วันนี้(18 กรกฎาคม 2549) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเกียรติ สิทธิอมร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวความคืบหน้าในกรณีการทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX 9000 หลังจากที่ได้แย้มไอ้โม่งรับเงินสินบนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ามีการพูดถึงผู้รับเงินซึ่งไม่ได้เอ่ยนามแต่มีการพูดถึงผู้พิพากษาอาวุโส ตนจึงได้รับการติดต่อจากนายกสมาคมผู้พิพากษาอาวุโส ซึ่งท่านแสดงความเป็นห่วง ดังนั้นจึงขอชี้แจงว่า การระบุว่ามีบุคคลได้รับเงินไม่จำเป็นว่า บุคคลคนนั้นจะต้องมีความผิดเกี่ยวข้องในส่วนดังกล่าว แต่เป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องมีการตรวจสอบ หากบุคคลนั้นเป็นผู้รับเงินมีการขายทรัพย์สินอย่างถูกต้องขายในราคาที่ถูกต้องและไม่มีการส่งผ่านเงินที่ได้รับมาจากผู้อื่นผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนั้นก็ย่อมไม่ผิด
“เมื่อวานก็มีหลายท่านได้ให้โอกาสสัมภาษณ์ในเรื่องนี้ คิดว่าจำเป็นต้องชี้แจงและตั้งข้อสังเกตในเรื่องที่ได้แถลงข่าวไปแล้ว ขอเริ่มที่คุณวรพจน์ ยศทัศน์ (เสี่ยเช) มีการพูดถึงเงินที่มีการชำระออกไปไม่เกี่ยวพันกับเครื่องตรวจระเบิดเป็นคำพูดที่ปรากฎในสื่อต่างๆ อันนี้ก็มันจะไม่เกี่ยวได้ยังไง ก็เงินก้อนที่รับมาเป็นเงินส่วนหนึ่งของ 643 ล้านบาทที่รับมาหมดก่อนที่จะบอกว่าไม่เกี่ยวก็ต้องบอกว่าที่มาของเงินมันมาจากไหนในการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษเขาพูดชัดเจนว่า เส้นทางเงินของ 643 ล้านบาทมันไปที่ไหนบ้าง เพราะฉะนั้นเป็นเงินที่ชำระมาสำหรับโครงการแน่นอนแต่จะปฏิเสธอย่างนี้ไม่ได้ต้องก็มีการยืนยันที่มาที่ไปแน่นอนของเงิน” นายเกียรติ กล่าว
จากการที่ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ (อธิบดีกรม DSI) ออกมาแสดงความเห็นนั้น นายเกียรติ ตั้งข้อสังเกตว่า โครงการนี้จัดซื้อโดยบริษัท แพทริออท โดย ITO ถูกยกเลิกโดยคำสั่งศาลยุติธรรมของสหรัฐแล้วเหตุใดเงินจำนวน 643 ล้านบาทนั้น ไม่มีการส่งคืน แต่กลับมีการนำเงินไปใช้ส่วนตัว โดยอ้างว่านำไปใช้เปิดแอลซีเปิดหนังสือค้ำประกันในราคานั้น ดังนั้นการที่ พล.ต.อ.สมบัติ ตอบว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ ตนคิดว่าอาจจะต้องกลับไปทบทวนว่า เรื่องนี้คำสั่งของศาลยุติธรรมสหรัฐยังเป็นเงื่อนไขอยู่เพราะฉะนั้นสัญญาระหว่างแพทริออท กับ ITO จะต้องถูกยกเลิก และเงินก้อนนี้ต้องมีการชำระคืน เอาไปใช้ไม่ได้ โดยเอกสารธนาคารทั้งหมดต้องถือว่าเป็นโมฆะเพราะว่ามีการเซ็นสัญญาใหม่แล้วเป็นสัญญาต่อระหว่าง กทม.กับทางบริษัทอินวิชั่น
