วันนี้(23 มี.ค.)นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคร้องเรียนว่าผู้บริหารระดับสูงของพรรคไทยรักไทยจ้างผู้สมัครพรรคเล็กลงรับสมัครเลือกตั้ง ว่า ขอตั้งสังเกตว่าเป็นการตั้งคนของตนเองสอบคนกันเอง เช่น กรรมการลำดับที่ 3-5 คือพล.ต.ต.อดิศร จินตนพัฒน์ พ.ต.อ.ติณภัทร ภุมรินทร์ และนางพรรณศิวา บูรณสถิตย์พร เป็นคนของประธานกกต. กรรมการลำดับที่ 6 พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ วงศ์ไพบูลย์ เป็นหน้าห้องนายวีระชัย แนวบุญเนียร กรรมการกกต. และกรรมการลำดับที่ 7-12 เป็นคนของประธานกกต. โดยมีคนนอกเพียงคนเดียว คือ นายอภิชาติ ศรวิชัย นอกนั้นเป็นคนที่สามารถสั่งการให้ทำการสืบสวนสอบสวนอย่างหนึ่งอย่างใดได้
“ผมขอทำนายว่า คณะอนุกรรมการชุดนี้คงจัดการได้แค่ปลาซิวปลาสร้อย หลังจากนั้นก็ตัดตอนบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองซึ่งสั่งการให้กระทำความผิด หรือผู้ใหญ่ในคณะกรรมการการเลือกตั้งให้พ้นผิดแน่นอน เชื่อว่าคงมีผู้รับสารภาพสัก 1 คนแล้วก็ตัดตอนว่าไม่มีบุคคลอื่นใดเกี่ยวข้อง ผมจึงขอฝากไปยังกกต.ด้วยว่าการเล่นละครเพื่อสร้างความชอบธรรมให้เกิดขึ้นกับองค์กรของท่านนั้นคงเล่นได้ไม่นาน ดังนั้นขอเรียกร้องให้เปลี่ยนกรรมการชุดนี้ และตั้งคนภายนอกมาทำหน้าที่สอบสวนสืบสวนแทน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดของพรรคก็มีโทษถึงขั้นยุบพรรค และถ้ามีการกระทำความผิดของบุคคลก็มีโทษจำคุก 10 ปี” นายถาวร กล่าว
ส่วนกรณีที่พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หรือเสธ.ไอซ์ออกมาระบุว่านายสุเทพดำเนินการเรื่องนี้แบบมีสคริป์เป็นละครมินิซีรี่ย์นั้น นายถาวร กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา เพราะการใส่ร้ายที่ผิดกฎหมายเลือกตั้งมีตัวอย่างกรณีภรรยาของรัฐมนตรีคนหนึ่งให้เห็นอยู่แล้ว นอกจากนี้ที่พล.อ.ไตรรงค์บอกว่าตัวเองมีศักดิ์ศรีอย่ามาเล่นการเมืองข้างถนนนั้น ก็ขอฝากไปยังผู้แต่งเครื่องแบบทั้งหลาย ทั้งทหาร ตำรวจและพลเรือนว่า ไม่ว่าอาชีพใด หรือเป็นกรรมกรชาวไร่ชาวนาพ่อค้าเป็นบุคคลที่มีศักดิ์ศรีมีเกียรติทั้งสิ้น พรรคให้เกียรติกับทุกอาชีพและทหาร แต่หากบุคคลผู้นั้นแม้เป็นจอมพลถ้าไม่มีวินัยทำผิดกฎหมายก็ไม่มีศักดิ์ศรี แต่ที่สำคัญที่สุดแม้พรรคประชาธิปัตย์จะเล่นการเมืองข้างถนนก็เล่นการเมืองข้างประชาชน และไม่เคยเรียกค่าคุ้มครองข้างถนนแน่นอน
รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่กกต.เปิดรับสมัครเลือกตั้งจ.สมุทรสาครอีกครั้งว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 ระบุไว้ว่าพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งระบบเขตจะส่งผู้สมัครได้เพียงคนเดียวในเขตเลือกตั้งนั้น จึงขอตั้งข้อสังเกตว่ากกต.จะรับสมัครผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยอีกหรือไม่ เพราะหากพรรคไทยรักไทยสามารถส่งผู้สมัครได้อีกเท่ากับได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น โดยสามารถส่งผู้สมัครได้ 2 คนในห้วงเวลาที่มีพระราชกฎษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งหากกกต.อ้างว่าตีกฎหมายไม่ออกตีกฎหมายไม่เป็นก็เข้าข่ายปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ดังนั้นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขต 3 สมุทรสาครมีสิทธิ์ที่จะร้องต่อกกต.และสามารถฟ้องศาลได้ว่า กกต.น่าจะช่วยเหลือเพื่อให้การเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.มีส.ส.ครบ 500 คนเพื่อให้พรรคใหญ่เลือกนายกฯได้ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเคยมีตัวอย่างเกิดขึ้นมาแล้ว ในการเลือกตั้งปี2544 โดยหัวหน้าพรรคชาติไทยส่งรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง 2 คน ซึ่งกกต.วินิจฉัยให้ส่งได้เพียงคนเดียว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23 มี.ค. 2549--จบ--
