พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 17-23 เมษายน 2549

ข่าวทั่วไป Tuesday April 18, 2006 07:48 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วันจันทร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 46/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 17 -23 เมษายน 2549
ในวันที่ 17-18 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น สำหรับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ในช่วงวันที่ 19-21 เม.ย. จะเกิดแนวพัดสอบเข้าหากันของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พาดผ่านบริเวณประเทศไทยตอนบนทำให้มีฝนฟ้าคะนองและ ลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ ส่วนภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวผ่านภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 22-23 เม.ย. สภาวะอากาศบริเวณประเทศไทยตอนบนจะเข้าสู่สภาวะปกติโดยมีอากาศร้อนและมีลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 19-22 เม.ย. ภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น ขอให้ประชาชนระมัดระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ลาดเชิงเขาของพื้นที่เสี่ยงภัยในระยะนี้ไว้ด้วย
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากในช่วงวันที่ 19-21 เม.ย.
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากในช่วงวันที่ 19-21 เม.ย. ในช่วงวันที่ 19-21 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจายกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับผลผลิตที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวเพื่อป้องกันความเสียหาย นอกจากนี้ควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการฉีกหักและโค่นล้ม
ตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เนื่องจากในช่วงนี้บางพื้นที่มีฝนตกน้อย เกษตรกรควรชะลอปลูกพืช ในช่วงนี้ไปก่อน รอจนมีฝนตกเพียงพอแล้วค่อยลงมือปลูก ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน เพื่อป้องกันสัตว์เครียด อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้ง่าย
กลาง
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ และ ลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ และ ลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรมั่นสังเกตหากพบสัตว์ป่วยควรแยกออกจากกลุ่ม และรีบรักษา นอกจากนี้ควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างพอเพียง โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผลหากขาดน้ำจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต
ตะวันออก
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่งส่วนมากในช่วงวันที่ 19-21 เม.ย. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่งส่วนมากในช่วงวันที่ 19-21 เม.ย. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. พื้นที่ซึ่งมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง รวมทั้งควรค้ำยันและผูกยึดกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการหักโค่นเมื่อลมพัดแรง นอกจากนี้ควรให้น้ำแก่ไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผลอย่างพอเพียง
ใต้
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-22 เม.ย. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40 % ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-22 เม.ย. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-22 เม.ย. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40 % ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-22 เม.ย. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล สำหรับสวนยางพาราซึ่งอยู่ในบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรดูแลสภาพสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา นอกจากนี้ควรกำจัดวัชพืชเพื่อป้องกันการแย่งน้ำและอาหารจากพืชที่ปลูก อนึ่ง ในช่วงวันที่ 19-22 เม.ย. คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