“ท่านตรวจสอบแค่ครั้งเดียว พูดง่ายๆ ว่าเงินจากเสี่ยเช ออกไปถึงมือใคร เขาบันทึกว่าคนนั้นได้รับกลับไม่มีการตรวจสอบไม่ได้มีการเรียกคนเหล่านั้นซึ่งเป็นผู้รับโดยตรงจากเสี่ยเช หรือ บริษัท แพทริออต มาสอบข้อเท็จจริงว่าเงินที่เขาได้รับไปมันมีการผ่องถ่ายไปที่อื่นหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะรู้ชัดเจนถึงยืนยันได้อย่างไรว่าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ปกติเวลาสอบเส้นทางเงินมันต้องสอบให้ถึงจุดสุดท้าย ไม่ใช่กรอกแค่ชั้นเดียว เท่าที่ตนทราบท่านเพิ่งสอบแค่ชั้นเดียวและท่านก็ยังไม่มีการเจ้าหน้าที่ที่สอบ ไม่เคยมีการเรียกบุคคลที่ระบุชื่อบุคคลที่ได้รับเงินส่วนต่างๆ มาสอบข้อเท็จจริง”
จากการที่มีอัยการท่านหนึ่งแถลงข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าหลังจากที่ได้รับเอกสารจากสหรัฐฯ แล้วได้ส่งประเด็นเพิ่มให้ทางดีเอสไอสอบต่อนั้นในขั้นนี้นายเกียรติ เห็นเหมือนกันว่า การสอบเรื่องนื้ต้องทำอย่างละเอียดถี่ถ้วนเป็นขั้นเป็นตอนแล้วหากยังไม่ถึงที่สุด ก็ไม่ควรออกมาให้ท่าทีหรือปกป้องบุคคลใด การที่เอาเงินที่มาจากการค้าขายไปใช้นั้นไม่ผิดปกติ แต่กรณีนี้มันหลายร้อยล้านมาก หากเอาไปใช้ไม่กี่บาท ตนคงไม่ว่าอะไรไม่ติดใจอะไรได้มา 600 กว่าล้าน เอาไป 300 กว่าล้านเพื่อใช้ส่วนตัว หากท่านยังบอกว่าไม่ผิดปกติตนก็ไม่เข้าใจ
“อีกท่านหนึ่งที่ออกมาก็คือ ทางอัยการสูงสุด (คุณถวิล พึ่งมา) ผมดูในข่าวที่ปรากฎในกรุงเทพธุรกิจ ก็ดีใจที่ท่านยืนยันว่าภาคผนวกปีได้รับแล้วเพราะฉะนั้นยืนยันว่าข้อมูลที่ผมให้ในวันอาทิตย์นั้นเป็นจริงทุกประการแล้วท่านก็บอกว่ามีการสรุปประเด็นเสนอรัฐบาลแล้วเรื่องอยู่ในกระบวนการของดีเอสไอตรงนี้ แต่ทางดีเอสไอกลับบอกว่ายังไม่ได้รับเรื่องก็ในเมื่อเรื่องนี้หน่วยงานของรัฐทำเสนอรัฐบาลแล้วการที่บอกว่าฝ่ายการเมืองไม่ทราบเรื่องนี้มันไม่น่าจะถูกต้องแถมยังมีพูดต่อไปด้วยว่า ทางสหรัฐฯ ตอบชัดเจนว่าไม่มีสินบนตรงนี้ ผมติดใจมากนะแล้วก็ไม่เชื่อว่าสหรัฐฯ พูดอย่างนั้น” นายเกียรติกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 ก.ค. 2549--จบ--
“เมื่อวานก็มีหลายท่านได้ให้โอกาสสัมภาษณ์ในเรื่องนี้ คิดว่าจำเป็นต้องชี้แจงและตั้งข้อสังเกตในเรื่องที่ได้แถลงข่าวไปแล้ว ขอเริ่มที่คุณวรพจน์ ยศทัศน์ (เสี่ยเช) มีการพูดถึงเงินที่มีการชำระออกไปไม่เกี่ยวพันกับเครื่องตรวจระเบิดเป็นคำพูดที่ปรากฎในสื่อต่างๆ อันนี้ก็มันจะไม่เกี่ยวได้ยังไง ก็เงินก้อนที่รับมาเป็นเงินส่วนหนึ่งของ 643 ล้านบาทที่รับมาหมดก่อนที่จะบอกว่าไม่เกี่ยวก็ต้องบอกว่าที่มาของเงินมันมาจากไหนในการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษเขาพูดชัดเจนว่า เส้นทางเงินของ 643 ล้านบาทมันไปที่ไหนบ้าง เพราะฉะนั้นเป็นเงินที่ชำระมาสำหรับโครงการแน่นอนแต่จะปฏิเสธอย่างนี้ไม่ได้ต้องก็มีการยืนยันที่มาที่ไปแน่นอนของเงิน” นายเกียรติ กล่าว
