อัญมณีและเครื่องประดับไทยสู้มาเลเซียได้ในตลาดญี่ปุ่น

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 14, 2006 13:46 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  เปิดเผยว่า  ขณะนี้ญี่ปุ่นและมาเลเซียได้บรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกันได้แล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2549   ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงจะยกเลิกภาษีสินค้าที่มีการค้าระหว่างกันร้อยละ 97 เพื่อส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตร  ประมง   ป่าไม้ และสินค้าอุตสาหกรรม  โดยญี่ปุ่นจะลดภาษีให้มาเลเซียหลายรูปแบบ ทั้งลดภาษีทันทีและทยอยลด ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ เช่น อัตราการลด  ระยะเวลาการลด  ประเภทสินค้า รวมทั้งยังมีสินค้าบางรายการที่ไม่รวมอยู่ในตารางการลดภาษี
ในขณะที่ไทยยังไม่สามารถทำความตกลงเขตการค้าเสรีกับญี่ปุ่นได้ การลงนามความตกลงฯ ระหว่างญี่ปุ่นและมาเลเซียครั้งนี้ ได้ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยกับมาเลเซียในตลาดญี่ปุ่น โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากคือ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เนื่องจากญี่ปุ่นเก็บอัตราภาษีนำเข้าสินค้านี้อยู่ที่ร้อยละ 0-12.8 หากญี่ปุ่นลดภาษีสินค้านี้ให้มาเลเซียเหลือ 0 จะส่งผลให้ไทยเสียเปรียบ สำหรับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยได้รับผลกระทบปานกลาง เนื่องจากญี่ปุ่นเก็บอัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 0-5.4 แต่ไทยยังคงสามารถแข่งขันกับมาเลเซียได้ เพราะญี่ปุ่นนำเข้าสินค้านี้จากไทยเป็นอันดับ 5 และนำเข้าจากมาเลเซียอันดับที่ 34 ส่วนสินค้ากุ้งแช่แข็ง ได้รับผลกระทบเล็กน้อย สำหรับเครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้าและยางแผ่นรมควัน เป็นสินค้าที่ญี่ปุ่นมีอัตราภาษีเป็น 0 อยู่แล้วจึงไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
แม้ความตกลงการค้าเสรีของสองประเทศจะส่งผลกระทบกับความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยอยู่บ้าง แต่หากเราเร่งพัฒนาคุณภาพและพยายามขยายโอกาสจากสินค้าที่เราได้เปรียบก็เชื่อได้ว่าสินค้าไทยยังคงสามารถเติบโตได้ในตลาดญี่ปุ่น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