แท็ก
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
สุรยุทธ์ จุลานนท์
สุเทพ เทือกสุบรรณ
พรรคประชาธิปัตย์
นายกรัฐมนตรี
ชุมนุม
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดที่จะเลิกหวยบนดินว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้หารือกันในเรื่องนี้ เพราะพยายามปฏิบัติตามคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) อย่างเคร่งครัด คือไม่มีการชุมนุมทางการเมือง และโดยส่วนตัวก็ไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่คิดว่ารัฐบาลตัดสินใจอะไร คงต้องมีเหตุผล
ส่วนกรณีที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อ้างตัวเลขคนเล่นหวยมีอยู่ถึง 30 ล้านคนนั้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องตัวเลขนี้มาก่อน แต่คิดว่าที่รมว.คลัง ตัดสินใจถอนร่างพ.ร.บ.นี้ ออกมาเมื่อวานเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อแต่ละฝ่ายจะได้คิดและทบทวนอย่างรอบคอบ เมื่อทำแล้วก็ควรจะทำให้ดี เพราะก่อนหน้านี้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมากว่ารัฐบาลเดิมทำผิดก็ควรจะออกกฏหมายให้ถูก สำหรับการทำงานของสภานิติบัญญัติ (สนช.) กรณีเรื่องหวยบนดินนั้น ตนคิดว่าสนช.เข้มแข็งดี ตั้งใจทำงานและฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ แต่บางครั้งประชาชนอาจมองว่าดุเดือดบ้างก็เป็นธรรมดา เพราะคนจำนวนมากมีความเห็นที่แตกต่างกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการทำงานของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่สามารถประเมินได้ แต่เอาใจช่วยรัฐบาลกับคมช.ตลอดเวลา แม้ว่าจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่เห็นดีเห็นงามกับการปฏิวัติก็ตาม เมื่อบ้านเมืองมาถึงจุดนี้ ก็ต้องการให้ทำงานได้สำเร็จจะได้ฝ่าฟันวิกฤตการของบ้านเมืองไปพร้อมๆกัน
“ที่พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคมช. ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่คงคงภายในประเทศ (ผอ.รมน.) ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน ผมก็เห็นใจท่านและเข้าใจว่าคนที่เคยอุทิศตัวเอง เสียสละชีวิต ปกป้องบ้านเมือง พอมารู้ว่าบ้านเมืองถูกกัดแทะจนเหลือแต่กระดูกก็ต้องสลดใจเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ เคยเรียกร้องให้ตรวจสอบการดำเนินการของฝ่ายการเมืองที่ไม่ถูกต้อง เมื่อวันนี้คมช.และรัฐบาลตั้งใจที่จะทำให้เกิดความถูกต้องก็ต้องเอาใจช่วย ซึ่งผมคิดว่าเราคนไทยมีข้อมูลพยานหลักฐานที่ไหน รู้เห็นอะไรก็ควรที่จะรวบรวมให้รัฐบาลและควรจะต่อต้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ร่วมมือทุกอย่างมาโดยตลอดอยากเห็นบ้านเมืองดี ดังนั้นหากขอมาเราก็ให้เท่าที่จะหาได้” นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คมช.ควรทำอะไรมากกว่าที่บอกว่าเห็นแล้วอยากจะร้องไห้หรือไม่ เลขาธิการพรรคประชิปัตย์ กล่าวว่า คงต้องให้เวลาเขาบ้าง บางทีเราก็เป็นวัยรุ่นใจร้อน อยากเห็นทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว เขาเพิ่งจะรับหน้าที่บริหารบ้านเมืองมา 2 เดือนกว่า เราก็คาดหวังให้เขาทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คนที่อยู่มานานก็มองเห็นว่ายังทำงานช้าอยู่ อย่างไรก็ตาม หวังว่ารัฐบาลและคมช.คงจะตระหนักดีว่า มีเวลาจำกัดในการฟื้นฟูสภาพการต่างๆในประเทศ ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ เพื่อตั้งตัวให้เดินหน้าไปในแนวทางประชาธิปไตยที่บริสุทธิ์และมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขได้ ทั้งนี้ดห็นว่าคมช. มีความคิดที่จะใช้อำนาจแบบประชาธิปไตย นุ่มนวลประณีประน้อมอยากให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม ดังนั้นอาจทำให้การทำงานล่าช้าบ้าง ประชาชนก็ต้องเข้าใจว่าเมื่อคมช.