“ผมขอทำนายว่า คณะอนุกรรมการชุดนี้คงจัดการได้แค่ปลาซิวปลาสร้อย หลังจากนั้นก็ตัดตอนบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองซึ่งสั่งการให้กระทำความผิด หรือผู้ใหญ่ในคณะกรรมการการเลือกตั้งให้พ้นผิดแน่นอน เชื่อว่าคงมีผู้รับสารภาพสัก 1 คนแล้วก็ตัดตอนว่าไม่มีบุคคลอื่นใดเกี่ยวข้อง ผมจึงขอฝากไปยังกกต.ด้วยว่าการเล่นละครเพื่อสร้างความชอบธรรมให้เกิดขึ้นกับองค์กรของท่านนั้นคงเล่นได้ไม่นาน ดังนั้นขอเรียกร้องให้เปลี่ยนกรรมการชุดนี้ และตั้งคนภายนอกมาทำหน้าที่สอบสวนสืบสวนแทน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดของพรรคก็มีโทษถึงขั้นยุบพรรค และถ้ามีการกระทำความผิดของบุคคลก็มีโทษจำคุก 10 ปี” นายถาวร กล่าว
ส่วนกรณีที่พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หรือเสธ.ไอซ์ออกมาระบุว่านายสุเทพดำเนินการเรื่องนี้แบบมีสคริป์เป็นละครมินิซีรี่ย์นั้น นายถาวร กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา เพราะการใส่ร้ายที่ผิดกฎหมายเลือกตั้งมีตัวอย่างกรณีภรรยาของรัฐมนตรีคนหนึ่งให้เห็นอยู่แล้ว นอกจากนี้ที่พล.อ.ไตรรงค์บอกว่าตัวเองมีศักดิ์ศรีอย่ามาเล่นการเมืองข้างถนนนั้น ก็ขอฝากไปยังผู้แต่งเครื่องแบบทั้งหลาย ทั้งทหาร ตำรวจและพลเรือนว่า ไม่ว่าอาชีพใด หรือเป็นกรรมกรชาวไร่ชาวนาพ่อค้าเป็นบุคคลที่มีศักดิ์ศรีมีเกียรติทั้งสิ้น พรรคให้เกียรติกับทุกอาชีพและทหาร แต่หากบุคคลผู้นั้นแม้เป็นจอมพลถ้าไม่มีวินัยทำผิดกฎหมายก็ไม่มีศักดิ์ศรี แต่ที่สำคัญที่สุดแม้พรรคประชาธิปัตย์จะเล่นการเมืองข้างถนนก็เล่นการเมืองข้างประชาชน และไม่เคยเรียกค่าคุ้มครองข้างถนนแน่นอน
รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่กกต.เปิดรับสมัครเลือกตั้งจ.สมุทรสาครอีกครั้งว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 ระบุไว้ว่าพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งระบบเขตจะส่งผู้สมัครได้เพียงคนเดียวในเขตเลือกตั้งนั้น จึงขอตั้งข้อสังเกตว่ากกต.จะรับสมัครผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยอีกหรือไม่ เพราะหากพรรคไทยรักไทยสามารถส่งผู้สมัครได้อีกเท่ากับได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น โดยสามารถส่งผู้สมัครได้ 2 คนในห้วงเวลาที่มีพระราชกฎษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งหากกกต.อ้างว่าตีกฎหมายไม่ออกตีกฎหมายไม่เป็นก็เข้าข่ายปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ดังนั้นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขต 3 สมุทรสาครมีสิทธิ์ที่จะร้องต่อกกต.และสามารถฟ้องศาลได้ว่า กกต.น่าจะช่วยเหลือเพื่อให้การเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.มีส.ส.ครบ 500 คนเพื่อให้พรรคใหญ่เลือกนายกฯได้ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเคยมีตัวอย่างเกิดขึ้นมาแล้ว ในการเลือกตั้งปี2544 โดยหัวหน้าพรรคชาติไทยส่งรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง 2 คน ซึ่งกกต.วินิจฉัยให้ส่งได้เพียงคนเดียว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23 มี.ค. 2549--จบ--