สถานการณ์การค้าในปี 2548 ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ปรับเป้าการส่งออกให้สูงขึ้น โดยคาดว่ามูลค่าการส่งออกรวมทั้งปี 2548 น่าจะมีมูลค่าการส่งออกไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามยังต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆด้านประกอบกันด้วย โดยปัจจัยด้านบวก ประกอบด้วย ราคาสินค้าเกษตรกรรมโดยเฉพาะข้าวและยางพาราที่ยังคงมีแนวโน้มที่ดี การเปิดตลาดการค้าของทางรัฐบาลในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะตลาดใหม่ๆ เช่นตลาดจีน รวมทั้งตลาดในประเทศตะวันออกกลาง , การจัดทำเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่างๆ เป็นต้น
สำหรับปัจจัยด้านลบ มีด้วยกันหลายปัจจัย โดยปัจจัยที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือปัญหาเรื่องค่าเงินบาทที่มีการแข็งค่าขึ้นมากทำให้กระทบต่อต้นทุนของผู้ส่งออกในระดับหนึ่ง หากแนวโน้มเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้การส่งออกของไทยไม่สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยลบด้านอื่นๆ ก็มีเช่น ภาวะราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาค่าเงินหยวน เป็นต้น
การลงทุน
การลงทุนที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในปี 2547 คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 400,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในปี 2546 ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนเพียง 283,800 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาในหมวดของการเข้ามาลงทุน พบว่าในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2547 ประเภทกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดคือ หมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีเงินลงทุน 90,000 ล้านบาท รองลงมาคือหมวดเคมี กระดาษและพลาสติก มีเงินลงทุน 81,100 ล้านบาทหมวดโลหะและอุปกรณ์ มีเงินลงทุน 66,700 ล้านบาท หมวดบริการ 65,400 ล้านบาท หมวดเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร 50,700 ล้านบาท หมวดเหมืองแร่ เซรามิกส์ และโลหะ 22,800 ล้านบาท และหมวดอุตสาหกรรมเบาและ สิ่งทอ 15,200 ล้านบาท
สำหรับแหล่งลงทุนในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2547 พบว่านักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น มีการลงทุนมากที่สุดโดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 317 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 99,353 ล้านบาท รองลงมาคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 36 โครงการ 29,850 ล้านบาท เนเธอร์แลนด์ 13 โครงการเป็นเงินลงทุน 14,568 ล้านบาท ฮ่องกง 22 โครงการ เป็นเงินลงทุน 14,266 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
สำหรับปัจจัยด้านลบ มีด้วยกันหลายปัจจัย โดยปัจจัยที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือปัญหาเรื่องค่าเงินบาทที่มีการแข็งค่าขึ้นมากทำให้กระทบต่อต้นทุนของผู้ส่งออกในระดับหนึ่ง หากแนวโน้มเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้การส่งออกของไทยไม่สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยลบด้านอื่นๆ ก็มีเช่น ภาวะราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาค่าเงินหยวน เป็นต้น
การลงทุน
การลงทุนที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในปี 2547 คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 400,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในปี 2546 ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนเพียง 283,800 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาในหมวดของการเข้ามาลงทุน พบว่าในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2547 ประเภทกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดคือ หมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีเงินลงทุน 90,000 ล้านบาท รองลงมาคือหมวดเคมี กระดาษและพลาสติก มีเงินลงทุน 81,100 ล้านบาทหมวดโลหะและอุปกรณ์ มีเงินลงทุน 66,700 ล้านบาท หมวดบริการ 65,400 ล้านบาท หมวดเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร 50,700 ล้านบาท หมวดเหมืองแร่ เซรามิกส์ และโลหะ 22,800 ล้านบาท และหมวดอุตสาหกรรมเบาและ สิ่งทอ 15,200 ล้านบาท
สำหรับแหล่งลงทุนในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2547 พบว่านักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น มีการลงทุนมากที่สุดโดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 317 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 99,353 ล้านบาท รองลงมาคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 36 โครงการ 29,850 ล้านบาท เนเธอร์แลนด์ 13 โครงการเป็นเงินลงทุน 14,568 ล้านบาท ฮ่องกง 22 โครงการ เป็นเงินลงทุน 14,266 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-