ยอมผ่อนผันให้ถึงขนาดนี้ เพื่อให้เกิดการประณีประน้อม สมานฉันท์ ดังนั้น ถ้าจะเอาความรวดเร็วไปพร้อมกัน คงจะไม่ทัน แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ข้อข้างของรัฐบาลที่จะมาทำให้ทุกอย่างล่าช้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากยกเลิกกฏอัยการศึก พรรคจะมีการเรียกประชุม และกิจกรรมทางการเมืองได้เมื่อไร นายสุเทพ กล่าวว่า ความจริงพวกตนก็อึดอัดนิดหน่อย เมื่อคมช.ยังไม่ได้อนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ เช่น อยากไปช่วยคนที่ประสบปัญหาอุทกภัย จะออกไปประชาสัมพันธ์ก็ไม่ได้จะกลายเป็นทำกิจกรรมไป ตอนนี้พรรคจึงต้องเปลี่ยนใหม่ว่า เราจะไปช่วยคนที่ถูกน้ำท่วมในนามมูลนิธิควง อภัยวงศ์ และมีหลายเรื่องที่เราอยากทำแต่ยังทำไม่ได้ เช่น กรณี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจะทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึงนายกฯ หรือประธานคมช. เพื่อขอให้ผ่อนผันอย่างใดอย่างหนึ่งให้กับพรรคการเมืองหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชิปัตย์ กล่าวว่า พรรคคงไม่ทำอย่างนั้นเพราะตั้งใจจะไม่ทำอะไรที่กดดัน หรือเพิ่มภาระให้กับคมช.และรัฐบาล ยกเว้นเรื่องที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นเมื่อทุกฝ่ายต้องเสียสละประชาธปัตย์ซึ่งเป็นพรรคการเมืองก็ต้องอดทนถึงไม่คล่องตัวก็ต้องทำเท่าที่ทำได้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงที่พรรคประชาธิปัตย์ จะขออนุญาตตุลาการรัฐธรรมนูญขอจัดทำหนังสือที่รวบรวมรายละเอียดกระบวนการไต่สวนคดียุบพรรค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชนว่า พรรคยังไม่ได้ขออนุญาต เพราะหลังจากที่ฟังศาล ได้อธิบายถึงขั้นตอนในการพิจารณาตนคิดว่าคงไม่สะดวกที่จะดำเนินการอย่างนั้น ต้องรอไปก่อนดูให้ การพิจารณาคดีดำเนินการไประยะหนึ่ง แต่ก็เห็นใจเพราะศาลคงอยากทำให้ทุกอย่างเป็นไปเรียบร้อย ซึ่งทุกฝ่ายก็เข้าใจและร่วมมือกันได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตรวจพยานหลักฐานของแต่ละฝ่าย ในวันที่ 4 ม.ค.นี้ คิดว่า พยานหลักฐานของพรรคประชาธิปัตย์นั้นพรรคไทยรักไทยจะรับได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้สู้กับพรรคไทยรักไทย คนที่กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ คือ อัยการสูงสุด แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะมาจากพรรคไทยรักไทยแล้วผ่านการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ชุดที่แล้วที่ผสมโรงกันกลั่นแกล้งพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น เมื่อมาถึงวันนี้ ที่สู้คดีกัน ก็คือระหว่างประชาธิปัตย์กับอัยการสูงสุด ไม่เกี่ยวกับพรรคไทยรักไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรอบเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์มีอุปสรรค ปัญหา หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีปัญหาในทางปฏิบัติ เพราะเราตั้งใจว่าจะดำเนินการตามกรอบกติกา และกรอบเวลา ตามที่ศาลกำหนดไว้ทุกอย่าง จะเห็นได้ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้ว่าคดี ไม่ได้เรียกร้องอะไรพิเศษ ไม่สร้างความยุ่งยากให้ศาลหรือสร้างปัญหาใดๆทั้งสิน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคได้หารือกันหรือยังว่าจะมอบหมายให้ใครทำหน้าที่แถลงเปิดคดีด้วยวาจาตามที่ศาลอนุญาต เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ศาลให้เปิดแถลงคดีได้ แต่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ไม่ใช่ด้วยวาจา ภาระในการเปิดและปิดคดี เป็นหน้าที่ของหัวหน้าคณะผู้ว่าคดี ส่วนจะมีการยื่นแถลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรในการไต่สวนครั้วแรกนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ว่าคดี
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรียืนยันกับอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทยว่าจะไม่กลับมาเล่นการเมืองเพราะที่ผ่านมาได้เห็นสัจจธรรมการเมืองและธาตุแท้ของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นธาตุแท้ของตัวเองหรือยัง เพราะถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณควรต้องทบทวนตัวเองและดูตัวเอง โดยหากพิจารณาตัวเองได้ด้วยความถ่องแท้ เห็นความเป็นจริง และมีสติ ก็จะรู้ว่าตัวเองควรต้องทำอะไร ทั้งนี้ไม่มีใครไปแนะนำสั่งสอนพ.ต.ท.ทักษิณได้ เพราะมีคนพยายามกันมามากแล้ว ทั้งผู้ใหญ่ผู้โตที่สำคัญทั้งหลายก็ทำไม่สำเร็จมาแล้ว
