นักธุรกิจยันพื้นฐานเศรษฐกิจแกร่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 6, 2006 11:24 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร อุปนายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ได้ให้ความเห็นว่าแม้จะผ่านเหตุการณ์ชุนนุมเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ไปแล้ว แต่นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ก็ยังมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมืองเพราะเป็นปัจจัยที่กดดันการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แต่ก็เชื่อว่าหากไม่มีการชุมนุมครั้งใหญ่อีกบรรยากาศของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์น่าจะปรับตัวดีขึ้น หากสถานการณ์การเมืองถึงขั้นรุนแรงและมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก็เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาและเกิดขึ้นได้กับทุกประเทศประกอบกับพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยยังแข็งแกร่ง
ด้านนายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒธุรกิจ บล.นครหลวงไทย จำกัด ยอมรับว่านักลงทุนให้ความสำคัญกับสถานการณ์การเมืองและติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากจะมีการชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2549 ประกอบกับความเคลื่อนไหวภายในพรรคไทยรักไทยมีกระแสที่รุนแรงเกิดขึ้นหลังจากที่มีการลาออกของ 2 รัฐมนตรี ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐจะมั่นคงเหมือนก่อนหน้านี้หรือไม่ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นักลงทุนวิตกต่อสถานการณ์การเมืองอย่างชัดเจนเพราะที่ผ่านมาคะแนนเสียงของรัฐมีมากจนควบคุมเสียงโหวตในสภาได้ ซึ่งหากกลุ่มต่างๆ ภายในพรรคไทยรักไทยมีการเคลื่อนไหวมากกว่านี้อาจจะกระทบต่อเสถียรภาพในรัฐบาลได้
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เห็นว่าจากสถานการณ์การชุมนุมครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากการส่งออก การผลิต การท่องเที่ยว และการค้าในประเทศยังดำเนินต่อไปได้ตามปกติแต่โครงการในระยะยาวอาจได้รับผลกระทบบ้างโดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์เพราะนักลงทุนต่างประเทศจะต้องตั้งคำถามและวิเคราะห์เกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาลว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างหลังจากมีการลาออกของ 2 รัฐมนตรี
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะต้องรีบดำเนินการให้การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งการแก้ปัญหาในขณะนี้อยู่ที่นายกรัฐมนตรีเพราะนโยบายการบริหารประเทศในทุกด้านยังคงดำเนินต่อไปและนายกรัฐมนตรีจะต้องตอบคำถามประชาชนที่ยังสงสัยให้ได้
ประเด็นวิเคราะห์
สถานการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2549 ที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากนักและหากไม่มีการชุนนุมเกิดขึ้นอีกจะทำให้บรรยากาศของการลงทุนปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่นักลงทุนจะติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิดเนื่องจากได้มีการลาออกของ 2 รัฐมนตรี ซึ่งอาจจะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลอย่างไรบ้าง
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