โครงการขนาดใหญ่ในดูไบและอาบูดาบี (มูลค่าเกิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ)
1. ธุรกิจการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือ ยูเออี อาทิ Palm Project, Waterfront, Downtown Dubai เป็นต้น นั้น ส่วนใหญ่เป็นโครงการภายใต้นโยบายการพัฒนาประเทศของเจ้าผู้ปกครองนคร หรือ เชก (Sheikh) ซึ่ง เชก จะแต่งตั้งบริษัทขึ้นมาเป็นทั้งผู้ให้คำปรึกษา ออกแบบ ควบคุม อาทิ Nakheel, EMMAR เป็นต้น ก่อนเสนอโครงการให้บริษัทต่างๆ ทั้งในและจากต่างประเทศที่มาตั้งบริษัทในยูเออี เข้ามาเสนอราคาในการก่อสร้าง/ดำเนินการ ต่อไป
2. หากไทยต้องการเข้ามาเสนองานด้านการออกแบบ หรือ การก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้โครงการขนาดใหญ่ในดูไบ ได้กำหนดผู้ดำเนินการไว้เกือบหมดทุกโครงการแล้ว ในขณะที่โครงการในกรุงอาบูดาบี ยังเปิดกว้างอีกเป็นจำนวนมาก
3. ดังนั้นการเจาะตลาดในโครงการขนาดใหญ่ควรดำเนินการดังนี้
- กรุงอาบูดาบี จัดคณะผู้แทนการค้าระดับสูงเพื่อเข้าคารวะ เชก และขอเสนอตัวในการดำเนินโครงการต่างๆ โดยนำคณะสถาปนิกและบริษัทก่อสร้างร่วมคณะด้วย
- เมืองดูไบ จัดคณะเข้าพบบริษัทที่ปรึกษา โดยเน้นเสนอผลงานจากสถาปนิกด้านการออกแบบตกแต่งภายใน การบริหารโครงการที่เริ่มเสร็จสมบูรณ์ ทั้งด้านการขาย/เช่าโครงการ การเสนอระบบรักษาความปลอดภัย การบริหารด้านความสะอาด เป็นต้น
โครงการขนาดกลาง (หมู่บ้านจัดสรร โรงแรม รีสอตท์ อาคารพาณิชย์)
4. โครงการขนาดกลางส่วนใหญ่เป็นของเศรษฐีและบรรดาญาติของเชก ซึ่งส่วนใหญ่มีเงินทุนแต่ขาดความรู้ด้านการก่อสร้าง (ยกเว้นบริษัทที่เป็น developer เองอย่าง DAMAC) ปัจจุบันทางยูเออีมีความต้องการผู้เข้ามาดำเนินการและเสนอผลงานด้านการออกแบบและก่อสร้างโรงแรมเป็นจำนวนมาก (ขณะนี้โรงแรมในยูเออีมีจำนวนห้องพักทั้งสิ้นประมาณ 75,000 ห้อง ภายในปี 2007 จะมีทั้งสิ้น 90,000 ห้อง และมีแผนจะขยายเป็น 150,000 ห้องในปี 2010) ตลอดจนความต้องการของหมู่บ้านจัดสรรราคาปานกลางและอาคารพาณิชย์ เพื่อรองรับการขยายตัวของประชากรจาก 4.8 ล้านคนในปี 2006 เป็น 10 ล้านคนในปี 2010 (ข้อมูลจากเทศบาลเมืองดูไบ)
5. การเจาะตลาดสำหรับกลุ่มนี้ ควรเข้าพบบริษัทที่ปรึกษาด้านการก่อสร้างโดยตรง อาทิ บริษัท ASTECO, DEPPA, DOW เป็นต้น เพื่อหาแนวทางร่วมมือในการเสนอแบบโครงการที่จะเกิดขึ้น
6. การเข้าไปรับงานในยูเออีที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ การเข้าไปตั้งบริษัทเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทที่ปรึกษาหรือบริษัทออกแบบก่อสร้างในยูเออี เนื่องจากจะสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของตลาด ตลอดจนลักษณะนิสัยการทำธุรกิจของชาวยูเออีนิยมที่จะพบปะกันบ่อยครั้ง
7. แนวทางการเจาะตลาดสำหรับโครงการขนาดกลาง ดังนี้
- จัดคณะผู้แทนการค้าด้านการออกแบบ โดยเลือกบริษัทที่มีความพร้อมและชำนาญในด้านต่างๆอย่างละ 1 บริษัท อาทิ ด้านการออกแบบโรงแรมและรีสอตท์ ออกแบบอาคารพาณิชย์(ไม่เกิน 50 ชั้น) และเกิน 50 ชั้น ออกแบบหมู่บ้านจัดสรร นักธุรกิจด้านการบริหารโครงการหลังเสร็จสมบูรณ์ ผู้บริหารอาคาร เป็นต้น
- ผู้แทนของคณะฯ จะต้องส่ง Company profile และผลงานที่เคยดำเนินการมาในอดีต ไปยัง สคต. ดูไบเพื่อจัดทำนัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนเดินทาง
8. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดคณะเดินทางมาเยือนได้แก่ช่วงเดือนมี.ค. — พ.ค. 2007 หรือช่วงก่อนงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวกับโรงแรม การออกแบบ การก่อสร้าง ได้แก่ งาน Hotel Supplies (3-5 มิ.ย. 2007) งาน BIG5 (25-29 พ.ย. 2007) งาน INDEX 2007 (พ.ย. 2007) งาน City Scrape (ธ.ค. 2007)
9. นอกจากนี้การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าข้างต้นเพื่อเปิดตัวและแสดงผลงานของนักออกแบบไทยก็เป็นสิ่งจำเป็นในการเจาะตลาดด้วยเช่นกัน
ที่มา: http://www.depthai.go.th