จากการที่ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ (อธิบดีกรม DSI) ออกมาแสดงความเห็นนั้น นายเกียรติ ตั้งข้อสังเกตว่า โครงการนี้จัดซื้อโดยบริษัท แพทริออท โดย ITO ถูกยกเลิกโดยคำสั่งศาลยุติธรรมของสหรัฐแล้วเหตุใดเงินจำนวน 643 ล้านบาทนั้น ไม่มีการส่งคืน แต่กลับมีการนำเงินไปใช้ส่วนตัว โดยอ้างว่านำไปใช้เปิดแอลซีเปิดหนังสือค้ำประกันในราคานั้น ดังนั้นการที่ พล.ต.อ.สมบัติ ตอบว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ ตนคิดว่าอาจจะต้องกลับไปทบทวนว่า เรื่องนี้คำสั่งของศาลยุติธรรมสหรัฐยังเป็นเงื่อนไขอยู่เพราะฉะนั้นสัญญาระหว่างแพทริออท กับ ITO จะต้องถูกยกเลิก และเงินก้อนนี้ต้องมีการชำระคืน เอาไปใช้ไม่ได้ โดยเอกสารธนาคารทั้งหมดต้องถือว่าเป็นโมฆะเพราะว่ามีการเซ็นสัญญาใหม่แล้วเป็นสัญญาต่อระหว่าง กทม.กับทางบริษัทอินวิชั่น
“ท่านตรวจสอบแค่ครั้งเดียว พูดง่ายๆ ว่าเงินจากเสี่ยเช ออกไปถึงมือใคร เขาบันทึกว่าคนนั้นได้รับกลับไม่มีการตรวจสอบไม่ได้มีการเรียกคนเหล่านั้นซึ่งเป็นผู้รับโดยตรงจากเสี่ยเช หรือ บริษัท แพทริออต มาสอบข้อเท็จจริงว่าเงินที่เขาได้รับไปมันมีการผ่องถ่ายไปที่อื่นหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะรู้ชัดเจนถึงยืนยันได้อย่างไรว่าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ปกติเวลาสอบเส้นทางเงินมันต้องสอบให้ถึงจุดสุดท้าย ไม่ใช่กรอกแค่ชั้นเดียว เท่าที่ตนทราบท่านเพิ่งสอบแค่ชั้นเดียวและท่านก็ยังไม่มีการเจ้าหน้าที่ที่สอบ ไม่เคยมีการเรียกบุคคลที่ระบุชื่อบุคคลที่ได้รับเงินส่วนต่างๆ มาสอบข้อเท็จจริง”
จากการที่มีอัยการท่านหนึ่งแถลงข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าหลังจากที่ได้รับเอกสารจากสหรัฐฯ แล้วได้ส่งประเด็นเพิ่มให้ทางดีเอสไอสอบต่อนั้นในขั้นนี้นายเกียรติ เห็นเหมือนกันว่า การสอบเรื่องนื้ต้องทำอย่างละเอียดถี่ถ้วนเป็นขั้นเป็นตอนแล้วหากยังไม่ถึงที่สุด ก็ไม่ควรออกมาให้ท่าทีหรือปกป้องบุคคลใด การที่เอาเงินที่มาจากการค้าขายไปใช้นั้นไม่ผิดปกติ แต่กรณีนี้มันหลายร้อยล้านมาก หากเอาไปใช้ไม่กี่บาท ตนคงไม่ว่าอะไรไม่ติดใจอะไรได้มา 600 กว่าล้าน เอาไป 300 กว่าล้านเพื่อใช้ส่วนตัว หากท่านยังบอกว่าไม่ผิดปกติตนก็ไม่เข้าใจ
“อีกท่านหนึ่งที่ออกมาก็คือ ทางอัยการสูงสุด (คุณถวิล พึ่งมา) ผมดูในข่าวที่ปรากฎในกรุงเทพธุรกิจ ก็ดีใจที่ท่านยืนยันว่าภาคผนวกปีได้รับแล้วเพราะฉะนั้นยืนยันว่าข้อมูลที่ผมให้ในวันอาทิตย์นั้นเป็นจริงทุกประการแล้วท่านก็บอกว่ามีการสรุปประเด็นเสนอรัฐบาลแล้วเรื่องอยู่ในกระบวนการของดีเอสไอตรงนี้ แต่ทางดีเอสไอกลับบอกว่ายังไม่ได้รับเรื่องก็ในเมื่อเรื่องนี้หน่วยงานของรัฐทำเสนอรัฐบาลแล้วการที่บอกว่าฝ่ายการเมืองไม่ทราบเรื่องนี้มันไม่น่าจะถูกต้องแถมยังมีพูดต่อไปด้วยว่า ทางสหรัฐฯ ตอบชัดเจนว่าไม่มีสินบนตรงนี้ ผมติดใจมากนะแล้วก็ไม่เชื่อว่าสหรัฐฯ พูดอย่างนั้น” นายเกียรติกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 ก.ค. 2549--จบ--