การจัดอันความน่าเชื่อถือของประเทศไทยโดยบริษัท Moody’s Investors Service

กระทรวงการคลังขอเรียนว่า Moody’s Investors Service ได้ปรับวิธีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสำหรับ Foreign-currency country ceiling สำหรับตราสารหนี้ระยะยาวและระยะสั้นของประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยใหม่ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2549 โดยให้น้ำหนักในเรื่องความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้และการหยุดพักชำระหนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้น (A moratorium on foreign-currency external payments) ซึ่งผลจากการปรับวิธีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าว ทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยปรับเพิ่มขึ้น โดยอันดับความน่าเชื่อถือสำหรับ Foreign-currency country ceiling เพิ่มขึ้นจาก Baa1 เป็น A3 และคงอันดับความน่าเชื่อถือสำหรับหนี้ระยะสั้น (Short-term ceiling) ไว้ที่ระดับเดิม คือ P-2
กระทรวงการคลังขอเรียนว่า อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ได้ปรับเพิ่มขึ้นจากการปรับวิธีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือใหม่ของ Moody’s แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลของ Moody’s ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งด้านต่างประเทศและสถานะทางการคลังของประเทศไทย
อนึ่ง ประเทศในเอเชียที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นจากผลของการเปลี่ยนแปลงวิธีการประเมินเครดิตดังกล่าว ได้แก่ ฮ่องกง (ปรับเพิ่มจาก A1 เป็น Aa1) อินเดีย (ปรับเพิ่มจาก Baa3 เป็น Baa2) เกาหลี (ปรับเพิ่มจาก A3 เป็น A1) ฟิลิปปินส์ (ปรับเพิ่มจาก B1 เป็น Ba3) และอินโดนีเซีย (ปรับเพิ่มจาก B1 เป็น Ba3) ส่วนประเทศจีนและมาเลเชียยังคงได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับเดิม คือ A2 และ A3 ตามลำดับ
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 50/2549 25พฤษภาคม 49--