าจากคิวบาคิดเป็นมูลค่า 0.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สินค้าที่ไทยนำเข้าจากคิวบาได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ ผัก ผลไม้ และของปรุงแต่ที่ทำจากผัก ผลไม้ เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลม และสุรา และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม) ทำให้ไทยได้เปรียบดุลการค้ากับคิวบา 9.1ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการเดินทางเยือนกัวเตมาลาของผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2549 นั้น ถือเป็นการเยือนประเทศดังกล่าวของบุคคลระดับสูงของไทยครั้งแรก นับตั้งแต่ประเทศทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2500 ซึ่งผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ จะเข้าเยี่ยมคารวะนาย Jorge Briz Abularach รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัวเตมาลา เพื่อขอเสียงสนับสนุนการสมัครตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของรองนายกรัฐมนตรี ดร. สุรเกียรติ์ฯ นอกจากนี้ บุคคลทั้งสองยังจะได้หารือถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัวเตมาลา โดยเฉพาะในเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา (Forum for East Asia and Latin America Cooperation: FEALAC) และในกลุ่มแครนส์ (Cairns Group) ซึ่งไทยและกัวเตมาลาต่างเป็นสมาชิกที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัวเตมาลาเป็นไปอย่างราบรื่น มูลค่าการค้ารวมระหว่างประเทศทั้งสองในปี 2548 อยู่ที่ 37.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.89) โดยไทยส่งออกไปกัวเตมาลาคิดเป็นมูลค่า 35.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยได้แก่ รถยนต์ ผ้าปักและผ้าลูกไม้ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องจักรกล ผ้าผืน ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ) และนำเข้าจากกัวเตมาลาคิดเป็นมูลค่า 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สินค้าที่ไทยนำเข้าจากกัวเตมาลาได้แก่ เหล็ก เคมีภัณฑ์ ปุ๋ย ไม้ซุง กาแฟ ชา เครื่องเทศ และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด) ไทยจึงได้เปรียบดุลการค้ากับกัวเตมาลาในปีที่แล้วเป็นเงิน 33.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อนึ่ง เมื่อกัวเตมาลาประสบภัยเฮอริเคนสแตนเมื่อเดือนตุลาคม 2548 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต สูญหาย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รัฐบาลไทยได้บริจาคเงินจำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวกัวเตมาลาที่ประสบภัยด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ดร. วีระชัย วีระเมธีกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางเยือนคิวบาและกัวเตมาลาอย่างเป็นทางการในฐานะผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 9-16 กุมภาพันธ์ 2549 เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับประเทศทั้งสอง ตลอดจนรณรงค์หาเสียงสนับสนุนให้แก่ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี ผู้สมัครของไทยและอาเซียนในตำแน่งเลขาธิการสหประชาชาติคนต่อไป
ในการเดินทางเยือนคิวบา ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ และนาย Ramon Ignacio Ripoll Diaz รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจคิวบา จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม (Joint Commission: JC) ไทย-คิวบา ครั้งที่ 2 ณ กรุงฮาวานา ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2549 เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ (JC ไทย-คิวบา จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2545 และมีการประชุมครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2547) โอกาสนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะนาย Felipe Perez Roque รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคิวบา เพื่อหาเสียงสนับสนุนการสมัครตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของรองนายกรัฐมนตรี ดร. สุรเกียรติ์ฯ ด้วย
ไทยและคิวบาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2501 ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปอย่างราบรื่นและแน่นแฟ้น ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สถานะความสัมพันธ์ได้พัฒนาก้าวหน้าขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างกันหลายครั้ง ปัจจุบันไทยและคิวบามีการลงนามความตกลงร่วมกัน 3 ฉบับคือ 1) ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ 2) ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ และ 3) ความตกลงระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและคิวบาในปี 2548 การค้าระหว่างไทย-คิวบามีมูลค่า 10.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ 3.17) โดยไทยส่งออกไปคิวบา 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยได้แก่ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศ เครื่องคอมเรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเครื่องโทรสาร โทรพิมพ์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ) และนำเข้าจากคิวบาคิดเป็นมูลค่า 0.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สินค้าที่ไทยนำเข้าจากคิวบาได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ ผัก ผลไม้ และของปรุงแต่ที่ทำจากผัก ผลไม้ เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลม และสุรา และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม) ทำให้ไทยได้เปรียบดุลการค้ากับคิวบา 9.1ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการเดินทางเยือนกัวเตมาลาของผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2549 นั้น ถือเป็นการเยือนประเทศดังกล่าวของบุคคลระดับสูงของไทยครั้งแรก นับตั้งแต่ประเทศทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2500 ซึ่งผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ จะเข้าเยี่ยมคารวะนาย Jorge Briz Abularach รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัวเตมาลา เพื่อขอเสียงสนับสนุนการสมัครตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของรองนายกรัฐมนตรี ดร. สุรเกียรติ์ฯ นอกจากนี้ บุคคลทั้งสองยังจะได้หารือถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัวเตมาลา โดยเฉพาะในเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา (Forum for East Asia and Latin America Cooperation: FEALAC) และในกลุ่มแครนส์ (Cairns Group) ซึ่งไทยและกัวเตมาลาต่างเป็นสมาชิกที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัวเตมาลาเป็นไปอย่างราบรื่น มูลค่าการค้ารวมระหว่างประเทศทั้งสองในปี 2548 อยู่ที่ 37.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.89) โดยไทยส่งออกไปกัวเตมาลาคิดเป็นมูลค่า 35.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยได้แก่ รถยนต์ ผ้าปักและผ้าลูกไม้ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องจักรกล ผ้าผืน ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ) และนำเข้าจากกัวเตมาลาคิดเป็นมูลค่า 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สินค้าที่ไทยนำเข้าจากกัวเตมาลาได้แก่ เหล็ก เคมีภัณฑ์ ปุ๋ย ไม้ซุง กาแฟ ชา เครื่องเทศ และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด) ไทยจึงได้เปรียบดุลการค้ากับกัวเตมาลาในปีที่แล้วเป็นเงิน 33.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อนึ่ง เมื่อกัวเตมาลาประสบภัยเฮอริเคนสแตนเมื่อเดือนตุลาคม 2548 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต สูญหาย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รัฐบาลไทยได้บริจาคเงินจำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวกัวเตมาลาที่ประสบภัยด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-