ไทยและเวียดนามยังครองตลาดข้าวโลก

ฉบับที่ 42 / 2549 ไทยและเวียดนามยังครองตลาดข้าวโลก นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า ความร่วมมือค้าข้าวระหว่างไทยและเวียดนามในระยะนี้ดำเนินไปด้วยดีและมีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2549 ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสความร่วมมือค้าข้าวไทย — เวียดนาม ครั้งที่ 2 / 2549 ซึ่งในที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ข้าวของทั้งสองประเทศ โดยไทยได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกที่ 7.5 ล้านตัน สูงกว่าปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 2.7 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2549 ไทยส่งออกข้าวแล้วจำนวนทั้งสิ้น 1.79 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 22,643 ล้านบาท หรือ 569 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีราคาส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 317 เหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ปริมาณและราคาส่งออกยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง จึงคาดว่าจะทำให้การส่งออกเป็นไปตามเป้าหมาย สำหรับเวียดนามได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ 5 ล้านตัน ต่ำกว่าปริมาณการส่งออกปี 2548 ที่สามารถส่งออกได้สูงถึง 5.28 ล้านตัน สำหรับในช่วงไตรมาสแรกของปี 2549 เวียดนามส่งออกข้าวแล้วจำนวนทั้งสิ้น 1.1 ล้านตัน ทำให้ทั้งไทยและเวียดนามยังครองตลาดข้าวโลก โดยไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับหนึ่งและเวียดนามเป็นอันดับสอง สำหรับในส่วนของราคาข้าว ที่ประชุมเห็นว่าราคาข้าวเวียดนามยังต่ำกว่าราคาข้าวไทยเฉลี่ยประมาณตันละ 20 — 40 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัญหาคุณภาพข้าวและการขาดแคลนคลังสินค้าของเวียดนามทำให้ผู้ส่งออกต้องเร่งส่งออกจึงถูกกดราคาจากนายหน้าต่างชาติ ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงได้เห็นชอบร่วมกันที่จะผลักดันให้มีความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนโดยเวียดนามจะเชิญเอกชนไทยเดินทางไปศึกษาลู่ทางการร่วมลงทุนทำการค้าข้าวในเวียดนามเพื่อช่วยเหลือในเรื่องคลังสินค้าและการสร้างคุณภาพมาตรฐานข้าว ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวของทั้งสองประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือในเรื่องการบริหารจัดการส่งออกและการจัดทำแผนการตลาดร่วมกัน ซึ่งจะได้มีการหารือเพื่อขยายผลในการประชุมครั้งต่อไปที่ประเทศเวียดนามประมาณเดือนมิถุนายนศกนี้ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ณ วันที่ 12 เมษายน 2549 ไทยส่งออกข้าวแล้วจำนวนทั้งสิ้น 2.045 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 25,719 ล้านบาท หรือ 649 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับราคาส่งออกเฉลี่ยยังคงอยู่ที่ตันละ 317 เหรียญสหรัฐฯ ยังสูงกว่าราคาเฉลี่ยตันละ 304 เหรียญสหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปี 2548 ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นในระยะนี้ ซึ่งก็อาจจะส่งผลต่อการส่งออกบ้างแต่เป็นเพียงระยะสั้น เชื่อว่าในระยะยาวไทยจะสามารถส่งออกได้ตามปริมาณเป้าหมาย 7.5 ล้านตันในปี 2549 แน่นอน
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-