นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า เนื่องจากการส่งออกผักต่าง ๆ ของไทยไปต่างประเทศในแถบยุโรป กล่าวคือ ไอซ์แลนด์ ได้ระงับการนำเข้า สหภาพยุโรปได้มีการแจ้งเตือนการพบเชื้อจุลินทรีย์ E. coli และ Salmonella และนอร์เวย์ จะยกเลิกการห้ามนำเข้าหากไทยมีการรับรองว่าผักที่ส่งออกปราศจากเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าว เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหานี้และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าของไทย รวมทั้งเป็นการป้องกันปัญหาการส่งออกสินค้าผักต่าง ๆ ที่จะเกิดในอนาคต กรมการค้าต่างประเทศได้ประชุมและหารือร่วมกับกรมวิชาการเกษตร ผู้ส่งออก และสถาบันอาหาร เพื่อทำความเข้าใจกับผู้ส่ออกสินค้าผัก ในความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการ ดังกล่าวในการส่งออก รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบให้มีความคล่องตัวในการตรวจสอบด้วย ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ ซึ่งผู้ส่งออกรับทราบและยินดีให้ความร่วมมือในมาตรการครั้งนี้
สำหรับมาตรการส่งออกผักจะกำหนดชนิด หรือประเภทของผักที่ต้องมีหนังสือรับรองการตรวจเชื้อจุลินทรีย์ E. coli และ Salmonella ในการส่งออกไปประเทศ ไอร์แลนด์ สหภาพยุโรป และนอร์เวย์ จำนวน 23 ชนิด ได้แก่ ผักชีไทย ผักชีฝรั่ง ใบกระเพรา ใบโหระพา ผักแขยง ใบสะระแหน่ ผักแพรว ต้นหอม ผักคื่นไช่ ใบกุยไช่ ดอกกุยไช่ ชะอม ตะไคร้ ผักบุ้ง ผักแว่น ผักกระเฉด ใบบัวบก ใบชะพลู ผักโขมแดง ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง พริกขี้หนู และผักปลัง โดยจะต้องมีหนังสือรับรองการตรวจเชื้อจุลินทรีย์ E. coli และ Salmonella จากกรมวิชาการเกษตรเพื่อแสดงต่อกรมศุลกากรประกอบการส่งออก
ทั้งนี้ การตรวจสอบเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าว นอกจากจะตรวจได้ที่ Lab LCFA ของกรมวิชาการเกษตรแล้ว สามารถตรวจสอบจาก Lab ของ SGS OMIC สถาบันอาหาร และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งผลการตรวจสอบจะต้องได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรด้วย โดยจะใช้เวลาในการรับรองไม่นาน อีกทั้งการรับรองผลการตรวจสอบสามารถทำได้ที่กรุงเทพฯ และหน่วยงานของกรมวิชาการเกษตรที่ภูมิภาค จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา เป็นต้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไทยส่งออกผักสดแช่เย็นไปต่างประเทศประมาณ ปีละ 3,300 ล้านบาท โดยปี 2548 (ม.ค. — พ.ย.) ส่งออกทั้งสิ้น 126,884 ตัน มูลค่า 4,180 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 11.62 ของมูลค่าการส่งออก โดยส่งออกไปสหภาพยุโรปร้อยละ 31 ซึ่งคาดว่าในอนาคตตลาดผักสดแช่เย็นของไทยจะขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะทางแถบยุโรปจากมาตรการสร้างความเชื่อมั่นของไทย
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-
สำหรับมาตรการส่งออกผักจะกำหนดชนิด หรือประเภทของผักที่ต้องมีหนังสือรับรองการตรวจเชื้อจุลินทรีย์ E. coli และ Salmonella ในการส่งออกไปประเทศ ไอร์แลนด์ สหภาพยุโรป และนอร์เวย์ จำนวน 23 ชนิด ได้แก่ ผักชีไทย ผักชีฝรั่ง ใบกระเพรา ใบโหระพา ผักแขยง ใบสะระแหน่ ผักแพรว ต้นหอม ผักคื่นไช่ ใบกุยไช่ ดอกกุยไช่ ชะอม ตะไคร้ ผักบุ้ง ผักแว่น ผักกระเฉด ใบบัวบก ใบชะพลู ผักโขมแดง ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง พริกขี้หนู และผักปลัง โดยจะต้องมีหนังสือรับรองการตรวจเชื้อจุลินทรีย์ E. coli และ Salmonella จากกรมวิชาการเกษตรเพื่อแสดงต่อกรมศุลกากรประกอบการส่งออก
ทั้งนี้ การตรวจสอบเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าว นอกจากจะตรวจได้ที่ Lab LCFA ของกรมวิชาการเกษตรแล้ว สามารถตรวจสอบจาก Lab ของ SGS OMIC สถาบันอาหาร และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งผลการตรวจสอบจะต้องได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรด้วย โดยจะใช้เวลาในการรับรองไม่นาน อีกทั้งการรับรองผลการตรวจสอบสามารถทำได้ที่กรุงเทพฯ และหน่วยงานของกรมวิชาการเกษตรที่ภูมิภาค จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา เป็นต้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไทยส่งออกผักสดแช่เย็นไปต่างประเทศประมาณ ปีละ 3,300 ล้านบาท โดยปี 2548 (ม.ค. — พ.ย.) ส่งออกทั้งสิ้น 126,884 ตัน มูลค่า 4,180 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 11.62 ของมูลค่าการส่งออก โดยส่งออกไปสหภาพยุโรปร้อยละ 31 ซึ่งคาดว่าในอนาคตตลาดผักสดแช่เย็นของไทยจะขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะทางแถบยุโรปจากมาตรการสร้างความเชื่อมั่นของไทย
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-