“ปัญหาก็คือว่าคุณทักษิณพูดอย่างไรก็แล้วแต่ ใครจะเชื่อคุณทักษิณได้ และประชาชนเขาจะเชื่อคุณทักษิณหรือไม่”เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองความเคลื่อนไหวของอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทยที่เดินทางไปประเทศจีนเพื่อพบพ.ต.ท.ทักษิณอย่างไร เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ควรทำ และต้องหยุดการเคลื่อนไหว แต่มีบางคนยังออกมาพูดจาท้าทายตอบโต้ ยั่วยุ ทำสารพัดเหมือนกับสมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณยังมีอำนาจอยู่ทุกอย่าง ซึ่งควรจะมีความสำนึกและขอให้ยุติการเคลื่อนไหวได้แล้ว เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบและเตรียมพร้อมที่จะนำไปสู่การก้าวเดินโฉมหน้าใหม่ เพื่อให้ประชาธิปไตยเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่าการดำเนินการกลับกลุ่มเคลื่อนไหว ถือว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)และรัฐบาลใจดีเกินไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าอย่างนั้น และประชาชนก็คิดแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นคมช.และรัฐบาลควรต้องเด็ดขาดและทำให้เห็นชัดเจนว่า เมื่อมีการกระทำการที่ไม่อยู่ในกรอบกฎเกณฑ์กติกาที่สมควรและส่งผลร้ายต่อประเทศ เช่นการเผาโรงเรียน การไปปลุกระดมให้เตรียมตัวมาชุมนุมกันจนวุ่นวาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เสียหาย เพราะเมื่อเกิดเหตุต่าง ๆ ขึ้นทำให้ประชาชนอดคิดไม่ได้ว่าเป็นการกระทำที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอำนาจเก่าที่เสียอำนาจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลและคมช.ควรจะรับมือการเคลื่อนไหวจะชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.นี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า คมช.ก็ต้องไปดูว่าเป็นใครกลุ่มไหน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ธ.ค. 2549--จบ--
ส่วนกรณีที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อ้างตัวเลขคนเล่นหวยมีอยู่ถึง 30 ล้านคนนั้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องตัวเลขนี้มาก่อน แต่คิดว่าที่รมว.คลัง ตัดสินใจถอนร่างพ.ร.บ.นี้ ออกมาเมื่อวานเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อแต่ละฝ่ายจะได้คิดและทบทวนอย่างรอบคอบ เมื่อทำแล้วก็ควรจะทำให้ดี เพราะก่อนหน้านี้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมากว่ารัฐบาลเดิมทำผิดก็ควรจะออกกฏหมายให้ถูก สำหรับการทำงานของสภานิติบัญญัติ (สนช.) กรณีเรื่องหวยบนดินนั้น ตนคิดว่าสนช.เข้มแข็งดี ตั้งใจทำงานและฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ แต่บางครั้งประชาชนอาจมองว่าดุเดือดบ้างก็เป็นธรรมดา เพราะคนจำนวนมากมีความเห็นที่แตกต่างกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการทำงานของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่สามารถประเมินได้ แต่เอาใจช่วยรัฐบาลกับคมช.ตลอดเวลา แม้ว่าจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่เห็นดีเห็นงามกับการปฏิวัติก็ตาม เมื่อบ้านเมืองมาถึงจุดนี้ ก็ต้องการให้ทำงานได้สำเร็จจะได้ฝ่าฟันวิกฤตการของบ้านเมืองไปพร้อมๆกัน
