คณะทำงานด้านสาธารณสุข ปชป.เห็นด้วยรัฐบาลรื้อโครงการ 30 บาท ชี้ต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน แนะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม โดยขยายสิทธิไปถึงครอบครัว วางระบบเบิกจ่ายไม่ให้ความเสี่ยงเกิดกับสถานพยาบาลเหมือนในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2549 น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ อดีตส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ คณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีมติให้ยกเลิกการเก็บเงิน 30 บาทในการรักษาทุกกรณีและเตรียมเสนอขออนุมัติงบประมาณอัตราเหมาจ่ายรายหัว 2,085 บาทสำหรับปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550ว่า อยากให้รัฐบาลและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้วยความรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่จะส่งผลผูกพันในวงกว้าง เพราะเรื่องหลักประกันสุขภาพถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของนโยบายของรัฐ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้แถลง ดังนั้นหากไม่มีความชัดเจนในส่วนนี้ก็อาจจะทำให้เกิดความสับสนมากยิ่งขึ้น
น.พ.บุรณรัชย์ กล่าวว่า รัฐบาลควรต้องแยกแยะระหว่างปัญหาจากการดำเนินนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคของรัฐบาลชุดที่แล้วออกจากหลักคิดในการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งนี้พรรคขอสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบ 30 บาทรักษาทุกโรคโดยเร่งด่วน และขอเสนอให้รัฐบาลพิจารณาถึงการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม โดยขยายสิทธิไปถึงครอบครัว ควรเพิ่มการลงทุนผลิตบุคลากรที่มีความผูกพันเชื่อมโยงกับท้องถิ่นและชุมชนมากกว่านี้ และควรที่จะวางระบบเบิกจ่ายไม่ให้ความเสี่ยงเกิดกับสถานพยาบาลเหมือนในปัจจุบัน เพื่อป้องกันภาวะโรงพยาบาลขาดทุนเฉียบพลัน โดยควรมีกลไกรับความเสี่ยงไว้ที่กองทุนมากกว่าสถานพยาบาล
“พรรคเห็นว่ารัฐบาลควรจะพิจารณาทบทวนแนวทางในวงกว้างอย่างเชื่อมโยงและคิดให้ครบ เพราะไม่สามารถคิดเฉพาะเรื่องเงินพอ หรือเงินไม่พอเท่านั้น แต่พรรคเห็นว่ารัฐบาลควรยึดหลักการสร้างความเป็นธรรมควบคู่ไปกับมาตรการการรักษาพยาบาล ดังนั้นรัฐบาลควรที่จะรีบพิจารณาถึงการระดมความคิดเห็นเพื่อสร้างกฎหมายแม่บทในเรื่องการจัดการระบบสุขภาพด้วย จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ก่อนที่จะมีการตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใด”น.พ.บุรณัชย์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ต.ค. 2549--จบ--
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2549 น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ อดีตส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ คณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีมติให้ยกเลิกการเก็บเงิน 30 บาทในการรักษาทุกกรณีและเตรียมเสนอขออนุมัติงบประมาณอัตราเหมาจ่ายรายหัว 2,085 บาทสำหรับปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550ว่า อยากให้รัฐบาลและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้วยความรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่จะส่งผลผูกพันในวงกว้าง เพราะเรื่องหลักประกันสุขภาพถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของนโยบายของรัฐ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้แถลง ดังนั้นหากไม่มีความชัดเจนในส่วนนี้ก็อาจจะทำให้เกิดความสับสนมากยิ่งขึ้น
น.พ.บุรณรัชย์ กล่าวว่า รัฐบาลควรต้องแยกแยะระหว่างปัญหาจากการดำเนินนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคของรัฐบาลชุดที่แล้วออกจากหลักคิดในการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งนี้พรรคขอสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบ 30 บาทรักษาทุกโรคโดยเร่งด่วน และขอเสนอให้รัฐบาลพิจารณาถึงการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม โดยขยายสิทธิไปถึงครอบครัว ควรเพิ่มการลงทุนผลิตบุคลากรที่มีความผูกพันเชื่อมโยงกับท้องถิ่นและชุมชนมากกว่านี้ และควรที่จะวางระบบเบิกจ่ายไม่ให้ความเสี่ยงเกิดกับสถานพยาบาลเหมือนในปัจจุบัน เพื่อป้องกันภาวะโรงพยาบาลขาดทุนเฉียบพลัน โดยควรมีกลไกรับความเสี่ยงไว้ที่กองทุนมากกว่าสถานพยาบาล
“พรรคเห็นว่ารัฐบาลควรจะพิจารณาทบทวนแนวทางในวงกว้างอย่างเชื่อมโยงและคิดให้ครบ เพราะไม่สามารถคิดเฉพาะเรื่องเงินพอ หรือเงินไม่พอเท่านั้น แต่พรรคเห็นว่ารัฐบาลควรยึดหลักการสร้างความเป็นธรรมควบคู่ไปกับมาตรการการรักษาพยาบาล ดังนั้นรัฐบาลควรที่จะรีบพิจารณาถึงการระดมความคิดเห็นเพื่อสร้างกฎหมายแม่บทในเรื่องการจัดการระบบสุขภาพด้วย จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ก่อนที่จะมีการตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใด”น.พ.บุรณัชย์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ต.ค. 2549--จบ--