“อลงกรณ์ พลบุตร” เข้ายื่นหนังสือ ป.ป.ช. สอบสวน “สมัคร-โภคิน” มั่นใจมีส่วนพัวพันทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิงกทม. ท้าหากบริสุทธิ์จริงควรนำหลักฐานมาแจง
วันนี้(25 เม.ย.49) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริต พรรคประชาธิปัตย์เดินทางเข้ายื่นหนังสือพร้อมเอกสารการสอบสวน จำนวน 2 แฟ้มถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผ่านนายยงยุทธ มะลิทอง ผอ.กองรับเรื่องร้องเรียน สำนักงาน ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม. และนายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย เนื่องจากมีเหตุควรเชื่อได้ว่าทั้ง 2 ได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยของ กทม.ในวงเงิน 6,687,489,000 บาท อันทำให้รัฐเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ทางคณะทำงานได้สรุปข้อพิรุธ 10 ประเด็น เพื่อให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ คือ 1.มีการเร่งรัดลงนามระหว่างนายสมัคร อดีตผู้ว่าฯ กทม.กับบริษัท สไตเออร์เดมเลอร์ พุด ในวันที่ 27 ส.ค.2547 ซึ่งเป็นวันปฏิบัติหน้าที่วันสุดท้ายของนายสมัคร ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่เพียง 2 วัน 2.สัญญาดังกล่าวไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักอัยการสูงสุดก่อนการลงนาม 3.การลงนามทำสัญญาซื้อขายขัดต่อประกาศกระทรวงพาณิชย์เรื่องแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการค้าต่างตอบแทน พ.ศ.2547 ที่กำหนดให้ต้องลงนามในสัญญาการค้าต่างตอบแทนก่อนการทำสัญญาซื้อขาย 4.รายการรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยที่จัดซื้อโดยวิธีพิเศษมีมูลค่าสูงเกินความเป็นจริง ทำให้รัฐเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท และสัญญาซื้อขายดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติตามมติ ครม. ที่ระบุให้วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ต้องซื้อของที่ผลิตเองได้ในประเทศไทยเท่านั้น ยกเว้นของที่ไม่สามารถผลิตได้ แต่การจัดซื้อครั้งนี้กลับนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า 5.มีพฤติกรรมหมกเม็ดล็อกสเปกโดยใช้รถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยส่งไปยังออสเตรียเพื่อส่งกลับมาให้กับ กทม.6.การล็อกราคาเกิดขึ้นสมัยนายโภคิน เป็น รมว.มหาดไทย 7.ไม่มีการทบทวนความเสียเปรียบของทางราชการแม้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบันจะทำหนังสือขอทบทวนไปยัง รมว.มหาดไทย ถึง 2 ครั้ง 8.การอ้างว่าเป็นการทำสัญญาระหว่างรัฐต่อรัฐ แต่บริษัท สไตเออร์ ถูกบริษัท เจเนอรัล ไดนามิก ของสหรัฐฯ เทกโอเวอร์ไปตั้งแต่ปี 2546 ส่อถึงเงื่อนงำซ่อนเร้นไม่โปร่งใส 9.การลงนามในข้อตกลงทำความเข้าใจระหว่างนายโภคิน กับทูตออสเตรีย ไม่มีในระบบกระทรวงการต่างประเทศของไทย และ 10.ไม่ปรากฏว่าทูตออสเตรียได้รับหนังสือมอบอำนาจจากรัฐบาลออสเตรีย
“เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง เป็นสิทธิของนายสมัครกับนายโภคิน ที่ต้องมาชี้แจง ป.ป.ช. ในการแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าว และจะแสดงสปิริตรับตำแหน่งประธานวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่เป็นสิทธิ์ของท่าน ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่จิตสำนึก ตำแหน่งดังกล่าวมีศักดิ์ศรี หากเป็นไปได้ควรที่จะเคลียร์ตนเองเสียก่อน เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยาก”รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 เม.ย. 2549--จบ--
วันนี้(25 เม.ย.49) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริต พรรคประชาธิปัตย์เดินทางเข้ายื่นหนังสือพร้อมเอกสารการสอบสวน จำนวน 2 แฟ้มถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผ่านนายยงยุทธ มะลิทอง ผอ.กองรับเรื่องร้องเรียน สำนักงาน ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม. และนายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย เนื่องจากมีเหตุควรเชื่อได้ว่าทั้ง 2 ได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยของ กทม.ในวงเงิน 6,687,489,000 บาท อันทำให้รัฐเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ทางคณะทำงานได้สรุปข้อพิรุธ 10 ประเด็น เพื่อให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ คือ 1.มีการเร่งรัดลงนามระหว่างนายสมัคร อดีตผู้ว่าฯ กทม.กับบริษัท สไตเออร์เดมเลอร์ พุด ในวันที่ 27 ส.ค.2547 ซึ่งเป็นวันปฏิบัติหน้าที่วันสุดท้ายของนายสมัคร ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่เพียง 2 วัน 2.สัญญาดังกล่าวไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักอัยการสูงสุดก่อนการลงนาม 3.การลงนามทำสัญญาซื้อขายขัดต่อประกาศกระทรวงพาณิชย์เรื่องแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการค้าต่างตอบแทน พ.ศ.2547 ที่กำหนดให้ต้องลงนามในสัญญาการค้าต่างตอบแทนก่อนการทำสัญญาซื้อขาย 4.รายการรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยที่จัดซื้อโดยวิธีพิเศษมีมูลค่าสูงเกินความเป็นจริง ทำให้รัฐเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท และสัญญาซื้อขายดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติตามมติ ครม. ที่ระบุให้วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ต้องซื้อของที่ผลิตเองได้ในประเทศไทยเท่านั้น ยกเว้นของที่ไม่สามารถผลิตได้ แต่การจัดซื้อครั้งนี้กลับนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า 5.มีพฤติกรรมหมกเม็ดล็อกสเปกโดยใช้รถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยส่งไปยังออสเตรียเพื่อส่งกลับมาให้กับ กทม.6.การล็อกราคาเกิดขึ้นสมัยนายโภคิน เป็น รมว.มหาดไทย 7.ไม่มีการทบทวนความเสียเปรียบของทางราชการแม้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบันจะทำหนังสือขอทบทวนไปยัง รมว.มหาดไทย ถึง 2 ครั้ง 8.การอ้างว่าเป็นการทำสัญญาระหว่างรัฐต่อรัฐ แต่บริษัท สไตเออร์ ถูกบริษัท เจเนอรัล ไดนามิก ของสหรัฐฯ เทกโอเวอร์ไปตั้งแต่ปี 2546 ส่อถึงเงื่อนงำซ่อนเร้นไม่โปร่งใส 9.การลงนามในข้อตกลงทำความเข้าใจระหว่างนายโภคิน กับทูตออสเตรีย ไม่มีในระบบกระทรวงการต่างประเทศของไทย และ 10.ไม่ปรากฏว่าทูตออสเตรียได้รับหนังสือมอบอำนาจจากรัฐบาลออสเตรีย
“เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง เป็นสิทธิของนายสมัครกับนายโภคิน ที่ต้องมาชี้แจง ป.ป.ช. ในการแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าว และจะแสดงสปิริตรับตำแหน่งประธานวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่เป็นสิทธิ์ของท่าน ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่จิตสำนึก ตำแหน่งดังกล่าวมีศักดิ์ศรี หากเป็นไปได้ควรที่จะเคลียร์ตนเองเสียก่อน เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยาก”รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 เม.ย. 2549--จบ--