“ที่พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคมช. ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่คงคงภายในประเทศ (ผอ.รมน.) ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน ผมก็เห็นใจท่านและเข้าใจว่าคนที่เคยอุทิศตัวเอง เสียสละชีวิต ปกป้องบ้านเมือง พอมารู้ว่าบ้านเมืองถูกกัดแทะจนเหลือแต่กระดูกก็ต้องสลดใจเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ เคยเรียกร้องให้ตรวจสอบการดำเนินการของฝ่ายการเมืองที่ไม่ถูกต้อง เมื่อวันนี้คมช.และรัฐบาลตั้งใจที่จะทำให้เกิดความถูกต้องก็ต้องเอาใจช่วย ซึ่งผมคิดว่าเราคนไทยมีข้อมูลพยานหลักฐานที่ไหน รู้เห็นอะไรก็ควรที่จะรวบรวมให้รัฐบาลและควรจะต่อต้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ร่วมมือทุกอย่างมาโดยตลอดอยากเห็นบ้านเมืองดี ดังนั้นหากขอมาเราก็ให้เท่าที่จะหาได้” นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คมช.ควรทำอะไรมากกว่าที่บอกว่าเห็นแล้วอยากจะร้องไห้หรือไม่ เลขาธิการพรรคประชิปัตย์ กล่าวว่า คงต้องให้เวลาเขาบ้าง บางทีเราก็เป็นวัยรุ่นใจร้อน อยากเห็นทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว เขาเพิ่งจะรับหน้าที่บริหารบ้านเมืองมา 2 เดือนกว่า เราก็คาดหวังให้เขาทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คนที่อยู่มานานก็มองเห็นว่ายังทำงานช้าอยู่ อย่างไรก็ตาม หวังว่ารัฐบาลและคมช.คงจะตระหนักดีว่า มีเวลาจำกัดในการฟื้นฟูสภาพการต่างๆในประเทศ ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ เพื่อตั้งตัวให้เดินหน้าไปในแนวทางประชาธิปไตยที่บริสุทธิ์และมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขได้ ทั้งนี้ดห็นว่าคมช. มีความคิดที่จะใช้อำนาจแบบประชาธิปไตย นุ่มนวลประณีประน้อมอยากให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม ดังนั้นอาจทำให้การทำงานล่าช้าบ้าง ประชาชนก็ต้องเข้าใจว่าเมื่อคมช.ยอมผ่อนผันให้ถึงขนาดนี้ เพื่อให้เกิดการประณีประน้อม สมานฉันท์ ดังนั้น ถ้าจะเอาความรวดเร็วไปพร้อมกัน คงจะไม่ทัน แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ข้อข้างของรัฐบาลที่จะมาทำให้ทุกอย่างล่าช้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากยกเลิกกฏอัยการศึก พรรคจะมีการเรียกประชุม และกิจกรรมทางการเมืองได้เมื่อไร นายสุเทพ กล่าวว่า ความจริงพวกตนก็อึดอัดนิดหน่อย เมื่อคมช.ยังไม่ได้อนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ เช่น อยากไปช่วยคนที่ประสบปัญหาอุทกภัย จะออกไปประชาสัมพันธ์ก็ไม่ได้จะกลายเป็นทำกิจกรรมไป ตอนนี้พรรคจึงต้องเปลี่ยนใหม่ว่า เราจะไปช่วยคนที่ถูกน้ำท่วมในนามมูลนิธิควง อภัยวงศ์ และมีหลายเรื่องที่เราอยากทำแต่ยังทำไม่ได้ เช่น กรณี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจะทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึงนายกฯ หรือประธานคมช. เพื่อขอให้ผ่อนผันอย่างใดอย่างหนึ่งให้กับพรรคการเมืองหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชิปัตย์ กล่าวว่า พรรคคงไม่ทำอย่างนั้นเพราะตั้งใจจะไม่ทำอะไรที่กดดัน หรือเพิ่มภาระให้กับคมช.และรัฐบาล ยกเว้นเรื่องที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นเมื่อทุกฝ่ายต้องเสียสละประชาธปัตย์ซึ่งเป็นพรรคการเมืองก็ต้องอดทนถึงไม่คล่องตัวก็ต้องทำเท่าที่ทำได้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงที่พรรคประชาธิปัตย์ จะขออนุญาตตุลาการรัฐธรรมนูญขอจัดทำหนังสือที่รวบรวมรายละเอียดกระบวนการไต่สวนคดียุบพรรค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชนว่า พรรคยังไม่ได้ขออนุญาต เพราะหลังจากที่ฟังศาล ได้อธิบายถึงขั้นตอนในการพิจารณาตนคิดว่าคงไม่สะดวกที่จะดำเนินการอย่างนั้น ต้องรอไปก่อนดูให้ การพิจารณาคดีดำเนินการไประยะหนึ่ง แต่ก็เห็นใจเพราะศาลคงอยากทำให้ทุกอย่างเป็นไปเรียบร้อย ซึ่งทุกฝ่ายก็เข้าใจและร่วมมือกันได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตรวจพยานหลักฐานของแต่ละฝ่าย ในวันที่ 4 ม.ค.