จากการที่พรรคไทยรักไทยได้สั่งให้ลูกพรรคไปเดินสายจัดเวทีชี้แจงพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะเรื่องการซื้อขายหุ้น ชินคอร์ป ของครอบครัวหัวหน้าพรรคนั้น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นว่าแทนที่ท่านนายกรัฐมนตรีจะจัดเวทีชุมนุมในลักษณะดังกล่าว อันจะเป็นการใช้เงินทองจำนวนมาก อีกทั้งเสียเวลาพี่น้องประชาชนที่ต้องเดินทางเพื่อมาร่วมการชุมนมนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์เสนอว่า รัฐบาลควรจะใช้เวทีของรัฐสภาชี้แจงเรื่องนี้ และช่องทางที่จะใช้เวทีของรัฐสภาได้ดีที่สุดคือการให้ลูกพรรคมาร่วมลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ให้ครบ 200 เสียง ซึ่งขณะนี้ฝ่ายค้านมีเสียงอยู่แล้ว 124 เสียง และหากลงชื่อครบเมื่อไหร่ก็จะสามารถเปิดอภิปรายได้ทันที แน่นอนที่สุดทางท่านนายกฯ ก็มีสิทธิ์ที่จะชี้แจงเรื่องนี้ต่อหน้าประชาชนทั้งประเทศให้ได้ฟังไปพร้อม ๆ กันกับส.ส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศเช่นเดียวกันในสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.ฝ่ายที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่อาจจะมีข้อมูลแตกต่างจากท่านนายกฯ ก็จะได้ทำหน้าที่เป็นผู้แทนประชาชนซักถามท่านนายกรัฐมนตรี และท่านนายกฯ ได้ชี้แจงตอบข้อซักถามนั้น เพื่อให้เป็นที่กระจ่างชัด ส.ส.บางท่านที่เชื่อในข้อมูลท่านนายกฯ ก็อาจจะได้ใช้เวทีนั้นในการให้เหตุผล และพี่น้องในประเทศจะได้รับฟังข้อมูลต่าง ๆ ในขณะนั้น
โดยนายองอาจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสรุปตอนท้ายว่า ตนเชื่อว่าท่านนายกฯ จะมีความสามารถในการชี้แจงข้อมูลต่าง ๆ ให้กระจ่างได้ เหมือนกับที่ได้ชี้แจงมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในรายการทักษิณคุยกับประชาชนซึ่งต้องใช้เวลาอธิบายถึง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 ก.พ. 2549--จบ--
โดยนายองอาจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสรุปตอนท้ายว่า ตนเชื่อว่าท่านนายกฯ จะมีความสามารถในการชี้แจงข้อมูลต่าง ๆ ให้กระจ่างได้ เหมือนกับที่ได้ชี้แจงมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในรายการทักษิณคุยกับประชาชนซึ่งต้องใช้เวลาอธิบายถึง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 ก.พ. 2549--จบ--