วันนี้(10 พ.ค.) นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะทำงานด้านกฎหมายของพรรค เดินทางไปยังศาลอาญา รัชดา ในเวลา 14.00 น. เพื่อยื่นฟ้องเพิ่มเติมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งทั้ง 47 คน และเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีการจัดการเลือกตั้งโดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม นับตั้งแต่การประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งทำให้พรรคไทยรักไทยได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น เพราะมีเวลาเตรียมตัวเพียงแค่ 31 วัน และกรณีการจัดคูหาเลือกตั้งที่ทำให้การลงคะแนนเสียงไม่เป็นไปในทางลับ ซึ่งคำฟ้องนี้ถือว่าเป็นการฟ้องที่สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งส่งผลให้มีการเพิกถอนการเลือกตั้งที่ผ่านมา
ส่วนความคืบหน้าในการไต่สวนคดีดังกล่าวนั้น มีกำหนดที่จะนัดไต่สวนในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ โดยโทษทางอาญาคือการจำคุก 1 - 10 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท
นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้ยื่นคำร้องฟ้องคดีอาญากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และเลขาธิการสำนักงานกรรมการการเลือกตั้ง เพิ่มเติม2 ข้อหา คือร่วมกันทำให้การเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.ไม่สุจริต เที่ยงธรรม การกำหนดวันเลือกตั้งส่งผลให้พรรคไทยรักไทยได้เปรียบผู้สมัครพรรคการเมืองอื่น และการจัดคูหาให้ผู้ไปให้สิทธิลงคะแนนโดยหันหลังออกด้านนอกทำให้การลงคะแนนไม่ป็นความลับตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
นายถาวรกล่าวว่าการฟ้องเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแต่คำวินิจฉัยดังกล่าวส่งผลเฉพาะเป็นการเพิกถอนการเลือกตั้งวันที่2และสั่งให้เลือกตั้งใหม่ แต่การฟ้องของตนเป็นการฟ้องให้กกต.และพวกได้รับโทษทางอาญา โดยจะมีโทษจำคุก1-10 ปี ปรับตั้งแต่2 หมื่น-2แสนบาท ซึ่งจะแยกส่วนแยกศาลกัน
ต่อข้อถามที่ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนญจะมีน้ำหนักต่อการพิจารณาของศาลอาญาในการเอาผิดกับกกต.ได้หรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า ในหลักกฎหมายคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะผูกพันกับทุกองค์กรอยู่แล้ว ดังนั้นตนคิดว่าเมื่อข้อเท็จจริงปรากฎชัดในเรื่องเดียวกันแล้วก็น่าจะส่งผลให้ศาลยุติธรรมใช้เป็นแนวทางในการพิพากษาได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 พ.ค. 2549--จบ--
ส่วนความคืบหน้าในการไต่สวนคดีดังกล่าวนั้น มีกำหนดที่จะนัดไต่สวนในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ โดยโทษทางอาญาคือการจำคุก 1 - 10 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท
นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้ยื่นคำร้องฟ้องคดีอาญากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และเลขาธิการสำนักงานกรรมการการเลือกตั้ง เพิ่มเติม2 ข้อหา คือร่วมกันทำให้การเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.ไม่สุจริต เที่ยงธรรม การกำหนดวันเลือกตั้งส่งผลให้พรรคไทยรักไทยได้เปรียบผู้สมัครพรรคการเมืองอื่น และการจัดคูหาให้ผู้ไปให้สิทธิลงคะแนนโดยหันหลังออกด้านนอกทำให้การลงคะแนนไม่ป็นความลับตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
นายถาวรกล่าวว่าการฟ้องเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแต่คำวินิจฉัยดังกล่าวส่งผลเฉพาะเป็นการเพิกถอนการเลือกตั้งวันที่2และสั่งให้เลือกตั้งใหม่ แต่การฟ้องของตนเป็นการฟ้องให้กกต.และพวกได้รับโทษทางอาญา โดยจะมีโทษจำคุก1-10 ปี ปรับตั้งแต่2 หมื่น-2แสนบาท ซึ่งจะแยกส่วนแยกศาลกัน
ต่อข้อถามที่ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนญจะมีน้ำหนักต่อการพิจารณาของศาลอาญาในการเอาผิดกับกกต.ได้หรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า ในหลักกฎหมายคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะผูกพันกับทุกองค์กรอยู่แล้ว ดังนั้นตนคิดว่าเมื่อข้อเท็จจริงปรากฎชัดในเรื่องเดียวกันแล้วก็น่าจะส่งผลให้ศาลยุติธรรมใช้เป็นแนวทางในการพิพากษาได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 พ.ค. 2549--จบ--