นี้ คิดว่า พยานหลักฐานของพรรคประชาธิปัตย์นั้นพรรคไทยรักไทยจะรับได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้สู้กับพรรคไทยรักไทย คนที่กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ คือ อัยการสูงสุด แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะมาจากพรรคไทยรักไทยแล้วผ่านการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ชุดที่แล้วที่ผสมโรงกันกลั่นแกล้งพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น เมื่อมาถึงวันนี้ ที่สู้คดีกัน ก็คือระหว่างประชาธิปัตย์กับอัยการสูงสุด ไม่เกี่ยวกับพรรคไทยรักไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรอบเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์มีอุปสรรค ปัญหา หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีปัญหาในทางปฏิบัติ เพราะเราตั้งใจว่าจะดำเนินการตามกรอบกติกา และกรอบเวลา ตามที่ศาลกำหนดไว้ทุกอย่าง จะเห็นได้ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้ว่าคดี ไม่ได้เรียกร้องอะไรพิเศษ ไม่สร้างความยุ่งยากให้ศาลหรือสร้างปัญหาใดๆทั้งสิน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคได้หารือกันหรือยังว่าจะมอบหมายให้ใครทำหน้าที่แถลงเปิดคดีด้วยวาจาตามที่ศาลอนุญาต เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ศาลให้เปิดแถลงคดีได้ แต่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ไม่ใช่ด้วยวาจา ภาระในการเปิดและปิดคดี เป็นหน้าที่ของหัวหน้าคณะผู้ว่าคดี ส่วนจะมีการยื่นแถลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรในการไต่สวนครั้วแรกนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ว่าคดี
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรียืนยันกับอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทยว่าจะไม่กลับมาเล่นการเมืองเพราะที่ผ่านมาได้เห็นสัจจธรรมการเมืองและธาตุแท้ของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นธาตุแท้ของตัวเองหรือยัง เพราะถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณควรต้องทบทวนตัวเองและดูตัวเอง โดยหากพิจารณาตัวเองได้ด้วยความถ่องแท้ เห็นความเป็นจริง และมีสติ ก็จะรู้ว่าตัวเองควรต้องทำอะไร ทั้งนี้ไม่มีใครไปแนะนำสั่งสอนพ.ต.ท.ทักษิณได้ เพราะมีคนพยายามกันมามากแล้ว ทั้งผู้ใหญ่ผู้โตที่สำคัญทั้งหลายก็ทำไม่สำเร็จมาแล้ว
“ปัญหาก็คือว่าคุณทักษิณพูดอย่างไรก็แล้วแต่ ใครจะเชื่อคุณทักษิณได้ และประชาชนเขาจะเชื่อคุณทักษิณหรือไม่”เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองความเคลื่อนไหวของอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทยที่เดินทางไปประเทศจีนเพื่อพบพ.ต.ท.ทักษิณอย่างไร เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ควรทำ และต้องหยุดการเคลื่อนไหว แต่มีบางคนยังออกมาพูดจาท้าทายตอบโต้ ยั่วยุ ทำสารพัดเหมือนกับสมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณยังมีอำนาจอยู่ทุกอย่าง ซึ่งควรจะมีความสำนึกและขอให้ยุติการเคลื่อนไหวได้แล้ว เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบและเตรียมพร้อมที่จะนำไปสู่การก้าวเดินโฉมหน้าใหม่ เพื่อให้ประชาธิปไตยเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่าการดำเนินการกลับกลุ่มเคลื่อนไหว ถือว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)และรัฐบาลใจดีเกินไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าอย่างนั้น และประชาชนก็คิดแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นคมช.และรัฐบาลควรต้องเด็ดขาดและทำให้เห็นชัดเจนว่า เมื่อมีการกระทำการที่ไม่อยู่ในกรอบกฎเกณฑ์กติกาที่สมควรและส่งผลร้ายต่อประเทศ เช่นการเผาโรงเรียน การไปปลุกระดมให้เตรียมตัวมาชุมนุมกันจนวุ่นวาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เสียหาย เพราะเมื่อเกิดเหตุต่าง ๆ ขึ้นทำให้ประชาชนอดคิดไม่ได้ว่าเป็นการกระทำที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอำนาจเก่าที่เสียอำนาจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลและคมช.ควรจะรับมือการเคลื่อนไหวจะชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.นี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า คมช.ก็ต้องไปดูว่าเป็นใครกลุ่มไหน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ธ.ค. 2549--จบ--